“เหง่งหง่าง” เสียงระฆังดังขึ้นสามครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณของการเริ่มประกอบพิธีกรรมในวันพระขึ้น 8 ค่ำ เสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์ พร้อมกับเหล่าพุทธศาสนิกชนสูงวัยได้พนมมือ และสวดตามในจังหวะของตนเอง หากมองเผินๆ เราคงคิดว่า วัดแห่งนี้มีเพียงกิจกรรมตักบาตรในวันพระ เช่นวัดอื่นทั่วไป แต่ใครเล่าจะรู้ว่า วัดแห่งนี้มีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมายให้เหล่าคุณตาคุณยายสายบุญ ได้รวมตัวกันสร้างความสุข รอยยิ้ม และบุญกุศลร่วมกัน
วันนี้อยู่ดีมีแฮงพาทุกท่านเดินทางมาที่วัดสุวรรณาราม ต.สุวรรณคูหา อ.สุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อทำความรู้จักและสนทนากับพระมหาอภิชาต อภินันโท เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม และรองเจ้าคณะอำเภอสุวรรณคูหา ถึงแนวคิดและจุดเริ่มต้นของกิจกรรมสูงวัยของชุมชน
“เริ่มต้นจากที่พระอาจารย์ได้เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดสุวรรณาราม วันที่ 1 เมษายน 2554 นี่คือเริ่มต้นเลย พอเข้ามาแล้วพระอาจารย์ก็เลยเริ่มจัดกิจกรรมชวนผู้สูงอายุมาสวดมนต์”
กิจกรรมเริ่มแรกคือสวดมนต์ทุกวันพระ โดยทุกวันพระจะในหรือนอกพรรษาชาวบ้านจะมาร่วมสวดมนต์ จากปีแรกก็เข้าสู่ปีที่ 2 ปีที่ 3 และปีที่ 4 คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ประมาณปี 2557 ก็เลยได้ชักชวนผู้สูงอายุมาทำกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม คือพระอาจารย์เห็นใบลอตเตอรี่ที่ชาวบ้านเขาซื้อแล้วไม่ถูก ทิ้งเกลื่อนกราด ก็นำมาแปรเป็นดอกไม้จันทน์
“ดอกไม้จันทน์ที่คุณยายผลิตขึ้น อาจารย์ก็มีแนวคิดว่า ถ้าวัดไหนในเขตสุวรรณคูหามีพระคุณเจ้ามรณภาพ เราก็จะถวายให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และหากชุมชนไหนขาดแคลนก็จะนำไปแจกฟรี เราทำเพื่อให้คุณยายไม่ว่างจากงาน ไม่เหงา”
นอกจาการมาสวดมนต์ในช่วงเริ่มต้น พระอาจารย์ได้มีการก่อร่างสร้างกิจกรรมตามมาอีกหลายอย่าง เช่น การปลูกพืชผักปลอดสารเคมี สร้างตลาดวัดในชุมชน กิจกรรมออกกำลังกายฟ้อนรำ กลุ่มทำดอกไม้จันทน์จากลอดเตอรี่ รวมไปถึงการร้อยมาลัยดาวเรือง
“เมื่อก่อนขายเป็นดอก ดอกละ 50 สตางค์ แต่มันขายได้น้อย ทำยังไงเราจะเพิ่มมูลค่าได้ ก็เลยชวนคุณยายมาร่วมกิจกรรมร้อยมาลัยกับมัดดอกไม้ไหม มัดละ 10 บาท หรือพวงมาลัยก็ พวงละ 10 บาท 20 บาท ก็ร่วมกันทำเรื่องของพวงมาลัยและดอกไม้ เริ่มการทำตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน 10 เดือน ก็ได้เงินประมาณ 80,000 กว่าบาท นี่คือรายได้เกิดจากชุมชนในส่วนนี้คุณตาคุณยายที่มาทำก็ทำฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ขอรับเงินแม้แต่บาทเดียวเพราะได้บุญ เขามีแต่มอบให้วัดแล้วก็ถวายวัด เป็นค่าน้ำค่าไฟวัด ในส่วนนี้ก็มีญาติโยมได้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ให้ดู หรือกลุ่มของส่วนกลางที่ได้ทำกัน”
คุณยายห่ม สุธรรมมา เป็นหนึ่งในแกนนำที่เข้าร่วมกิจกรรมของวัดสุวรรณนารามตั้งแต่เริ่มต้น เล่าให้เราฟังถึงที่มาของการเข้าร่วมกิจกรรม
เริ่มแรกหลวงพ่อบอกว่า อยากให้ผู้สูงอายุสามัคคีกัน เวลาเหงาก็มารวมกลุ่มกัน มันจะได้มีจิตใจโปร่งใส จะไม่เศร้าซึม ถ้าอยู่ที่บ้านกลัวว่าจะเศร้าซึม หลวงพ่อเลยบอกกับยายห่มว่าจะตั้งกลุ่มให้ เพื่อให้สามัคคีกัน มารวมกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ มามัดดอกไม้ ทุกวันพระ 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ พวกแม่จะมาทำเป็นประจำ
“แม่เป็นตัวเอก พาเพื่อนมามัดดอกไม้ ร้อยมาลัยขายให้ชาวบ้านเรา แล้วก็เอารายได้เข้าวัดสุวรรณาราม ไม่ได้เอารายได้เข้าตัวเอง บำรุงพระพุทธศาสนาของวัดเราประจำ กลุ่มผู้สูงอายุก็บอกว่าดี จะได้ไม่เหงา อยู่บ้านมันเหงา เริ่มออกกำลังกายกันฝึกหัดฟ้อน ทำให้อารมณ์สดชื่น ก็สบายใจ เวลามาแล้วก็สบายใจ จะได้ไม่ซึมเศร้าอยู่บ้าน มีกิจกรรมผู้สูงอายุ ทำดอกไม้จันทน์ร่วมกัน กินข้าวร่วมกัน เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไป” คุณยายห่ม กล่าว พร้อมแสดงท่าทางอย่างมีความสุข
ไสว แสงสี
“ยายชอบกิจกรรมแบบนี้ ยายได้มาทุกวัน ยายก็ว่ามันดี ยายก็รู้สึกว่ายายมีอารมณ์ดี ยายไม่มีความหงุดหงิด ไม่มีความเครียด มันเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้เรามีอายุยืน” ไสว แสงสี ตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะ
นอกจากการมีส่วนร่วมของวัด และคนในชุมชน ยังได้รับร่วมมือจากโรงพยาบาลสุวรรณคูหาได้เข้ามาบริการด้านสาธารณสุขให้กับผู้สูงอายุ โดยทุกปีงบประมาณจะมีการคัดกรองสุขภาพของผู้สูงอายุที่วัดสุวรรณาราม มีการตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจโรคทั่วไป คัดกรองกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ยังได้มีการเข้ามาส่งเสริมในเรื่องของกิจกรรมทางกาย และการติดตามอาการทางจิตใจ
โดยหมออนุธิดา สิงห์นาค แพทย์แผนไทยปฏิบัติการโรงพยาบาลสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ให้ข้อมูลว่า
ในงานของเชิงรับที่อยู่ในโรงพยาบาล จะเห็นว่าผู้ป่วยที่มีภาวะด้านโรคของ NCDs ในกลุ่มของวัดนี้เขารู้สึกว่าน้ำตาลเขาลดลง ความดันเขาดีขึ้น จากสิ่งที่เขาปฏิบัติ แต่โรงพยาบาลไม่ได้บอกว่ายอดคนไข้ลดลง ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้ ทำให้สุขภาพรู้สึกดีขึ้น
“ความสำเร็จของหมอในวันนี้ คือ 1.เห็นเขามีความสุข แล้วเขาได้มาทำกิจกรรม 2. เรื่องของสุขภาพทางกาย ทางใจ เห็นรอยยิ้ม 3. คือเรื่องของการพัฒนาตัวเอง คนที่เคยบอกว่าฉันทำไม่ได้ ฉันไม่สามารถที่จะขยับขา ฟ้อนรำ ออกกำลังกายได้ เขาก็พยายามที่จะทำ แล้วก็เห็นความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งก็คือ การรวมตัวของเขาเอง การมีกลุ่มที่แน่นหนาถาวร กิจกรรมใดๆ ถ้าไม่มีคนพา หรือคนนำพาให้ทำนั้นมันก็ยากที่จะไปต่อได้ ที่สำคัญเลยคือชุมชนที่มีวัดเป็นศูนย์กลาง พระอาจารย์จะเป็นบุคคลที่สามารถหล่อหลอม แล้วก็ช่วยให้ทางชุมชน และผู้สูงอายุเองได้ทำกิจกรรมอยู่เรื่อย ๆ”
วัดในอดีตอาจเป็นเพียงพื้นที่สำหรับเผยแพร่ศาสนา หรือที่พักของพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น แต่ปัจจุบันวัดได้กลายเป็นพื้นที่ของการรวมตัวกันของผู้สูงวัย เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ สร้างรอยยิ้ม และความสุขให้กับผู้ได้เข้ามาในวัด
“ถ้าชุมชนหรือวัดไหนที่พอมีกำลังมีศักยภาพก็อยากจะให้เปิดวัด ไม่อยากให้เป็นวัดปิด เพราะว่าวัดคือเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน อย่ามองว่าเป็นพระจะต้องปฏิบัติธรรมอย่างเดียว บางครั้งงานสาธารณ งานสงเคราะห์เราก็ต้องทำเรายิ่งอยู่ในช่วงของผู้สูงอายุในช่วงนี้ เราก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันขับเคลื่อนยิ่งมาวัดผู้สูงอายุก็ยิ่งมีความสุข” พระมหาอภิชาต อภินันโท เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กล่าวทิ้งท้าย