ชัยภูมิ : วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เมื่อเวลา 11.00 น. ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านคัดค้านโรงงานน้ำตาลโรงไฟฟ้าชีวมวล อ.เกษตรสมบูรณ์และ อ.หนองบัวแดง ขึ้นป้ายค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังรัฐบาลใหม่ยกเลิกมติ ครม. 2558
นายไพฑูรย์ แสนขยัน อายุ 46 ปี กรรมการกลุ่มฯ กล่าวว่า ตัวแทนกลุ่มได้ร่วมกันขึ้นป้ายคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล และประกาศไม่ยอมรับอีไอเอ ถึงแม้ว่าอีไอเอโรงงานน้ำตาลจะผ่าน (สผ.) แล้ว และได้ใบประกอบกิจการจากกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ทางพี่น้องบ้านโนนสวรรค์ ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์และทางพี่น้อง อ.หนองบัวแดงที่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ยังยืนยันคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล เนื่องจากชุมชนอยู่ใกล้โรงงาน และปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้างก็ก่อให้เกิดผลกระทบแล้ว ซึ่งผมหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะต้องยกเลิก มติ ครม. ปี 2558 และกลับมามองทรัพยากรที่ชุมชนได้พึ่งพาด้วย ตลอดจนชีวิตของพี่น้องจะต้องไม่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรม ที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วย
นายสิริศักดิ์ สะดวก อายุ 43 ปี ผู้ประสานงานคณะกรรมการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล (คปน.อีสาน) กล่าวว่า ผมมองว่าจากกรณีการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อย/วัน และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 32 เมกกะวัตต์ของบริษัท บนพื้นที่ขนาด 1,000 กว่าไร่ ในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์-หนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้น มีพื้นที่หมู่บ้านหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดกับเขตของโรงงาน และประชาชนในพื้นที่ถูกปกปิดข้อมูลข่าวสารของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล และถูกกีดกันการมีส่วนร่วมในเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งสองครั้ง โดยจากการเก็บข้อมูลในพื้นที่พบว่า กว่า 90% ของบ้านโนนสวรรค์ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้มองเห็นว่าโรงงานน้ำตาลได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว เนื่องจากสำนักงานนโยบายแลแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) อนุมัติรายงาน EIA ซึ่งถ้าได้รัฐบาลใหม่ ทางกลุ่มพร้อมจะเข้ายื่นหนังสือและพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อยุติและทบทวนตลอดจน ต้องจัดทำ SEA การประเมินยุทธศาสตร์ทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชาวบ้านพื้นที่ได้กำหนดอนาคตในการพัฒนาของตนเองที่เหมาะสมกับพื้นที่
นายภานุพงศ์ ศรีธนาณุวัฒน์ อายุ 28 ปี กรรมการคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล (คปน.อีสาน) กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีปี 2558 ว่าด้วยเรื่องการสร้างโรงงานน้ำตาลพ่วงโรงไฟฟ้าชีวมวล 58 แห่งในภาคอีสานนั้น เป็นมติที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน โดยที่ไม่ได้ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด อีกทั้งนโยบายนี้เกิดมาจากน้ำมือของเผด็จการในยุคของ คสช. ดังนั้นที่มาของนโยบายไม่ได้มาจากเสียงของประชาชน ตัวนโยบายก็ไม่ได้มีมาเพื่อประชาชน ซ้ำร้ายยังจะส่งผลเสียชั่วลูกชั่วหลาน มติ ครม.ปี 2558 นี้จึงต้องยกเลิกอย่างเร่งด่วนที่สุด