“หลบเรินที่สงขลา” กลับบ้านมาร่วมกันสร้างสรรค์เมือง

“หลบเรินที่สงขลา” กลับบ้านมาร่วมกันสร้างสรรค์เมือง

“หลบเริน” เป็นคำภาษาใต้ที่แปลว่า “กลับบ้าน” แต่การกลับบ้านในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การกลับมาเยี่ยมครอบครัว แต่เป็นการตั้งรกรากใหม่ของชีวิต หลังผ่านช่วงวัยของการเรียนรู้ ทำงาน และเผชิญกับโลกที่ใหญ่กว่าบ้านมาแล้ว อะไรคือสาเหตุที่พวกเขากลับบ้าน และวันนี้ “บ้าน” ของพวกเขามีความพร้อมมากพอที่จะทำให้พวกเขาอยู่ที่นี่ตลอดไปได้หรือยัง บทความนี้ชวนทำความรู้จักการผลิบานในบ้านเกิดผ่านมุมมองของคนที่กลับมาอยู่บ้านแล้ว และคนที่กำลังตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน รวมถึงคนที่ได้มาสัมผัสความเป็นสงขลา ในวันที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเทศการงานออกแบบปักษ์ใต้ 2566 Pakk Taii Design Week 2023 หรือ PTDW2023

หลบเริน แล้วผลิบาน

“มีมายาคติว่าคนกลับบ้านคือผู้พ่ายแพ้ พ่ายแพ้ต่อเมืองหลวง พ่ายแพ้ต่อโลกทุนนิยม ต่องานบางอย่าง หรือพ่ายแพ้ต่อการไขว่คว้า ตะกุยตะกายหาความฝัน แต่พอได้กลับบ้านมาจริง ๆ ผมรู้สึกว่าคนกลับบ้านต้องใจถึง เป็นความกล้าหาญที่จะกลับมาอยู่บ้าน”

เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์
ผู้กำกับหนังสั้น สารคดี

เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ หรือเอก ผู้กำกับหนังสั้น สารคดี และเป็นผู้จัด Singorama Film Festival ที่เป็นส่วนหนึ่งของงเทศการงานออกแบบปักษ์ใต้ 2566 (ปักษ์ใต้ดีไซน์วีค) กำลังถึงช่วงเวลาที่ตัวเองเลือกกลับมาอยู่บ้านเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเป็นการตัดสินใจอีกครั้งสำคัญของเขาและคู่หมั้น

ก่อนจะกลับมาอยู่บ้านผมไม่ได้คิดอะไรเยอะ คิดแค่ว่าจะกลับมาพร้อมคู่หมั้น เพื่อมาหมั้นกัน แล้วต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเอง ผมก็ตัดต่อหนังยาวของตัวเอง คู่หมั้นก็ทำงานนิทรรศการของเขาไป แต่เมื่อลงมาอยู่จริงแล้วคิดว่าหากต้องการจะอยู่ยาว เราต้องมีเพื่อน เลยเริ่มหาเพื่อน ผูกมิตรกับคนแถวนี้ ก็เริ่มมีสังคมขึ้นมา

เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์

“การกลับมาเพื่อตั้งรกราก ค้นหาตัวตนของตัวเอง กลับมาเปิดกล่องสมบัติเก่า ว่าเรามีอะไรอยู่บ้าง แล้วเราจะเอากล่องสมบัติกล่องนี้ หรือทรัพยากรตรงนี้ไปพัฒนาต่ออย่างไร เพราะอีกนัยหนึ่งคือการกลับมาตั้งรกรากที่บ้านของตัวเอง ไม่ได้เป็นความรู้สึกกลับบ้าน แต่เป็นการตั้งรกราก(ชีวิต) ใหม่อีกครั้งหนึ่ง” เอกอธิบายถึงความหมายของคำว่า “หลบเริน แล้วผลิบาน” ตามที่ตัวเองเข้าใจ

เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2566

Pakk Taii Design Week 2023 หรือ PTDW2023 โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในระหว่างวันที่ 12 – 20 สิงหาคม 2566 ที่จังหวัดสงขลา ภายใต้แนวคิด “The Next Spring หลบเริน แล้วผลิบาน” เปิดพื้นที่ให้นักออกแบบนักสร้างสรรค์ชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัดจากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้แสดงศักยภาพ ที่ชวนกันกลับบ้านเพื่อมาร่วมกันค้นหา ตีโจทย์ และเพิ่มคุณค่าให้ทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายของภาคใต้ในบริบทสมัยใหม่ และครั้งนี้ เอก รับหน้าที่ดูแลโปรแกรม Singorama Film Festival ถือเป็นงานครั้งที่ 2 ของตัวเองหลังกลับมาอยู่บ้านด้วย

“Singorama Film Festival เป็นกิจกรรมฉายหนังที่จะมาปลุกพื้นที่ประวัติศาสตร์ในย่านเมืองเก่าตรงนี้ ให้ขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง อยากให้ภาพยนต์เป็นตัวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างยุคสมัยของคนรุ่นก่อนกับคนยุคใหม่ ทำให้โปรแกรมหนังที่นำมาฉายมีความหลากหลาย ทำอย่างไรเพื่อที่จะดึงกลุ่มผู้สูงอายุ(ย่านเมืองเก่า) ออกมาจากบ้านให้ได้ เพื่อจะดูหนัง ขณะเดียวกันก็เป็นหนังที่กลุ่มคนรุ่นใหม่อยากมาดูเหมือนกัน” เอกเล่าถึงเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้

“ลอง” สร้างสรรค์บ้านตัวเอง

“ด้วยทำเลและวัฒนธรรมที่มีอยู่ของสงขลา มีศักยภาพที่ดีมากสำหรับการนำไปต่อยอดได้อีกหลาย ๆ อย่าง คนชอบบอกว่ามีเมืองเก่า คล้ายภูเก็ต ปีนัง แต่อิงมองว่าที่นี่ยังมีวิถีชีวิตเดิมอยู่ ยังมีคนดั้งเดิมอยู่ตรงนี้จริง ๆ แล้วมีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาอยู่ร่วมกัน”

อิงกมล รัตนกาญจน์
ดีไซน์เนอร์

อิงกมล รัตนกาญจน์ หรืออิง ดีไซน์เนอร์ เจ้าของร้านดอกไม้ในเมืองหาดใหญ่ หนึ่งในทีมพาร์ทลอง ในปักษ์ใต้ดีไซน์วีคครั้งนี้ เล่าถึงจุดแข็งสำคัญของย่านเมืองเก่าสงขลาที่เธอสัมผัสได้หลังกลับมาอยู่บ้านได้ 3 ปีแล้ว

อิงกมล รัตนกาญจน์ และเพื่อน ๆ กำลังเตรียมงานปักษ์ใต้ดีไซน์วีค

“งานพาร์ทลอง เป็นการ parody ของเชฟเทเบิ้ล เราต้องการให้อาหารที่เป็นเชฟเทเบิ้ลเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เลยเกิดการ parody นี้ขึ้นมา ส่วนคำว่า “ลอง” มีความพ้องเสียงกับคำว่า “Long table” และอีกความหมายคือการ “ลองทำ” ทำให้เราแตกโปรแกรมออกมา มีทั้ง ลอง Table ลองดู ลองดื่ม และลองทำ เราจะดึงคนที่กลับมาสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง ให้มีพื้นที่แสดงผลงาน ดึงร้านในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม แล้วออกแบบอาหารให้เข้ากับงานนี้”

“เป็นพื้นที่ที่คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสปล่อยของที่เขามี อย่างตอนอิงกลับมาแรก ๆ แล้วพยายามเริ่มทำธุรกิจ ก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนเห็นงานของเราได้บ้าง พอมีงานนี้ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้แสดงศักยภาพตัวเองในบ้านของตัวเอง ถ้าเทียบระหว่างตอนนี้กับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เห็นได้ชัดแล้วว่าบ้านเรามีอะไรให้กลับมาทำแล้วจริง ๆ”

อิงกมล รัตนกาญจน์

“โอกาสที่เราได้ทำอะไรในบ้านตัวเอง สร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ในบ้านตัวเอง มีอะไรแบบนี้ให้ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดความรู้สึกว่าเราอยู่ที่นี่ได้ มีอะไรให้เราได้ทำมากกว่างานประจำ และเพื่อน ๆ ที่ออกไปทำงานต่างจังหวัดก็เริ่มพูดถึงในทางที่ดีว่าอยากกลับมาทำอะไรแบบนี้บ้าง หากปีหน้ามีโอกาสพวกเขาสามารถเข้าร่วมอะไรได้บ้าง”

The Next Spring of Songkhla

“เราเป็นคนกลับบ้านบ่อยมาก ตั้งแต่ขึ้นไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็จะกลับบ้านทุกเทศกาล หรือเป็นช่วงวันหยุดก็จะกลับบ้านตลอด คิดไว้ว่าวันหนึ่งอยากกลับมาทำงานที่บ้านเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าตัวเมืองหาดใหญ่ และสงขลา สามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่างเลย แล้วยิ่งช่วงนี้เพื่อน ๆ ก็เริ่มกลับมาอยู่บ้านกันบ้างแล้ว”

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล
ดีไซน์เนอร์

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล หรือเฟิร์น ดีไซน์เนอร์ชาวหาดใหญ่ ที่ปัจจุบันยังทำงานอยู่กรุงเทพฯ เป็นหลัก และมีโอกาสมีช่วยออกแบบนิทรรศการจีน 5 เหล่า จัดแสดงที่สมาคมฮกเกี้ยนอำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานปักษ์ใต้ดีไซน์วีคครั้งนี้

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล กับโพสเตอร์โปรโมตโปรแกรม Chinese Spring

อยากให้คนรู้สึกว่าตอนที่พวกเขา(บรรพบุรุษชาวจีน) ย้ายมาจากเมืองจีน พวกเขาก็เป็น Next Spring ใน generation ของพวกเขาเหมือนกัน แล้วคนที่มาชมนิทรรศการ โดยเฉพาะคนรุ่นเดียวกับเรา ได้รับความรู้สึกกลับไปว่าตอนนี้เราก็เป็น Next Spring ของ generation ปัจจุบันเหมือนกัน

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล

“เฟิร์นเป็นส่วนหนึ่งของทีมช่วยเรื่องออกแบบนิทรรศการ ทำงานร่วมกับกลุ่ม Sour South เราต้องการสื่อสารกับคนที่มาเยี่ยมชมนิทรรศการว่า “รากของคนจีน” ที่ย้ายมาจากเมืองจีนมาอยู่ในสงขลา มีกลุ่มไหนบ้าง และส่งต่อเรื่องราวของผู้คนที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ว่าพวกเขาทำอะไรกันบ้าง และทำให้เมืองสงขลาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร”

Chinese Spirit จิตวิญญาณ ‘จีน’ ที่ไม่เคยจางหาย

ความเจริญรุ่งเรืองของเมืองสงขลา ก่อร่างสร้างมาจากผู้คนมากมาย หนึ่งในนั้นคือชาวจีนโพ้นทะเล ผู้อพยพหนีความแร้นแค้นมาตั้งรกรากในดินแดนแห่งใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากเป็นหลักพิงให้พ่อแม่พี่น้องที่บ้านเกิด พวกเขาได้เริ่มต้นกิจการ สร้างธุรกิจขึ้นในเมือง ใช้ชีวิต แต่งงานสืบทอดลูกหลาน และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคนสงขลาอย่างแยกไม่ออก หากแต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปเลยคือ สายสัมพันธ์ ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมความเป็นจีนที่ยังคงถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นิทรรศการนี้จะบอกเล่าเรื่องราว ‘จิตวิญญาณ’ ของคนจีนในสงขลา ที่ฝังรากลึกมาตลอดหลายร้อยปี ท่ามกลางความหลากหลายของคนจีนต่างกลุ่มภาษา ต่างวัฒนธรรม ตลอดจนความท้าทายเมื่อต้องเผชิญกับพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

นิทรรศการจิตวิญญาณ ‘จีน’ ที่ไม่เคยจางหาย

“เมื่อก่อนที่มีการรวมตัวกันเป็นสมาคมชาวจีน จะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนั้นเหมือนกันที่พยายามสร้ามคอมมูนิตี้หรือสังคมที่มีความชอบคล้าย ๆ กัน มาขับเคลื่อนเมืองให้ไปด้วยกันได้ จากความถนัดของแต่ละคน เฟิร์นมองว่าคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ที่ออกไปเรียน หรือเติบโตที่ต่างจังหวัด หรือกรุงเทพฯ อยากให้กลับมาผลิบาน หรือร่วมกันทำอะไรที่ช่วยขับเคลื่อนให้หาดใหญ่ และสงขลา เติบโตไปอีกระดับหนึ่งเหมือนกัน”

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล

“ต้นทุนสำคัญคือ “คนในพื้นที่” เพราะคนที่เคยเป็น Next Spring ในยุคก่อนก็เริ่มอายุเยอะขึ้น แล้วหากเรื่องราวทั้งหมดที่เราไปค้นคว้ามาไม่ได้ถูกส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ไปเก็บข้อมูลมา ก็เอามาจัดแสดงนิทรรศการทั้งหมด เราหยิบบางส่วนที่เป็นใจความสำคัญมาส่งต่อ และอยากให้คนเข้ามาเรียนรู้เรื่องความเป็นมาของเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือคนไทยเอง เราก็อยากให้เขาได้มารู้จักพื้นที่ตรงนี้มากขึ้น”

“ตอนนี้เริ่มเห็นช่องทางแล้ว มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่เริ่มกลับ(บ้าน) กันบ้างแล้ว เลยคิดว่าเดี๋ยววันหนึ่งเราก็ต้องได้กลับบ้านเหมือนกัน”

ปีย์วรา ปรีชาวีรกุล

บ้านที่น่าอยู่ ด้วย “ราก” ที่แข็งแรง

“ด้วยแนวคิดและสิ่งที่เกิดขึ้นในกิจกรรมต่าง ๆ ของปักษ์ใต้ดีไซน์วีคทำให้เห็นว่าการเติบโต การผลิบาน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ เหมือนพื้นดินที่มีแร่ธาตุ มีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ผลไม้หรือดอกไม้ที่ผลิดอกออกผลในพื้นที่ต่างกันสามารถสวยงามได้เหมือนกัน และจะงดงามด้วยความแตกต่างอีกด้วย”

นักรบ มูลมานัส
ศิลปิน นักทำภาพประกอบ และนักเขียน

นักรบ มูลมานัส ศิลปิน นักทำภาพประกอบ และนักเขียน ชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่ครั้งนี้ลงมาฝังตัวเก็บข้อมูลในพื้นที่เมืองเก่าสงขลา เพื่อเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ชุมชน ผ่านนิทรรศการ Chinese Spring ฟ้า, ดิน, ถิ่น, บ้าน การเดินทางในระหว่างกลาง

นักรบ มูลมานัส กำลังติดตั้งนิทรรศการของเขาที่บ้านเก้าห้อง เมืองเก่าสงขลา

“ผมได้ทำนิทรรศการที่บอกเล่าคนจีน 5 เหล่า ที่อยู่ในปักษ์ใต้ ประกอบไปด้วยจีนแต้จิ๋ว จีนฮกเกี้ยน จีนไหหลำ จีนกวางตุ้ง และจีนฮากกา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่บทบาทเยอะในภูมิภาคนี้ รวมถึงในประเทศของเรา เราได้ลงมาหาข้อมูลที่นี่(เมืองเก่าสงขลา) ทำเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ของย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นมาก ๆ มีสถาปัตยกรรมดั้งเดิม และประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เมื่อเราเดินในย่านนี้ก็จะเห็นร่องรอยของความเก่าแก่ คนในชุมชนมีความหวงแหน รักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ ขณะเดียวกันก็พร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ออกไป”

“เราเป็นคนนอก มาทำกิจกรรมที่นี่ แต่พบว่าทุกคนยินดีมาก ๆ ที่จะมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวของบ้านเกิดของตัวเอง อย่างครั้งนี้ของผมเป็นโคมไฟ แล้วให้คนสงขลาได้หยิบจับรูปเก่าเมืองสงขลา มาประดิษฐ์เป็นโคมไฟของตัวเอง ก่อนจะนำไปประดับเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ ซึ่งมีคนหลากหลายรุ่นของย่านเมืองเก่าสงขลามาร่วมกันทำ แล้วเกิดบทสนทนาดี ๆ ระหว่างกัน เราก็ได้เกร็ดประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เกิดความสัมพันธ์ดี ๆ ระหว่างที่ได้ทำงานสร้างสรรค์ร่วมกัน”

นิทรรศการ Chinese Spring ฟ้า, ดิน, ถิ่น, บ้าน การเดินทางในระหว่างกลาง

ถ้ามองสงขลาเป็นโมเดล มีพี่ ๆ มีเพื่อน ๆ หลายคนที่ตั้งใจกลับมาเปิดกิจการของตัวเองที่นี่ ซึ่งอยู่ได้อย่างสวยงามและมีคุณค่า ศักยภาพของที่นี่สามารถรองรับสิ่งเหล่านี้ได้ดี และคนก็แฮปปี้ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ได้ทำอะไรอยู่ในบ้านเกิดของตัวเอง

นักรบ มูลมานัส

“เป็นปรากฎการณ์ที่ดีมากเลย ที่ศิลปวัฒนธรรม หรืองานเทศกาลงานออกแบบ ไม่ได้กระจุกอยู่แค่เมืองหลวง(กรุงเทพฯ) อย่างเดียว แต่เรามองว่าแต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ละเมืองจะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกัน การที่งานดีไซน์วีกเกิดขึ้น ทำให้พื้นที่มีความตื่นตัวเรื่องการออกแบบ เรื่องศิลปะ เรื่องความคิดสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่ดีมากที่จะกระจายออกจากศูนย์กลาง แล้วหารสชาติ หาน้ำเสียง หารูปแบบอัตลักษณ์ที่ไม่ได้เหมือนส่วนกลาง เป็นสิ่งที่น่าสนใจและอยากให้เกิดขึ้นทุก ๆ ภูมิภาค ทุกหัวระแหง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในระดับภูมิภาค ระดับจังหวัด หรือระดับอำเภอก็ได้”

ระบบนิเวศนักสร้างสรรค์ แรงจูงใจคนกลับบ้าน

“เราจัดงานขึ้นมาโดยไม่เอารายได้และสปอนเซอร์เป็นศูนย์กลาง แต่เราเอาชุมชนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม งานของ CEA เป็นงานที่ชุมชน นักสร้างสรรค์ได้มาทำงานร่วมกัน เจอกับผู้ประกอบการเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ”

ดร. ชาคริต พิชญางกูร
ผอ.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการคุณเล่า เราขยาย สถานีโทรทัศช่อง Thai PBS ซึ่ง CEA เป็นหน่วยงานที่คอยสนับสนุน และผลักดันให้เกิดพื้นที่ และเวทีสำหรับนักสร้างสรรค์ทั่วประเทส ซึ่งมองว่างานปักษ์ใต้ดีไซน์วีคในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ได้

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ให้สัมภาษณ์ในรายการคุณเล่า เราขยาย ช่อง Thai PBS

“ภารกิจหลัก ๆ ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA คือการผลักดันและส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อยู่แล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 15 สาขา ในส่วนของงานปักษ์ใต้ดีไซน์วีคเป็นการรวมตัวกันของนักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ช่วยกันสร้างผลงาน ทำให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น CEA ทำหน้าที่บ่มเพาะผู้ประกอบการ มีเวทีให้กับคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นทีให้นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ๆ ได้มีโอกาสแสดงผลงาน โชว์ศักยภาพ และได้เชื่อมต่อกับตลาดด้วย ไม่ใช่แค่ความสวยงามอย่างเดียว แต่มีกลุ่มคนที่เข้ามาเพื่อจับจ่ายสินค้า มีนักธุรกิจมาเยี่ยมชมเพื่อนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ หนึ่งตัวอย่างสำคัญก็คืองานปักษ์ใต้ดีไซน์วีคในครั้งนี้”

ป้ายประชาสัมพันธ์งานปักษ์ใต้ดีไซน์วีค ย่านเมืองเก่าสงขลา

โดยงานปักษ์ใต้ดีไซน์วีคได้จัดขึ้นใน 3 พื้นที่หลักในจังหวัดสงขลา ได้แก่ ย่านเมืองเก่าสงขลา ท่าเรือแหลมสน ชุมชนหัวเขา และหาดใหญ่ พร้อมกับการจัดกิจกรรมในจังหวัดอื่น ๆ ของภาคใต้ ได้แก่ ย่านทับเที่ยง จังหวัดตรัง ย่านอา-รมย์-ดี จังหวัดปัตตานี โดยนำเสนอผ่าน 5 คอนเซ็ปต์หลัก ได้แก่

เราอยู่ในช่วงที่ทำเรื่องธุรกิจและเรื่องพัฒนาคนมามากแล้ว ต่อจากนี้ถ้าเราสามารถมีแหล่งทุนจากภาครัฐได้มากขึ้น ก็น่าจะตอบโจทย์การพัฒนาเหล่านี้ เพราะประเทศไทยยังไม่มีกองทุนสร้างสรรค์ ก็คงต้องฝากถึงคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามา

ดร. ชาคริต พิชญางกูร

อาชีพยอดนิยมของแรงงานคืนถิ่น

(1) กลุ่มแรงงานที่เชียวชาญด้านเทคโนโลยี หันมาค้าขายบนช่องทางออนไลน์ การสร้างตัวตนในรูปแบบ Youtuber และหรือบางส่วนก็ใช้ทักษะ Digital Marketing นำเสนอสินค้า หารายได้ผ่านออนไลน์ ด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสของวัตถุดิบท้องถิ่นและสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชน
(2) กลุ่มแรงงานวัยกลางคนที่พอมีทุนทรัพย์ หันมาเป็นผู้ประกอบการ นิยมเปิดร้านอาหาร หรือ Café ขนาดเล็กเน้นสร้างจุดขายที่โดดเด่นในเมืองรอง
(3) กลุ่มแรงงานที่กลับไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากมีที่ดินหรือเคยทำการเกษตรมาก่อน ซึ่งมีบางส่วนนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตด้วย

ที่มา :
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ