อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ชัยวัฒน์และพวก ข้อหาร่วมกันฆ่าบิลลี่

อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ชัยวัฒน์และพวก ข้อหาร่วมกันฆ่าบิลลี่

วันนี้(15 ส.ค. 65) สำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและกระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อกรณีการหายตัวไปของ “บิลลี่” หรือ “พอละจี รักจงเจริญ ” นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 17 เม.ย. พ.ศ.2557

โดยอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตายและร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะมาให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ชัยวัฒน์” และพวกรวม 4 คน เข้ามอบตัวที่ดีเอสไอ หลังศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลางอนุมัติหมายจับ ปี 2562 ขอบคุณภาพจากไทยพีบีเอส

นาย เกรียงไกร ชีช่วง ตัวแทนจากเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี ซึ่งได้เป็นตัวแทนคนในพื้นติดตามความคืบหน้าคดีนี้มาโดยตลอด กล่าวว่าเห็นถึงความหวังที่จะคืนความเป็นธรรมให้บิลลี่ และมีความหวังมากขึ้นที่เห็นคดีมีความคืบหน้า และกล่าวขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะว่าบิลลี่ได้หายตัวไปกว่า 8 ปีแล้ว ด้วยความยาวนานของคดีก็นำมาซึ่งความเสียใจและความสูญเสียต่อครอบครัวญาติมิตรของบิลลี่และคนในพื้นที่มาโดยตลอด ทางเครือข่ายและเพื่อพ้องของบิลลี่ก็จะติดตามความคืบหน้าในคดีต่อไป

ขอบคุณภาพจากทีมสื่อพลเมือง

สรุปเรื่องราวคดีของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

ชุมชนกะเหรี่ยงใจแผ่นดินปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าอยู่อาศัยในพื้นที่อย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ.2455 ตามข้อมูลของกรมแผนที่ทหารและถูกแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประกาศทับพื้นที่ชุมชนเมื่อ พ.ศ.2524

  • พ.ศ.2539 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าอพยพชาวบ้านกว่า 57 ครอบครัว มาอยู่ที่หมู่บ้านจัดตั้งใหม่หรือบริเวณบ้านโป่งลึกและบ้านบางกลอย ในพื้นที่ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี แต่เมื่อไม่สามารถเพาะปลูกข้าวและพืชอาหารตามระบบไร่หมุนเวียนเช่นเดิมได้ บางส่วนจึงจำเป็นต้องย้ายกลับขึ้นไปยังบ้านใจแผ่นดิน
  • พ.ศ.2553-2554 หน่วยงานรัฐภายใต้ “ยุทธการตะนาวศรี” ได้เข้าปฏิบัติการจนเกิดภาพความรุนแรงปรากฎสู่สาธารณะจนเป็นประเด็นถกเถียงอย่างเข้มข้นในสังคม โดยเฉพาะภาพของการเผาทำลายบ้านและยุ้งฉางข้าว การจับกุมดำเนินคดี
  • 17 เม.ย.2557 การหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งบ้านบางกลอย หลังจากถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ด่านเขามะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเจ้าหน้าที่อุทยานซึ่งระบุว่า พวกเขาควบคุมตัวบิลลี่ไว้เนื่องจาก “การมีไว้ในครอบครองซึ่งน้ำผึ้งป่าอย่างผิดกฎหมาย” แต่ได้ปล่อยตัวเขาไปในวันนั้น ชาวบ้านได้ออกค้นหาแต่ก็ไม่เจอตัวบิลลี่ ทางผู้ใหญ่บ้านบางกลอยเข้าแจ้งความคนหาย ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน
  • 21 เม.ย.2557 น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ พร้อมผู้แทนชาวกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผบภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งนายชัยวัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาว่ากักขังหน่วงเหนียวบิลลี่ ยอมรับว่ามีการควบคุมตัวบิลลี่จริง แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว โดยมีน้องสาวบิลลี่เห็นบิลลี่ภายหลังปล่อยตัว
  • 24 เม.ย.2557 ภรรยาของบิลลี่ พร้อมทนายยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 โดยถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเชื่อว่าบิลลี่ยังคงถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน
  • 2 ก.ย.2557 ศาลฏีกายกคำร้องในคดีอดีตหัวหน้าหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานที่ถูกกล่าวหา ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 ควบคุมตัวบิลลี่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
  • 16 ม.ค.2560 ดีเอสไอ แจ้งต่อภรรยาของบิลลี่ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติไม่รับกรณีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ  ภรรยาของบิลลี่จึงยื่นเรื่องอุธรณ์ต่อ
  • 28 มิ.ย.2561 ดีเอสไอได้รับคดีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ และเริ่มสอบสวนเมื่อปลายเดือน มิ.ย.2561
  • พ.ค.2562 ดีเอสไอ ลงพื้นที่อุทยานฯ แก่งกระจาน พบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ เหล็กเส้น และถังน้ำมัน 200 ลิตร ใกล้สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเขตอุทยานฯ แก่งกระจาน
  • 27 ส.ค.2562 ภรรยาของบิลลี่ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลสั่งให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญ โดยมีพยานหลักฐานน่าเชื่อถือได้ว่าบิลลี่ถูกบังคับให้หายสาบสูญโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากหายตัวไป 5 ปี
  • 3 ก.ย.2562 ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าคดี ระบุว่าพบหลักฐานสำคัญชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์และกะโหลกที่อยู่ภายในถังน้ำมัน ยืนยันว่าผลดีเอ็นเอตรงกับ “บิลลี่”
  • 11 พ.ย.2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • 23 ม.ค. 2563 สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานคดีพิเศษ แจ้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดตามข้อกล่าวหาโดยออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-3 เฉพาะความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • 27 มกราคม 2563 ภรรยาบิลลี่ได้เข้ามาร่วมรับฟังการชี้แจงของสำนักงานอัยการสูงสุด และได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ชี้แจงเหตุผลที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์เป็นลายลักษณ์อักษร
  • 11 ส.ค. 2563 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจภรรยาบิลลี่ และให้เชื่อมั่นในการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และหลังจากนั้นดีเอสไอมีความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อเดินหน้าคดีต่อไป
  • 26 มี.ค. 2564 คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีมติให้ปลด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยการเผาทำทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านบางกลอยในป่าแก่งประจาน
  • 9 ก.ย. 2564 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และลงพื้นที่แจ้งผลการดำเนินงานให้กับภรรยาของบิลลี่
  • 27 ก.ค. 2565 ศาลปกครองเพชรบุรีเพิ่งมีคำสั่งทุเลาบังคับคดีให้กลับเข้ารับราชการของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ไว้ก่อน ด้วยเหตุอันควรสงสัยว่าคำสั่งที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • 15 ส.ค. 2565 สำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
บิลลี่และครอบครัว : ขอบคุณภาพ FB น้อย เปอโผล่ว สัจจะ อหิงสา

อ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

กางแผนที่ “ใจแผ่นดิน”ในความทรงจำ เปิดเหตุผลกะเหรี่ยงบางกลอย…ทำไมต้องกลับแผ่นดินแม่ :
https://thecitizen.plus/node/40599

ความในใจภรรยาบิลลี่ หลัง 1 ปีเต็มกับการรอคอย : https://thecitizen.plus/node/9650


“ทุเรียน … ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า” เปิดหลักฐาน กลางใจแผ่นดิน : https://thecitizen.plus/node/40740

เสียงจากเพื่อนบิลลี่ : วิถีคนอยู่กับป่าชะตากรรมร่วมของเผ่าพันธุ์ : https://thecitizen.plus/node/12042

เครือข่ายนักวิชาการเสนอฟื้นฟูชีวิตคนบางกลอยบนฐานข้อเท็จจริง “ชนชาติพันธุ์ใดในสังคมไทย ย่อมต้องถูกคุ้มครองปกป้องอย่างเสมอภาค” : https://thecitizen.plus/node/40953

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ