22 พ.ค. 2559 กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ออกแถลงการณ์ ขอให้ทหารหยุดคุกคามชาวบ้านที่ต่อสู้คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ของบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน)
สืบเนื่องเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (21 พ.ค. 59) เวลา 10.50 น. มีชาย 4 คนแต่งกายด้วยชุดลายพรางคล้ายทหาร พร้อมผู้ใหญ่บ้านเพชร หมู่ 2 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เดินทางด้วยรถกะบะสีบอรนซ์สี่ประตูและรถเก๋งหนึ่งคัน ไปพบนายเสมอ เถินมงคล กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ที่บ้านซึ่งขณะนั้นมีเพียงพ่อและน้องสาวของนายเสมออยู่บ้าน เพื่อสอบถามเรื่องการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากคิดว่านายเสมอเป็นแกนนำกลุ่มชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มชายดังกล่าวไม่พบตัวนายเสมอเนื่องจากออกไปทำงาน ทั้งหมดจึงขับรถออกไปหายังที่ทำงานของนายเสมอแต่ก็ไม่พบตัว จากนั้นจึงย้อนกลับมาถ่ายภาพบ้านและน้องสาวของนายเสมออีกครั้งก่อนขับรถออกไป
แถลงการณ์กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ระบุว่า กรณีดังกล่าวคือการข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐครั้งล่าสุดที่รุนแรงมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อใช้ในกิจการเหมืองแร่ โครงการเหมืองแร่โปแตชและเกลือหินของบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) มักถูกเจ้าหน้าที่กดดันห้ามปราม โดยอ้าง มาตรา 44 และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ เมื่อมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่
แถลงการณ์ระบุตัวอย่าง เช่น กรณีทหารอ้าง ม.44 สั่งถอดเสื้อชาวบ้านที่พิมพ์ข้อความคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินบนเสื้อรณรงค์ในเวทีการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีของกิจการเหมืองแร่ฯ (คลิกอ่านข่าว) กรณีทหารสั่งห้ามจัดผ้าป่าสามัคคีซึ่งเป็นกิจกรรมตามประเพณี จนชาวบ้านต้องเปลี่ยนสถานที่จัดงานถึง 3 ครั้ง (คลิกอ่านข่าว) ทั้งยังมีการติดตามข่มขู่จากชายฉกรณ์เพื่อกดดันไม่ให้เจ้าของสถานที่เอกชนอนุญาตให้กลุ่มฯ จัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคีในเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา (คลิกอ่านข่าว)
“แม้แต่การติดป้ายคัดค้านบริเวณจุดต่าง ๆ ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนบุคคลเช่นรั้วบ้านตนเองก็บอกว่าผิดกฎหมาย ในขณะที่ฝ่ายบริษัทฯ สามารถจัดกิจกรรมสนับสนุนเหมืองได้โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่อย่างใด” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ระบุ ด้วยว่า มีการใช้กลไกการปกครองในพื้นที่ข่มเหงจิตใจชาวบ้านซ้ำเติม เช่น ผู้ใหญ่บ้านกำนันในพื้นที่ข่มขู่ชาวบ้านว่าถ้าใครออกมาคัดค้านหรือต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหากมีโครงการใด ๆ ของรัฐเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยภัยแล้งน้ำท่วม เงินกองทุนหมู่บ้านจะไม่ดำเนินการให้กับบุคคลที่ออกมาต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นต้น
จากเหตุการณ์ที่ดำเนินมาตั้งแต่เริ่มมีการผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหินจนถึงขณะนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งและการใช้อำนาจทุกวิถีทาง การวางตัวไม่เป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐ และการไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัว หวาดระแวง คับแค้นใจ และเกิดทัศนะคติที่ไม่ดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างความไม่พอใจไปยังเหมืองโปแตชซึ่งเป็นฉนวนเหตุสำคัญในการริเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ดังนั้นแล้ว หากรัฐบาลที่อ้างว่าจะมาคืนความสุขให้แก่ประชาชน ขอจงได้หยุดการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอันเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับการสร้างความสุข และขอให้วางตัวให้เป็นกลาง ให้ความยุติธรรมกับประชาชน หยุดติดตามและห้ามปรามการแสดงออกซึ่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และสิทธิชุมชนในการปกป้องวิถีชีวิต วิถีชุมชน สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมอันดีงาม อันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
ท้ายที่สุด กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ขอแถลงจุดยืนต่อสู้คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในทุกกรณี และพวกเราทุกคนจะยืนหยัดต่อสู้ไปด้วยกันกับนายเสมอ เถินมงคล แม้ต้องเผชิญสถานการณ์ภายใต้การกดขี่ ข่มขู่ คุกคาม ห้ามปราม หรือมองชาวบ้านเป็นศัตรูต่อความมั่นคงของรัฐ และสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้กับนายทุนถ่านหินที่เจ้าหน้าที่รัฐคอยอุ้มชูก็ตาม เราจะยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายเสมอ เถินมงคลด้วยสองมือเปล่าอย่างสันติธรรม
ทั้งนี้ รายละเอียดแถลงการณ์มีดังนี้