จับใจคุย “สิทธิแม่น้ำ ณ ลำน้ำโขง”

จับใจคุย “สิทธิแม่น้ำ ณ ลำน้ำโขง”

เสียงพร่ำบอกถึงผลกระทบต่อหลากชีวิตในสายน้ำโขงและลุ่มน้ำสาขา ทั้งต่อผู้คน สิ่งแวดล้อม จิตวิญญาณ และวิถีวัฒนธรรมตลอดริมฝั่งแม่น้ำ ยังเป็นโจทย์ที่รบกวนจิตใจของเครือข่ายชาวบ้านตลอดเรื่อยมา โดยเฉพาะในห้วงยามที่แม่โขง แม่น้ำสายประธาน ถูกคุกคามด้วยเขื่อนบนสายน้ำโขง และปัจจัยแวดล้อม เช่น เรื่องความเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศโลก  และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของระบบนิเวศ

โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา เครือข่ายชาวบ้านพร้อมด้วยนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง ในไทยและต่างประเทศ ร่วมจัดเวทีเสวนา: “สิทธิของแม่น้ำ” ณ สายน้ำโขงและลำน้ำสาขา, ความจริงหรือความฝัน? ที่บ้านตามุย อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อถอดบทเรียนการต่อสู้ที่ยังไม่จบจากผลกระทบของโครงการพัฒนาบนสายน้ำโขงและลำน้ำสาขา โดยหวังว่า“สิทธิแม่น้ำ” หรือ “legal rights” จะทำให้แม่น้ำทุกสายได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

นั่นเพราะการใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงอย่างสมดุลควบคู่กับการปกป้องดูแลสายน้ำจากชาวบ้านยังไม่เพียงพอ “สิทธิแม่น้ำ” หรือ “legal rights” จึงเป็นอีกความหวังที่จะให้แม่น้ำทุกสาย โดยเฉพาะแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ทีมสื่อพลเมือง ไทยพีบีเอส คุณวิภาพร วัฒนาวิทย์ ได้ชวนพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ ดร. กนกวรรณ มะโนรมย์ ศูนย์วิจัยสังคมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคุณคำปิ่น อักษร ผู้อำนวยการโฮงเฮียนฮักน้ำของบ้านตามุย ถึงเรื่องสิทธิ สถานะทางกฎหมายต่อแม่น้ำ ว่าเป็นจริงได้หรือไม่ และสำคัญอย่างไร

ระดับนานาชาติ เป็นจริงแล้วแต่ในประเทศไทยมันต้องอาศัยพลกำลังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความคิดเรื่องสิทธิ นึกถึงความเท่าเทียม นึกถึงความเป็นธรรม” รศ.ดร.กนกวรรณ มะโนรมย์ ผอ.ศูนย์วิจัยสังคมอนุภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อธิบายถึงความสำคัญของ “สิทธิ” และ “ความเป็นธรรม”

“ถ้าในสังคมไทยตระหนักในเรื่องพวกนี้ที่ชัดเจน ทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา หรือแม้กระทั่งนักวิชาการ ภาคประชาสังคม ถ้าเราพูดภาษาเดียวกัน คำว่า สิทธิ มันหมายถึงความเท่าเทียม ความเสมอภาคและการให้เกียรติการเคารพซึ่งกันและกัน อาจารย์ว่าเป็นไปได้ แต่ในสังคมไทยคิดว่ายังนานอยู่ ตอนนี้ในประเด็นต่าง ๆ คนก็ยังเรียกร้องสิทธิให้กับคนอยู่ ยังไปไม่ถึงไหนเลย รัฐธรรมนูญก็ยังจำกัดสิทธิเสรีภาพของคนอยู่ ไม่ต้องนับถึงแม่น้ำ ไม่ต้องนับถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตเลย

แต่ว่าถ้าเราไม่เริ่มคุยกันวันนี้ อาจารย์คิดว่าก็ไม่รู้จะเริ่มเมื่อไร มันถึงเวลาที่ต้องพูดคุยเรื่องสิทธิของธรรมชาติเพราะว่าเราใช้ธรรมชาติเยอะเกินไป โดยที่ไม่คำนึงถึงความสมดุล โดยที่ยังไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติเอง เช่น เรื่องแม่น้ำโขง แล้วก็ผลกระทบธรรมชาติที่เกิดจากการพัฒนาที่กระทบต่อผู้คนที่อาศัยธรรมชาติ เช่น แม่น้ำโขง แม่น้ำสาขา”

“เราคิดว่ามันก็เป็นความหวังหนึ่งที่ต้องมาพูดถึง…” คำปิ่น อักษร ผอ.โฮงเฮียนฮักของบ้านตามุย จ.อุบลราชธานี ย้ำถึงความสำคัญและความคาดหวังในเรื่องสิทธิของแม่น้ำ “เพราะว่าตอนนี้ ถ้าเรามองในมิติผลกระทบกับมนุษย์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่เสียงเหล่านั้นยังไม่ได้ถูกสนใจ ถ้าเรามาลองดูในแต่ละฤดูกาล มาสังเกตหินมันมีชีวิต หอยมันมีชีวิต สิ่งเหล่านี้เรียกร้องไม่ได้เลย มีมนุษย์เท่านั้นที่ไปปกป้องแม่น้ำบ้าง แต่ก็ไม่เห็นสิทธินั้น เราคิดว่าเป็นกระบวนการที่ดีที่ทางมหาวิทยาลัย ริเริ่มที่คิดเรื่องของสิทธิแม่น้ำ และถ้าเป็นไปได้ต่อไปประชาชนอาจจะฟ้องร้ององค์กรของรัฐ หรือฟ้องร้องที่รัฐบาลทำร้ายแม่น้ำก็ได้ในอนาคต เราคิดว่าเป็นเรื่องของความหวัง”

ความหวังเรื่องสิทธิแม่น้ำในไทย VS ต่างประเทศ

รศ.ดร.กนกวรรณ มะโนรมย์ “แม่น้ำพูดไม่ได้ด้วยตัวเอง แต่แม่น้ำจะพูดจะสะท้อนสิทธิและรักษาสิทธิของตัวเองแล้วก็ใช้สิทธิของตัวเอง แต่ต้องมีองค์กร ที่ทำหน้าที่พูดแทนฟ้องแทน สะท้อนสิทธิของตัวเองแทนแม่น้ำ เช่น อาจารย์ขอยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่ดังมากของทั่วโลก แล้วทั่วโลกก็ให้ความสนใจ ประเทศนิวซีแลนด์จะรักษาและหวงแหนธรรมชาติมากเพราะเป็นเกาะ

ตอนนี้ทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงผู้คนมันมีจำกัดและก็โดยเฉพาะคนพื้นเมือง ชาวพื้นเมืองอาศัยแม่น้ำวังกานุย มายาวนานเป็นพัน ๆ ปี ร้อย ๆ ปี เขาหวงแหน เขารักษา แต่อยู่มาวันหนึ่งแม่น้ำถูกทำลายหรือว่ามีการพัฒนาเข้าไป แม่น้ำพูดไม่ได้ แต่คนพื้นเมืองที่รักษาแม่น้ำรู้ว่าแม่น้ำมีความสำคัญต่อชีวิตในทุก ๆ มิติของเขา แล้วองค์กรที่ทำงานที่รักษา อนุรักษ์แม่น้ำก็เลยร่วมมือกันกับชนเผ่าพื้นเมืองว่าทำงานร่วมกัน แล้วก็ตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อที่จะยกระดับแม่น้ำให้มีสถานะเป็นบุคคล

แล้วพูดคุยกับรัฐบาลท้องถิ่น รัฐบาลระดับประเทศจนทำให้ท้ายที่สุดรัฐบาลยอมรับและเห็น ความสำคัญว่าถ้าเราไม่มีแม่น้ำในฐานะที่เป็นบุคคลหรือมีสิทธิเท่ากับพวกเรา มนุษย์ ทำให้สิ่งมีชีวิตถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีการหวงแหน ไม่มีการอนุรักษ์

อนุรักษ์ดีอย่างไร อนุรักษ์ ก็คือให้คนได้ใช้ด้วย ไม่ใช่อนุรักษ์อย่างเดียวโดยที่คนไม่ได้ใช้ อันนี้คือแม่น้ำมีสิทธิที่จะรักษาชีวิตผู้คน ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องรักษาชีวิตของเขาด้วย มันต้องมีความสมดุลกัน แต่นี้เวลาจะเกิดเหตุอะไรก็ตามกับแม่น้ำจะต้องจะใช้แม่น้ำในทางวัตถุประสงค์อะไรต่าง ๆ องค์กรเหล่านี้จะทำหน้าที่เลยบอกว่า ใช้ได้ในระดับมากน้อยขนาดไหน แม่น้ำพูดไม่ได้ จะพูดในนามองค์กร องค์กรจะทำหน้าที่ในการพิทักษ์สิทธิของแม่น้ำนั้น”  

คำปิ่น อักษร “มันต้องทำความเข้าใจกับหลาย ๆ พื้นที่ เพราะว่าประเทศไทยมันมีมากมายหลากหลายลุ่มน้ำ มีน้ำมูล มีน้ำชี มีน้ำเซบาย และสาขาสายย่อยอีกมากมาย ซึ่งเหล่านี้เราคิดว่าในเรื่องหนึ่งอาจจะต้องทำความเข้าใจกับภาคชาวบ้านด้วยว่าเป็นอย่างไร ในเรื่องของข้อกฎหมายเพราะที่ผ่านมาเราต้องถอดบทเรียนในเรื่องของกฎหมายต่าง ๆ มันถูกออกแบบมาดี แต่การนำไปใช้อะไรต่าง ๆ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน กับชุมชนว่ามันจะมีองค์กรมาดูแลหรือมันจะอะไร

ถ้าเกิดแม่น้ำหรือเรื่องสิทธิของแม่น้ำ รัฐเข้ามากำกับดูแลแล้วก็จัดการอีกมันก็อาจจะอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นข้อวิตกกังวลที่ชุมชนก็พยายามมองร่วมกันอยู่ แต่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่จะพัฒนาร่วมกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นลุ่มน้ำสงคราม แม่น้ำมูล แม่น้ำสาขา หรือแม้กระทั่งแม่น้ำเลย กำลังถูกกระทำชำเราเพื่อโครงการผันน้ำ อันนี้ยิ่งทำให้เราต้องมาตื่นตัวและผลักดันขับเคลื่อนในเรื่องของสิทธิแม่น้ำ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งคน กับปลาและชุมชน”

สิทธิแม่น้ำกับพลังชาวบ้านเพียงพอต้องรองรับด้วยรัฐ

รศ.ดร.กนกวรรณ มะโนรมย์ “เพราะว่าจริง ๆ แล้วองค์กรที่ทำหน้าที่ในการพูดแทนแม่น้ำ พูดแทนธรรมชาติมันต้องมีหนึ่งองค์กรแน่ ๆ แต่องค์กรนี้มันจะต้องประกอบด้วยภาคส่วน กฎหมาย รองรับด้วยรัฐด้วยไม่เช่นนั้นมันจะเป็นการคล้าย ๆ ว่าจะทำงานไม่ได้ มันต้องอาศัยรัฐ อาศัยภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ชาวบ้าน ทำงานร่วมกัน ถึงจะสามารถขับเคลื่อนและผลักดันให้แม่น้ำมีฐานะเป็นนิติบุคคลได้ คือ องค์กรชาวบ้านอย่างเดียวคงไม่พอ อาจารย์คิดว่าเหมือนที่คำปิ่นพูด ว่าเราต้องอาศัยพละกำลังอย่างมหาศาลทุกองคาพยพ ในสังคมที่ทำงานเกี่ยวกับแม่น้ำหรือจัดการแม่น้ำเราต้องมีจุดมุ่งมายเดียวกันด้วย มีโลกทัศน์มีความคิด ความเชื่อคล้าย ๆ กัน ในการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน มันต้องใช้ระยะเวลายาวนานในสังคมไทย”

ข้อท้าทายใหญ่ของ “สิทธิแม่น้ำ” ที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คืออะไร

รศ.ดร.กนกวรรณ มะโนรมย์ “อาจารย์คิดว่ากระบวนความคิด การยอมรับหรือการมีค่านิยมร่วมกันในเรื่องของสิทธิ ความเสมอภาค อันนี้สำคัญมาก ถ้าเราไม่มีความคิดร่วมกันในเรื่องสิทธิ ความเสมอภาคหรือเคารพซึ่งกันและกัน อาจารย์คิดว่ามันจะเคลื่อนยากมาก

ในเรื่องของการทำให้แม่น้ำมีสถานะเป็นบุคคล เช่น แม่น้ำหนึ่งสาย แม่น้ำสงครามหรือแม่น้ำโขง ถ้าเราไม่มีความคิด ไม่มีความเชื่อ หรือมีโลกทัศน์คล้ายๆ กัน เช่นว่าแม่น้ำมีสิทธิ ถ้าเราไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ มันทำงานได้ยากมาก มันจะเริ่มจากที่มีค่านิยม มีความคิด มีคุณค่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งร่วมกัน มันถึงจะสำเร็จ ถ้าเริ่มจากก้าวนี้แล้วอะไรที่เป็นข้อกฎหมายตามมาเชิงรูปธรรมมันจะเกิดขึ้นง่าย อาจารย์เชื่ออย่างนั้น”

คำปิ่น อักษร “อันนี้เป็นเรื่องที่ยาวไกล แต่สิ่งที่พี่น้องชาวบ้านตามุยเผชิญคือในเรื่องเขื่อนที่กำลังจะมา บริษัทพลังาน หรือว่าอะไรต่าง ๆ เราก็กังวลอยู่ แต่ว่าในสิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้ เราพยายามที่จะร่วมผลักดันกับอาจารย์ที่จะมาดูมิติในเรื่องสิทธิมันมีอะไรบ้าง เพราะว่าเราเป็นพื้นที่ที่อยู่กับสิ่งแวดล้อมเรามีการเก็บข้อมูลอยู่ ก็จะมีเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการทำวิจัยที่ร่วมกัน เพราะว่าที่นี่เขารักแม่น้ำ เขารู้สึกว่าที่นี่มันเป็นชีวิตของเขา มันเป็นส่วนหนึ่งทั้งเรื่องการศึกษาเรื่องความมเป็นอยู่ความผูกพันต่าง ๆ สิ่งนี้มันเริ่มหายไป ก็เหมือนว่าคนรักห่างหาย ซึ่งจริง ๆ แล้ว แม่น้ำโขงคือหัวใจขของคนที่นี่ เขารู้สึกผูกพันแล้วก็ที่นี่คือบ้านของเขา บ้านเราตรงนี้มันสวยมันน่าอยู่แล้ว มันก็ควรจะได้ดำรงอยู่”

มากกว่าการล้อมวงจับใจคุย ถึงสิทธิแม่น้ำ กับรองศาสตราจารย์ ดร. กนกวรรณ มะโนรมย์ ศูนย์วิจัยสังคมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคุณคำปิ่น อักษร ผู้อำนวยการโฮงเฮียนฮักน้ำของบ้านตามุย อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี กับคุณวิภาพร วัฒนวิทย์ ยังมีเครือข่ายชาวบ้านจากลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี ลำเซบาย แม่น้ำสงคราม และลำโดมใหญ่ ที่เดินทางหลายร้อยกิโลเมตรมาร่วมแลกเปลี่ยนถึงสถานการณ์ปัจจุบันในแต่ละลำน้ำ รวมถึงทิศทางความร่วมมือในการดูแลแม่น้ำซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดและลมหายใจที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนตลอดลำน้ำ ได้เติมพลังใจ พร้อมย้ำถึงสิทธิของคนลุ่มน้ำที่ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและควบคู่กับการปกป้องดูแลแม่น้ำที่จำเป็นต้องมี “สิทธิสถานะ” และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างสมดุล

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ