หมู่บ้านกลางหุบเขาที่อยู่ในตัวเมืองตรัง มีต้นไม้ขนาด 15 คนโอบ และเมนูสุขภาพที่ตอบโจทย์เมืองคนช่างกิน ที่ “บ้านเขาหลัก” หมู่บ้านท่องเที่ยวชนบทในการจัดการอย่างยั่งยืนอันดับที่ 3 ของระดับประเทศ
ที่บ้านเขาหลัก ม.7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง ลุงจุ้ย หรือ นายคล่อง กูลเมือง อายุ 60 ปี รับหน้าที่เป็นไกด์นำทางพร้อมด้วยชาวบ้าน นำคณะนั่งรถมอเตอร์ไซค์ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร เดินทางขึ้นไปบนเขา เพื่อทำการบวชป่า ซึ่งทำกันทุกปีนับตั้งแต่ปี 2540 จากนั้นต้องลงเดินเท้า ผ่านลำธารน้ำใส เย็นสบาย
บวชป่า สัมผัสธรรมชาติหน้าฝน
“บวชป่า” เป็นความเชื่อความศรัทธาและเห็นคุณค่าของป่าไม้ที่สำคัญเพื่อยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่าและต่ออายุให้กับต้นไม้ และที่นี่ เมื่อช่วยกันดูแลป่าแล้วก็ยังได้ประโยชน์จากป่ามากมาย เช่น ลูกไฟกา ที่เป็นผลไม้ป่าหายากมีให้กินแค่ปีละครั้ง สะตอ, หน่อไม้, ลูกเนียง และลูกกรวด ซึ่งเป็นผลไม้หายากและมีลักษณะพิเศษ คือ จะมีลูกอยู่ที่รากของต้น ผลจะคล้ายกับลูกมะเดื่อ แต่มีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว แม้แต่ในลำธารที่ใสสะอาดก็ยังมีปลาอาศัยอยู่หลายชนิดอีกด้วย
ทริปนี้ ลุงจุ้ย ได้นำมาบวชต้นยางนา ที่มีขนาดเท่า 15 คนโอบ และมีอายุมากกว่า 200 ปี ในระหว่างทางที่เดินไปบวชป่า ก็ได้พบสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ของป่าดิบชื้นภาคใต้ซึ่งเป็นแนวเทือกเขาบรรทัด เช่น กิ้งกือป่า ร่องรอยหมูป่า และพรรณไม้นานาชนิด เห็ดที่ขึ้นตามซอกไม้ต่าง ๆ อาทิ เห็ดหลินจือสีดำ ต่อมาได้เดินทางไปต่อยังถ้ำเงาะ ตามเรื่องเล่าหมู่บ้านว่า ในอดีตเป็นถ้ำที่มีชนเผ่าซาไก (กลุ่มชาติพันธุ์มันนิ) เคยมาพักอาศัยที่นี่จำนวน 11 คนด้วยกัน แต่ตอนนี้ได้ย้ายถิ่นฐานไปที่อื่นแล้ว ลักษณะของถ้ำมีหินคล้ายรูปช้าง บริเวณหน้าถ้ำพบว่ามีลำธารไหลผ่าน สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติที่แท้จริง อากาศ บริสุทธิ์และความอุดมสมบูรณ์ สำหรับภารกิจบวชป่าใช้ระยะทางในการไป-กลับ 12 กิโลเมตร
กิจกรรมบวชป่า มีให้เลือกหลายเส้นทางแบบสายชิลล์ จะมาที่บริเวณแถวน้ำตกเขาหลัก หรือ อีกแห่งจะขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากเข้าไปบวชป่าบนยอดเขาที่ผ่านลำธาร พืช สัตว์ที่มีความหลากหลายอุดมสมบูรณ์ก็ได้ ช่วยให้ได้ฟอกปอด และยังทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ ได้เรียนรู้ถึงการอนุรักษ์ป่าที่มีชีวิต ที่ชาวบ้านชุมชนแห่งนี้ทำกันมายาวนาน
เมนูท้องถิ่น กินให้มีสุขภาพดี
เมื่อลงมาพื้นราบได้แวะชมการปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงไก่ดำ ด้วยสมุนไพร 5 ชนิด โดยมีตั้งแต่การฟักไข่ ลูกไก่ ไก่หนุ่ม พ่อแม่พันธุ์ไก่ดำ ที่ทางชุมชนบ้านเขาหลักได้มีการผสมไก่ดำเองเพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ทนต่อโรค เนื้อเยอะ ตัวโต เลี้ยงง่าย จากนั้นก็ถึงเวลาชิมเมนูไก่ดำ มีทั้ง แกงไก่ดำหยวกกล้วย แกงไก่ดำหน่อข่า ไก่ดำตุ๋นยาจีน น้ำพริกผักกูดลวกจิ้ม ฯลฯ
ไก่ดำบ้านเขาหลัก เกิดจากการผสมสายพันธุ์กับไก่ดำ 4 สายพันธุ์คือพันธุ์มองโก,พันธุ์อินโด พันธุ์ยูนานและพันธุ์เคยู จำนวน 80 ตัว มาผสมกัน จนได้ออกมาเป็นไก่ดำพันธุ์เขาหลัก ที่มีลักษณะสีดำทั้ง 8 อย่างคือ เนื้อดำ กระดูก หงอน เล็บ ขา หน้า ปาก และลิ้นสีดำ แต่ขนไม่จำเป็นต้องดำ นิสัยไม่ดุร้าย เลี้ยงง่าย ทนโรคและโตเร็ว ซึ่งไก่ดำบ้านเขาหลัก นอกจากจะให้อาหารโปรตีนสำหรับไก่ทั่วไปแล้ว ยังเลี้ยงแบบปล่อยเพื่อให้ไก่มีสุขภาพดี ให้สมุนไพรทั้ง 5 ชนิด เช่น ฟ้าทลายโจร บอระเพ็ด ขมิ้นชัน กวาวเครือดำและกระชายดำ เพื่อให้ไก่มีสุขภาพดี ปลอดภัยจากโรค ขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท หรือตัวละประมาณ 400-500 บาท
ล่องแก่งหิน ฟินกับเรื่องเล่าในตำนาน
กิจกรรมช่วงบ่ายได้ไปล่องแก่งเขาหลัก ด้วยการพายเรือคายัคกันต่อ ระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลารอบละประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ล่องจากต้นน้ำป่าเขาหลัก บริเวณคลองเขาสูงไปสู่คลองลำชอน และคลองลำภูราก่อนออกสู่แม่น้ำตรัง ซึ่งตลอดเส้นทางได้สัมผัสกับความสวยงามตามธรรมชาติ ทั้งป่าไม้น้อยใหญ่นานาชนิด หรือโขดหินขนาดต่าง ๆ ที่มีลักษณะเหมือนกับล่องเรือผ่านทะลุไป ขณะที่น้ำในคลองก็ใส และสะอาดมาก มีจุดพักให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำได้ ซึ่งเส้นทางที่ผ่านแก่งหินต่าง ๆ ลุงจุ้ย ไกด์นำทางได้เล่าตำนานประวัติความเป็นมาของล่องหินแห่งนี้ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวได้ฟังอีกด้วย สร้างความสนุกสุดฟิน และประทับใจเป็นอย่างมาก
อร่อย สนุก สุขภาพดี
ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง
ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง ผู้ร่วมเดินทาง บอกว่า “สำหรับวันนี้ที่เรามาทำกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยว รู้สึกว่าได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง โดยกิจกรรมบวชป่านั้นถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตรังยุทธจักรแห่งความอร่อย 9 มื้อเด็ดเสร็จที่ตรัง โดยเฉพาะที่หมู่บ้านเขาหลัก ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีไก่ดำสมุนไพร 5 ชนิด เลี้ยงไก่ดำ ด้วยธรรมชาติที่มีป่าต้นน้ำ อากาศดีที่สุด ในจังหวัดตรัง และที่นี่ยังได้รับรางวัล ในเรื่องหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบทอย่างรับผิดชอบในการจัดการอย่างยั่งยืนอันดับที่ 3 ของระดับประเทศ ยิ่งเที่ยวยิ่งฟิน ยิ่งเที่ยวยิ่ง fun ยิ่งเที่ยวยิ่งมีความสุข ยิ่งเที่ยวยิ่งสมดุล”
ปี 2563 ททท. ได้ร่วมกับ 40 องค์กรจัดการประกวดสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท เพื่อยกระดับแบรนด์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทยพร้อมขยายผลสร้างการรับรู้ระดับนานาชาติส่งเสริมด้านการตลาดสร้างความเชื่อมั่นและสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนล่องแก่งบ้านเขาหลัก จังหวัดตรัง ได้รับเลือกในสาขาหมู่บ้านท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Best Responsible Tourism)
สร้างเศรษฐกิจชุมชน จากการท่องเที่ยว
กิจกรรมบวชป่าจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 590 บาทรวมอาหารเที่ยง 1 มื้อ ในส่วนของล่องแก่งมีเรือคายัคทั้งหมด 45 ลำ หรือรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณรอบละ 100-120 คน คิดค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 200 บาท และเด็กคนละ 100 บาท พร้อมหมวกกันน็อก และเสื้อชูชีพ ซึ่งหากนักท่องเที่ยวรายใดพายเรือคายัคไม่เป็น ก็จะมีสตาฟคอยดูแลความปลอดภัยโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ที่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ราคาหัวละ 150-250 บาท ห้องสามารถรองรับได้ประมาณ 4-9 คน ตลอดจนร้านอาหาร และสินค้าที่ระลึกไว้บริการนักท่องเที่ยวแบบครบครัน
โดยรายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวก็นำมาแบ่งปันให้กับนักเรียน นักศึกษา คนชรา ช่วยสร้างรายได้เสริมกระจายรายได้ให้กับสมาชิกในชุมชน ที่นี่ยังมีโฮมสเตย์ การบริการนำเที่ยวโดยชาวบ้านในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทาง และการพายเรือคายัคล่องแก่งเขาหลัก มีเมนูสุขภาพอย่าง ไก่ดำหยวกกล้วย ไก่ดำหน่อไม้ ไก่ดำหน่อข่า ไก่ดำตุ๋นยาจีน แบบอาหารไทย แบบมุสลิม มีการส่งเสริมให้คนในชุมชนปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ผักริมรั้วที่ปลอดสารเคมี 100% และยังมีกลุ่มเลี้ยงแพะ กลุ่มทำกล้วยฉาบหิน เป็นต้น รวมถึงเรื่องการจัดการป่า เพื่อทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- อนาคตเศรษฐกิจตรังกับเมืองคนช่างกิน
- เมื่อ “หมูย่าง” ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้าย แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของการยกระดับอาหารตรัง
- พีมูฟตรัง-สตูล-ประจวบฯ คืบหน้าแก้ปมที่ดิน ทส. พัฒนาคุณภาพชีวิต ระหว่างรออนุบัญญัติ
เรื่องและภาพ : จำนง ศรีนคร
เรียบเรียงเนื้อหา : กองบรรณาธิการแลต๊ะแลใต้
author
