เชียงใหม่/องค์กรคนพิการเชียงใหม่ เดินหน้ารณรงค์การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการ แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ วอนสังคมให้ความสำคัญและการเข้าถึงสิทธิที่พึงจะได้รับ รวมถึงด้านสาธารณูปโภคของกลุ่มคนพิการด้วย.
ชมรมโกลบอลแคมปัสเชียงใหม่ องค์กรคนพิการทางการเคลื่อนไหว ภายใต้มูลนิธิโกลบอลแคมปัสเซส (Global Campuses Foundation) ได้จัดเวทีเสวนาเพื่อรณรงค์การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการและคนทั้งมวลให้แก่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ขึ้น ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งภายในงานมีผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงาน อาทิ นักวิชาการ นักศึกษา เครือข่ายคนพิการทั้ง 5 ประเภทความพิการ และผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงใหม่
ทางด้านนายยุทธพล ดำรงชื่นสกุล ผู้อำนวยการชมรมโกลบอลแคมปัสเชียงใหม่ องค์กรคนพิการทางการเคลื่อนไหว ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการปากั๋นแอ่วกอย คอยสร้างทางเตียว เหลียวมาอู้กั๋น (ป๊ะกั๋นแหมเตื่อ) ปี 2 ว่า "อยากให้คนพิการและผู้สูงอายุได้มีโอกาสออกมาท่องเที่ยวเฉกเช่นคนทั่วไปและส่งเสริมความเข้าใจให้แก่สังคมในด้านความพิการ รับรู้ว่า คนพิการคือส่วนหนึ่งของสังคม มีความรู้สึกนึกคิด มีความต้องการการใช้ชีวิตอย่างอิสระ โดยไร้อุปสรรคในสังคม
โครงการต้องการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกันในมิติต่างๆ ระหว่างคนพิการ องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หลักการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทั้งมวล หรือUniversal Design สำหรับคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นเด็กเยาวชน สตรีมีครรภ์ มารดาที่ใช้รถเข็นเด็กเล็ก ผู้ป่วยชั่วคราว คนพิการ คนชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรไทย จากข้อมูลสำนักงานสำนักงานสถิติแห่งชาติ 2550 ผู้สูงอายุมีจำนวนร้อยละ 11.6 ของประชากรทั้งประเทศและในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรอายุที่มากกว่า 60 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 18% ในปี 2563"นายยุทธพลกล่าว
นายยุทธพลกล่าวต่ออีกว่า "นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จำนวนคนพิการจะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุต่างๆ โรคภัยไข้เจ็บ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงคราม และส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้อยู่ในวัยทำงาน เยาวชน ดังนั้นการออกแบบจึงควรคำนึงถึงคนทุกกลุ่ม จึงจะถือได้ว่าเป็นการออกแบบอย่างมีอารยะภูมิสถาปัตย์ และจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ จะเห็นได้จากการที่นิตยสาร Travel & Leisure ได้ทำแบบสอบถามผู้อ่าน เพื่อมอบรางวัล World"s Best Award 2010 ให้แก่สถานที่ท่องเที่ยวในประเภทต่างๆ โดย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับถึง 2 รางวัลคือ รางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก ในอันดับที่ 2 และ รางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของเอเชีย อันดับที่ 2 เช่นกัน โครงการปากั๋นแอ่วกอย คอยสร้างทางเตียว เหลียวมาอู้กั๋น ปี 2553 ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ อาทิเช่น การปรับสภาพโรงเรือน สวนพฤกษศาสตร์ ห้องน้ำคนพิการสำหรับเป็นต้น และในโครงการปี 2 ยังมุ่งเน้นส่งเสริมการเรียนรู้สังคมองค์รวม การยอมรับความหลากหลาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับคนพิการทั้งในและต่างประเทศ ผู้สูงอายุ การจัดโปรแกรมเส้นทางการท่องเที่ยว"นายยุทธพลกล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการสำรวจสภาพแวดล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกปลอดภัยสำหรับผู้พิการว่า "สถานที่ส่วนใหญ่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน ขาดการคมนาคมขนส่งรองรับผู้พิการ ไม่ได้มีการเตรียมการด้านการออกแบบ ชุมชน ภายนอกและภายในอาคาร เพื่อรองรับสิ่งอำนวยความสะดวกปลอดภัยพื้นฐานสำหรับคนพิการ อย่างเช่นขาดป้ายและสัญลักษณ์ องค์ประกอบถนน ทางสัญจร ทางเท้า ทางลาดขอบถนน ทางข้ามถนนเป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในสังคมที่มีผู้อาศัยอยู่ร่วมกันที่มีความหลากหลายวัย ทุกคนควรมีสิทธิที่จะเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือในชุมชนเอง ควรเตรียมความพร้อมด้านสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับทุกคน ทุกวัยของชุมชนในอนาคตด้วย" ดร.วิฑูรย์กล่าว
นางสาวพัชรินทร์ อินตา ประธานชมรมเพื่อนผู้พิการ กล่าวว่า "ชมรมได้ก่อตั้งกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งทางชมรมได้เล็งเห็นความสำคัญสำหรับผู้พิการที่เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะเราเห็นว่าผู้พิการก็มีสิทธิเท่าเทียมกับคนที่ปกติทั่วไป สามารถเข้าถึงการศึกษา แต่พอเข้ามาศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ต้องคำนึงถึงสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำทางลาด หรือทางเท้า ที่รถเข็นหรือวิวแชร์สามารถใช้ได้อย่างสะดวก รวมไปถึงห้องน้ำสำหรับผู้พิการที่สามารถเข้าใช้โดยไม่ต้องพบเจอกับอุปสรรค์ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเองก็ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญตรงจุดนี้ด้วย
ทางชมรมเพื่อนผู้พิการก็ได้ผลักดันและดำเนินการสร้างทางลาดให้กับเพื่อนผู้พิการของเราในรั้วมหาวิทยาลัยอีกด้วย นอกจากนี้ ทางชมรมยังมีการจัดกิจกรรมนอกพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้กับเพื่อนผู้พิการ อย่างเช่น โรงเรียนสอนคนตาบอด ซึ่งเราได้เผยแพร่ให้เขารู้ว่า ตัวเขาเองก็สามารถที่จะเรียนมหาวิทยาลัยได้ ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้พิการเข้าไปศึกษา เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย" ประธานชมรมเพื่อนผู้พิการกล่าวทิ้งท้าย.
author
