อยากกลับมาอยู่บ้านเพื่อมาปลูกผักสร้างอาหารให้พ่อแม่ได้ทาน แต่พ่อแม่กับมองว่าเราเป็นผู้หญิง ไม่อยากให้เป็นเกษตรกรเพราะมันลำบาก ไม่อยากให้ลูกมาลำบากกับเขาหรือลำบากเหมือนเขา และความดื้อรั้นที่จะกลับบ้านของเธอนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็น นักเพาะเมล็ดพันธุ์ ในปัจจุบัน
จิณพร ดีรบรัมย์หรือเอม เจ้าของสวนแทนใจ ไร่ดอกเหงื่อ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้กลับมาอยู่บ้านเกิดหลังเรียนจบ เพื่อประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร โดยเริ่มต้นจากการปลูกผักสดขายแต่ผักสดมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องคอยดูแลแก้ไข เช่น ผักเน่าเสีย ไม่สวย และ นำออกจำหน่ายไม่หมด ราคาตกต่ำ
จึงทำให้มองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่คิดว่าจะได้ผลลัพธ์ดีกว่าการปลูกผักสดขาย
นั่นก็คือ “อาชีพการเพาะเมล็ดพันธุ์พืชผักขาย” เอมเริ่มต้นเพาะเมล็ดพัธุ์พืชผักพื้นบ้านก่อน แล้วค่อยขยายเมล็ดพันธุ์ชนิดต่าง ๆ เช่น ไม้ดอก ไม้ยืนต้น และผักสลัด เป็นการรวบรวมเมล็ดพันธุ์ที่ต้นเองชอบและจงเกิดการรวบรวมจากชาวบ้านในชุมชนทำให้ปัจจุบัน เอมเพาะเมล็ดได้หลายร้อยกว่าชนิด
เมล็ดพันธุ์พื้นบ้านก็ใกล้จะสูญหายไป เข้ามาทำตรงนี้ก็อาจจะช่วยในเรื่องของการอนุรักษ์
เมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน รวบรวมเมล็ดพันธุ์เพื่อฟื้นฟูพืชผักพื้นบ้านต่อไปได้อีกด้วย
ช่องทางในการขาย เอมได้เล่าว่า เริ่มจากการขายในหมู่บ้านก่อนเป็นอันดับแรก แต่ผลที่เกิดขึ้นคือขายไม่ค่อยได้ คนในหมู่บ้านไม่ค่อยรู้จักหรือต้องการซื้อ จงได้เปลี่ยนช่องทางคือ ช่องการออนไลน์
สร้างเพจ Facebook ขึ้นมา ปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี ขายในราคา 20 บาทต่อ 1 ถุง แต่ปริมาณเมล็ดพันธุ์แต่ละชนิดจะบรรจุใส่ในถุงไม่เท่ากันซึ่งรายได้จากการขายเมล็ดพันธุ์ก็สามารถเป็นรายได้หลักที่ทำให้เอมและครอบครัวได้
เมื่อทุกอย่างดีขึ้นชาวบ้านในชุมชนก็เริ่มมีความสนใจเข้ามาศึกษา นำเมล็ดพันธุ์พืชแต่ละชนิด เข้ามาร่วมมือทำด้วยและยังเป็นอีก 1 ช่องทางที่จะช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในชุมชนได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
เปิดพื้นที่ให้คนภายนอกเข้ามาศึกษาดูงานได้ เพื่อเป็นแนวทางให้กันคนที่สนใจอยากจะประกอบอาชีพการเพาะเมล็ดพันธุ์พืช หรือต่อยอดทำอย่างอื่นอีกต่อไป
“เอมเล่าว่าความสุขของเอมที่มีคือ การได้กลับบ้านมาอยู่กลับครอบครัว สร้างรายได้ให้กับครอบครัวของตนเองได้มีความสุข อยู่แบบเรียบง่ายแต่ล้วนมีแต่ความสุขแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”