22 เม.ย. 2559 ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จ.อุดรธานี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 24 (มทบ.24) ได้ลงพื้นที่ ต.นาม่วง และ ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เพื่อเข้าพบแกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่เคลื่อนไหวคัดค้านการดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามถึงความเคลื่อนไหว ต่อการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี คำขอประทานบัตรที่ 1-4/2547 ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น ในวันที่ 23 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ณ หอประชุมโรงเรียนโนนสูงพิทยาคาร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ภาพ: เจ้าหน้าที่ทหารเข้าสอบถามข้อมูลแกนนำชาวบ้าน วันนี้ (22 เม.ย. 2559)
เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น. ทหารจาก มทบ.24 ได้เข้าพบแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ ต.นาม่วง 1 จุด จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ได้เดินทางมาพบแกนอนุรักษ์ฯ ต.ห้วยสามพาด อีก 2 จุด โดยบรรยากาศในการพูดคุย เจ้าหน้าที่ทหารพยายามสอบถามว่า วันที่ 23 เม.ย. นี้ ชาวบ้านจะไปกันหรือไม่? ไปกันเท่าไหร่? มีนักศึกษาหรือคนนอกพื้นที่เข้ามาร่วมกับชาวบ้านหรือไม่? โดยเจ้าหน้าที่ทหารยังอ้างอีกว่ามีข้อมูลว่านักศึกษาเข้ามาแฝงตัวในพื้นที่กว่า 200 คน หลังพูดคุยได้มีการถ่ายรูปกับแกนนำชาวบ้านทุกคนที่เข้าพบ
ด้าน มณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีที่ถูกเข้าพบ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ในการที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาปกป้องชุมชนและสิ่งแวดล้อม กลับถูกติดตามตรวจสอบ เข้าหาที่บ้านตลอดเวลาจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่บริษัทเหมืองแร่ที่ไม่รับผิดชอบและเห็นคุณค่าการมีส่วนร่วมของประชาชน กลับไม่ถูกห้ามปรามหรือติเตียนจากหน่วยงานรัฐ
“ชาวบ้านแค่ลุกมาสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดถิ่นฐานตนเอง เราไม่ใช่โจรหรือผู้ร้ายที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมาติดตามคุกคามการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา นายทุนเหมืองแร่ต่างหากที่รัฐต้องไปตรวจสอบ เพราะจะทำโครงการที่มีผลกระทบและละเมิดสิทธิประชาชน ไม่ใช่เอากำลังทหารตำรวจมาปกป้องนายทุนเหมืองแร่ ” นางมณีกล่าว
ภาพ: เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2559 มณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี พร้อมด้วยสมาชิก เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ซึ่งเดินทางมาราชการที่ จ.อุดรธานี
แหล่งข่าวในพื้นที่รายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีคำสั่งเตรียมการจากค่ายทหารในพื้นที่ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้มีการเตรียมโล่ห์ กระบอง และอุปกรณ์สำหรับสลายฝูงชน เพื่อรับมือการประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี คำขอประทานบัตรที่ 1-4/2547 ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น ในวันที่ 23 เม.ย. พ.ศ.2559 เวลา 09.00 – 12.00 น. ที่จะถึงนี้
สำหรับการจัดการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวเป็นไปตามตามมาตรา 88/7 แห่ง พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แร่ (ฉบับที่ 5) ซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ประชาชนในพื้นที่ และผู้มีส่วนได้เสียจะได้มีส่วนร่วมตามขั้นตอนของกฎหมายแร่ เพราะหลังจากนั้นก็จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาให้ความเห็นของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.แร่ และรัฐมนตรีอุตสาหกรรมลงนามในประทานบัตร ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแสดล้อมอุดรฯ ได้ไปยื่นหนังสือที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษาและขอไต่สวนฉุกเฉิน กรณีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย กรณีเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรฯ เนื่องจากเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว โดยล่าสุดศาลปกครองอุดรธานีได้วินิจฉัยพิจารณาคำร้องแล้ว มีความเห็นว่าคำร้องขอของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังไม่มีเหตุผลที่จะต้องไต่สวนฉุกเฉิน ศาลจะนัดอีกฟังผลอีกครั้งก่อนการจัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นฯ (คลิกอ่านข่าว)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เปิดแผน ‘ยุทธการโนนสูง’ ดันประทานบัตร ‘เหมืองโปแตชอุดรธานี’