“ความต้องการอาหารของคนเราเพิ่มมากขึ้น การเก็บเมล็ดพันธุ์หรือการมีเมล็ดพันธุ์เป็นของตัวเอง นั่นหมายถึงว่าเราสร้างอาหารเองได้ อยากกินอะไรก็ปลูก ปลูกแล้วได้ผลผลิตหรือไม่ได้ก็สามารถปลูกใหม่ได้ เพราะเราใช้เมล็ดพันธุ์ที่เป็นของเราเอง”
นี่คือคำบอกเล่าของ “บุญมี ชารีเครือ” เกษตรกรจากสวนแม่โขงโนแมดฟาร์ม (Mekong Nomad Organic Farm) อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ที่บอกเล่าถึงความสำคัญของการมีเมล็ดพันธุ์เป็นของตัวเอง เพราะเมล็ดพันธุ์ไม่เพียงแต่ให้ความให้ความอุดมสมบูรณ์ให้อาหารกับชีวิตเท่านั้น แต่เมล็ดพันธุ์ยังเป็นตัวชี้วัดความยั่งยื่นของเกษตรกรอีกด้วย จึงทำให้ บุญมี ชารีเครือ มีความสนใจที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์เอง และต้องการจะลดต้นทุนของการผลิต การเก็บเมล็ดพันธุ์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
“เมื่อก่อนไม่ได้เห็นความสำคัญของการเก็บเมล็ดพันธุ์ อยากปลูกอะไรก็ไปซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกจากร้านค้าที่ขายเมล็ดพันธุ์พอเกิดการซื้อบ่อย ๆ รู้สึกว่าต้องเสียเงินทุกครั้งที่ปลูก จึงเริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์เองมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว”
ปลูกเอง เก็บเองพร้อมแบ่งปันกันปลูก
ที่สวนแม่โขงโนแมดฟาร์ม (Mekong Nomad Organic Farm) จะปลูกพืชหลากหลายชนิดในรูปแบบของสวนผสมผสานและเก็บเมล็ดพันธุ์เอง เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ แตง เมล็ดดอกไม้ รวมถึงพืชผักสวนครัว พริก มะเขือ กระเพรา โหรพา ผักพื้นบ้านทั่วไป และเพิ่มผักเมืองหนาวเข้ามา เช่น ผักสลัดมากกว่า 20 สายพันธุ์ รวมทั้งหมดที่เก็บเมล็ดพันธุ์มีประมาณ 60 สายพันธุ์
นอกจากการมีเมล็ดพันธุ์ที่หลากหลายแล้ว การเก็บรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
บุญมี ชารีเครือ พาทีมงานอยู่ดีมีแฮงออนไลน์ไปดูวิธีการเก็บเมล็ดพันธุ์ให้สามารถเก็บได้นาน ๆ และเมล็ดพันธุ์ไม่เกิดความเสียหาย เมื่อต้องการจะเพาะปลูกก็สามารถนำออกมาเพาะปลูกได้เลย ตู้เย็นเล็ก ๆ 2 เครื่องภายในบ้านถูกอัดแน่นไปด้วยเมล็ดพันธุ์ จนแทบจะไม่มีช่องว่าง ที่นี่เปรียบเสมือนคลังแสงของบุญมี ชารีเครือ มีเมล็ดพันธุ์อัดแน่นมากกว่า 60 สายพันธุ์ บุญมี ชารีเครือ เล่าให้กับทีมงานอยู่ดีมีแฮงฟังต่ออีกว่า
“เราเก็บเมล็ดพันธุ์ในตู้เย็นจะเก็บได้นาน 3-5 ปี แต่ถ้าเก็บภายนอกก็ได้เหมือนกันแต่จะเก็บได้ไม่นานเหมือนเก็บในตู้เย็น ถ้าเก็บภายนอกสำหรับคนที่ไม่มีตู้เย็น อาศัยอยู่ตามไร่นา ก็เก็บใส่ในขวด หรือใส่ซองพลาสติกที่ไม่ให้อากาศเข้าได้ เก็บเมล็ดพันธุ์ให้พ้นจากมดแมลงต่าง ๆ ที่สำคัญต้องระวังไม่ให้โดนแสงแดด เก็บในอุณภูมิห้องปกติสำหลับคนที่ไม่มีตู้เย็น เก็บเมล็ดพันธุ์ได้ 2-3 ปีเหมือนกัน”
คนรุ่นใหม่กับงานเก็บเมล็ดพันธุ์
หากพูดถึงงานเก็บเมล็ดพันธุ์เราก็คงนึงถึงเกษตรกรที่มีอายุราว ๆ 40-50 ปีขึ้นไปที่มีประสบการณ์ในการปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์เอง แต่สำหรับ “จีรนันท์ บุญครอง” เกษตรกรคนรุ่นใหม่ เจ้าของสวนพันธุ์เจียจาก ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ มีความสนใจในวิถีการเก็บเมล็ดพันธุ์ เพราะมองว่างานเก็บเมล็ดพันธุ์เป็นงานที่เกษตรกรควรจะทำหลังการเก็บเกี่ยว เพราะนั่นหมายถึงความยั่งยืนของเกษตรกร แม้จะพึ่งเข้าวงการเก็บเมล็ดพันธุ์ได้ไม่นานแต่ จีรนันท์ บุญครอง ก็มีประสบการณ์ มีชุดความรู้ และที่สำคัญคือการใช้สื่อโซเชียลเข้ามาช่วยการทำงาน เพื่อต่อยอดและส่งต่อเมล็ดพันธุ์ให้กับคนที่ต้องการอีกด้วย
จีรนันท์ บุญครอง เล่าให้กับทีมงานอยู่ดีมีแฮงฟังต่อว่า “กลับมาอยู่บ้านและเริ่มทำเกษตรได้ 3 ปี เริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์จริงจังได้ 1 ปี ที่บ้านจะปลูกผักอินทรีย์ ช่วงแรก ๆ จะปลูกผักสลัดและเริ่มมีผลผลิตก็เลยเก็บเมล็ดพันธุ์สลัดก่อน หลัง ๆ มาเริ่มสนใจมะเขือเทศและจริงจังกับมะเขือเทศมากขึ้น 1 ปีที่ผ่านมาก็เก็บเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ และเริ่มสะสมเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศได้ประมาณ 20 กว่าสายพันธุ์ แต่ที่สามารถเก็บเองได้จำนวนเยอะประมาณ 6-7 สายพันธุ์”
เมล็ดพันธุ์คือความมั่นคงของชีวิต
นอกจากการเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูกเองแล้ว จีรนันท์ บุญครอง ยังได้แบ่งเมล็ดพันธุ์ที่มีบางส่วนเอาไปขายโดยใช้ชื่อแบนร์พันธุ์เจีย เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองและยังเปิดเพจ FaceBook IG นอกจากจากจะเป็นการอัพเดทชีวิตในแต่ละวันแล้ว ยังเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับคนที่สนใจได้เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้อยู่ตลอดเวลา
จริง ๆ ที่มาเก็บเมล็ดพันธุ์ไม่ได้คิดซับซ้อนอะไรคิดแค่ว่ามันเก็บต่อได้ ลดต้นทุนได้ก็เลยเก็บ เป็นเหมือนการการันตีความยั่งยืน ความมั่นคงของเราเองด้วยถึงแม้ในอนาคตจะมีอะไรหายไป ถ้าเราสามารถเก็บเองได้ เราก็ยังใช้ต่อไปได้เป็นวัฏจรักของสิ่งมีชีวิต พอมันมีสามารถเก็บได้ก็สะสมไว้ คิดว่าเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง สร้างความหลากหลายให้กับผืนแผ่นดินนี้ การเก็บเมล็ดพันธุ์มีความจำเป็นกับเกษตรกรมาก ๆ เพราะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า เราสามารถพึ่งตนเองได้ การพึ่งตนเองได้นั่นหมายถึงความยั่งยืน
ทุกอย่างมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องของอาหาร ถ้าคนเรามีอาหารที่เพียงพอ ปัญหาต่าง ๆ จะลดลงถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ถ้ามีอาหารที่บริบูรณ์ รู้สึกว่าบางอย่างก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปขวนขวายอะไรมากมาย
งานเก็บเมล็ดพันธุ์ถือเป็นงานที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อเกษตรกรอย่างมาก เพราะถ้าหากเรามีเมล็ดพันธุ์เป็นของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าต้องลดต้นทุนการเพาะปลูกลงไปได้ โดยไม่ต้องพึ่งพิงเมล็ดพันธุ์จากทุนใหญ่ฝ่ายเดียว การมีเมล็ดพันธุ์จึงเป็นความยั่งยืนของชีวิต