‘สีสันปอยส่างลอง’ กับประตูสู่การศึกษาของเด็กชาติพันธุ์

‘สีสันปอยส่างลอง’ กับประตูสู่การศึกษาของเด็กชาติพันธุ์

เด็กชายโกนหัว สวมชฎา พอกหน้า เขียนคิ้ว ทาปากแดงสด แต่งตัวอย่างงดงาม ดูราวกับเจ้าชายหรือเทพองค์น้อย ๆ  เหล่านี้คือลูกแก้ว หรือเด็กที่กำลังบรรพชาเป็นสามเณรในพุทธศาสนาตามประเพณีของคนไต หรือไทใหญ่ที่เรียกว่า ประเพณีปอยส่างลอง ပွႆးသၢင်ႇလွင်း หรือบวชลูกแก้ว ซึ่งจัดช่วงฤดูร้อนปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี

การแต่งกายของลูกแก้วหรือเด็กที่กำลังจะบวชนี้มิใช่แค่ความสวยงาม หากแต่แฝงนัยสำคัญ คือการเลียนแบบเมื่อครั้งเจ้าชายสิทธัตถะทรงเครื่องกษัตริย์ บางพื้นที่ให้ลูกแก้วขี่ม้า ซึ่งหมายถึงม้ากัณฐกะ หรือบางแห่งให้สวมแว่นดำ เพื่อเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้มองเห็นสิ่งล่อตายวนใจที่จะทำให้ออกห่างจากความตั้งใจในการบวช

พ่อข่าม แม่ข่าม หรือพ่ออก แม่ออก ภาษาเหนือ แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองไทใหญ่ ใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความอิ่มบุญ จากการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานปอยส่างลอง หรือเรียกว่าเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ เนื่องจากค่าใช้จ่ายของการบวชลูกแก้วแต่ละครั้งน่าจะไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท หลายครอบครัวไม่ได้มีเงินพอที่จะจัด หลังจากการประชุมพูดคุยกันหลายครั้งในชุมชนหรือคณะศรัทธาวัด ก็จะมีคนมาสนับสนุนดูแลส่วนต่างๆ ตลอดการจัดงานกัน 2-3 วัน เช่น เรื่องชุด เรื่องการดูแลแขก ขบวนแห่ โดยมองถึงบุญ มากกว่าเม็ดเงิน เพื่อให้การทำบุญสำเร็จไปได้ด้วยดีในพิธีปอยส่างลอง

หลังจากขบวนแห่ที่มีสีสันสวยงาม ครึกครื้น ด้วยดนตรีของชาติพันธุ์ และรอยยิ้มของญาติมิตร  ลูกแก้วจะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดขาว ก่อนพิธีเข้าอุโบสถเพื่อกล่าวคำขอบวชต่ออุปัชฌาย์ ที่ประชุมสงฆ์ เมื่อได้รับอนุญาต ก็รับจีวรไปห่ม แล้วกลับมารับศีล จึงได้ชื่อว่าเป็นสามเณรโดยสมบูรณ์

จากประเพณี คือประตูสู่การศึกษา

ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นปัจจัยหลักในประเพณีปอยส่างลองแล้ว การบวชก็เป็นส่วนหนึ่งในการเปิดประตูการศึกษาของเด็กและเยาวชนเช่นกัน

พระมหาวรวัตร อภินันโท ผู้ดูแลโครงการสามเณรบวชภาคฤดูร้อน วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เล่าว่า เด็กที่มาบวชที่วัดในช่วงปอยส่างลองมี 2 ส่วน คือเด็กชาติพันธุ์ไทใหญ่ทั่วไป และเด็กที่ไม่ได้รับการศึกษา

ปีนี้มีเด็กชายอายุ 7 -20 ปี จำนวน 99 คน มาร่วมโครงการสามเณรบวชภาคฤดูร้อน ส่วนที่ร่วมเฉพาะส่างลองมี 22 คน ซึ่งเน้นเรื่องความเสมอภาค เท่าเทียมและความหลากหลาย เพราะทางมีม้าให้ลูกแก้ว 50 เชือก ที่ได้รับสนับสนุนจากกรมศาสนาและพ่อข่ามแม่ข่าม  แต่มีเด็กเกินจำนวน

เราใช้วิธีการจับฉลากใครโชคดีก็ได้ม้า ได้แต่งองค์ทรงเครื่องสวยงาม ใครไม่ได้ก็ใส่ชุดนาคสีขาว โดยปกติแล้วหากเป็นส่างลองก็มีกำหนดไว้บวช 3 วัน 5 วัน 7 วัน แล้วก็ลาสิกขาบทไป แต่ถ้าเป็นโครงการก็จะให้ครบ 12 วัน ด้วยความเป็นเด็กเล็กก็อาจจะมีบางคนร้องไห้ อยากกลับไปหาพ่อแม่ครอบครัวบ้าง แต่ทางวัดก็พยายามที่จะหากิจกรรม กลยุทธดึงดูดให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ตลอดระยะเวลาที่กำหนด

12 วันนี้เป็นเหมือนช่วงเรียนรู้เพื่อปรับตัวของเด็กที่มาบวช เป็นการเปิดช่องทางให้เด็กที่เปิดใจรับ เติมทักษะในการคิด เขาจะเห็นโอกาสของตัวเองว่าชาติพันธุ์ซึ่งส่วนหนึ่งกำลังเผชิญปัญหาเรื่องสงคราม ลี้ภัยกันมา หรือเป็นกลุ่มไร้รัฐไร้สัญชาติไม่ได้รับการศึกษา สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้ผ่านการมาเรียนธรรมะ และหากเด็กมีความสนใจที่จะเรียนต่อจะได้พาผู้ปกครองมาพุดคุย พร้อมยืนยันส่งตัวให้เรียนร้อย เด็กเหล่านี้ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการศึกษาขั้นต้นเพื่อให้อ่านออก เขียนได้ เราในฐานนะพระสงฆ์ก็ช่วยดูแลตามหลักของศาสนา ส่วนเรื่องความมั่นคงก็ให้เป็นเรื่องของรัฐในการจัดการ

เด็กที่เข้ามาบวชจะมีทีมงานพระนักสื่อสารอาเซียน มาให้ความรู้แนวทางในการอยู่ในประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ต้องทำอย่างไร หรือการเข้าถึงการศึกษา เพื่อให้มีโอกาสมากขึ้นในอนาคต ทั้งเรื่องบัตรประชาชนหรือสิทธิที่เขาจะได้รับ โดยทางวัดได้มีการจัดการศึกษาให้กับเด็ก มีสำนักเรียนนักธรรมบาลี เมื่อเรียนอ่านออกเขียนได้แล้ว ส่วนหนึ่งก็จะเข้าไปเรียนในศูนย์การเรียนรู้ของวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เพื่อขอรหัส G ให้เด็กสามารถเข้ารับการศึกษาในโรงเรียน หรือจะเรียนทางธรรมก็จะมีนักธรรมตรี โท เอก ก็สามารถเทียบจบป.6 ซึ่งเป็นระบบที่กระทรวงศึกษาธิการรับรองแล้ว ถ้าได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เทียบเท่ากับม.6 ก็สามารถไปเรียนปริญญาตรีต่อได้

ควรจะมองวิกฤตให้เป็นโอกาส ถ้ามองว่ามันเป็นวิกฤต จะกลายเป็นว่าเราตัดปัญหาเด็กที่ต้องการการศึกษาออกไป ตามหลักของพุทธศาสนา ก็เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ศึกษาอยู่แล้ว ถ้ามีผู้นำที่ดี อย่างเจ้าอาวาสพระครูปลัดคุณวัฒน์หรือครูบาน้อย เจ้าคณะปกครอง เปิดโอกาสให้ ก็ทำให้เยาวชนที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา ต่อไปในภายภาคหน้าเด็กเหล่านี้ก็เป็นเณร เป็นพระ สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป หรือถ้าลาสิกขาบทไปก็มีหลักธรรมประจำตน

ขอบคุณภาพและเรื่องราว: ทีมพระนักสื่อสาร พระสร้อย ชญานันโท และวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ