![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/681106-1024x668.jpg)
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ยกระดับการออมให้กับผู้มีรายได้น้อยและประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระ ได้เข้าถึงการออมแบบครอบคลุมทุกชุมชน ผ่านหน่วยบริการสมาชิกสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนทั่วทั้งประเทศ เพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวในการสมัครและส่งเงินออมสะสมต่อเนื่อง ตามจำนวนเงินที่ประสงค์ออมตั้งแต่ 50 – 13,200 บาทต่อปี เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นครสวรรค์/วันนี้ (18 มิถุนายน 2565) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบำนาญประชาชน โดยเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคง และกองทุนการออมแห่งชาติ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การ มหาชน) (พอช.) กับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคง ในการให้บริการเป็นหน่วยรับสมัครสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ พร้อมด้วย นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามในบันทึกความร่วมมือ ณ สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/IMG_0784-800x533-1.jpg)
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ด้วยแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบการออมที่เข้มแข็ง โดยเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวของประชาชน เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตยามชราภาพให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะประชากรภาคแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นแรงงานนอกระบบ เพื่อสร้างความมั่นคงในบั้นปลายของชีวิต ตลอดจนการสร้างวินัยในการออมของประชาชนคนไทยในวัยทำงาน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จึงเป็นช่องทางการออมขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองเพื่อการชราภาพให้ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบบำนาญ อันเป็นการสร้างความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในการดูแลจากภาครัฐ โดยระบบสวัสดิการบำเหน็จ – บำนาญของรัฐ หรือ นายจ้าง แต่ละอาชีพจะมีรูปแบบแตกต่างกันไป อาทิ ข้าราชการ มีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หน่วยงานเอกชน มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แรงงานในระบบ มีกองทุนประกันสังคม สำหรับแรงงานนอกระบบ รัฐบาลได้จัดตั้งเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการวางแผนออมเงินของประชาชนเป็นอย่างมาก สร้างวินัยการออมในทุกช่วงวัย ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ซึ่งถือเป็นกองทุนการออมภาคประชาชน เป็นกลไกส่งเสริมการออมของแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา พ่อค้าแม่ค้า ผ่านการสมัครเป็นสมาชิก กอช. จึงได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และ เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคง ในการขับเคลื่อนส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนเข้าถึงการออมกับ กอช. มีสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่ง พอช. จะเป็นหน่วยรับสมัครสมาชิก กอช. ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ประสงค์จะสมัครสมาชิก ส่งเงินออมต่อเนื่อง หรือเข้าร่วมกิจกรรมโปรโมชันต่างๆ ที่ส่งเสริมการออมด้วย โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันส่งเสริมให้คนไทยได้รู้จักออมเงินกับ กอช. อีกทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยให้ดีขึ้น
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/IMG_0701-800x533-1.jpg)
นางสาวณหทัย ขันธวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ กอช. กล่าวว่า กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการสร้างหลักประกันที่มั่นคงในวัยเกษียณให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 15 ปี จนเข้าสู่วัยทำงานถึงอายุ 60 ปี ออมขั้นต่ำเพียง 50 บาทต่อครั้ง สูงสุด 13,200 บาทต่อปี พร้อมรับสิทธิประโยชน์ในการเป็นสมาชิก กอช.สิทธิประโยชน์ที่ 1 รับเงินสมทบจากรัฐ ในแต่ละช่วงอายุของสมาชิก ในเดือนถัดไป ช่วงอายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีสูงสุด 600 บาท ช่วงอายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้งโดยรวมกันทั้งปีสูงสุด 960 บาท ช่วงอายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีสูงสุด 1,200 บาท สิทธิประโยชน์ที่ 2 ผลตอบแทนของเงินที่นำไปลงทุน ทั้งในส่วนเงินออมสะสมและเงินสมทบและรัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน สิทธิประโยชน์ที่ 3 ลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเงินออมสะสม
นางสาวณหทัย กล่าวต่อไปอีกว่า ในการส่งเงินออมสะสมกับ กอช. เป็นการออมภาคสมัครใจ ไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันทุกปีและรับเงินสมทบในเดือนถัดไป สะดวกที่ไหนออมได้ทุกที่ ซึ่งที่ผ่านมา กอช. ได้มีหน่วยรับสมัครและส่งเงินออมสะสมที่ อาทิ ที่ว่าการอำเภอครอบคลุมทุกพื้นที่ สำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทุกสาขา สหกรณ์ชุมชนที่เข้าร่วม และในครั้งนี้ กอช. ได้ยกระดับให้ประชาชนเข้าถึงการออมเพิ่มมากขึ้นในทุกชุมชน จึงได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ในการให้บริการสมาชิก กอช. สะดวก สบายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในการบริการตรวจสอบสิทธิ์ สมัครสมาชิกใหม่ ส่งเงินออมสะสมต่อเนื่อง และให้คำปรึกษาในการรับสิทธิประโยชน์ในการเป็นสมาชิก กอช. ด้วย
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/IMG_0755-800x533-1.jpg)
นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวว่า วันนี้ พอช.จับมือกับ กอช. กระทรวงการคลัง เพื่อสร้างความมั่นคงตลอดชีวิตด้วยการออม นอกเหนือจากการสร้างความมั่นคงเรื่องที่อยู่อาศัยที่ พอช.ทำไปแล้ว เช่น ที่จังหวัดนครสวรรค์ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 47 โครงการ มีผู้เดือดร้อนประมาณ 6,000 ครอบครัว ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนไปแล้วประมาณ 3,600 ครอบครัว และจะทำต่อไป ด้วยความร่วมมือของกรมธนารักษ์ในการให้ที่ดินทำเรื่องบ้านมั่นคง
“ส่วนโครงการบ้านมั่นคงทั่วประเทศทำไปแล้วประมาณ 140,000 ครอบครัว รวมทั้งยังมีสภาองค์กรชุมชนที่มีสมาชิกเครือข่ายทั่วประเทศประมาณ 1,500,000 คน ซึ่ง พอช.จะเชิญชวนสมาชิกเครือข่ายทั้งหมดนี้เข้ามาเป็นสมาชิกกองทุน กอช.ต่อไป” นายไมตรีกล่าว การสร้างบำนาญประชาชน เป็นสร้างความมั่นคงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กับสมาชิกสหกรณ์เคหะสถานบ้านมั่นคง และสมาชิกองทุนสวัสดิการชุมชน นำร่องในพื้นที่ 50 แห่ง เพื่อเป็นหน่วยรับสมาชิก กอช. เป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการสร้างบำนาญให้กับสมาชิกคือ ได้ยกระดับให้ประชาชนเข้าถึงการออมเพิ่มมากขึ้นในทุกชุมชน จึงได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ในการให้บริการสมาชิก กอช. สะดวก สบายเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างคุณภาพชีวิตสมาชิกด้วยกองทุนออมแห่งชาติ เป็นเครื่องมือการพัฒนาเครือข่ายและความเข้มแข็งของการสร้างกองทุนของภาคประชาชน” ปัจจุบันมีสมาชิกกองทุนฯทั่วประเทศ 2,483,286 คน มูลค่าสินทรัพย์ 10,944.94 ล้านบาท
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/681184-1024x578.jpg)
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/681086-1024x768.jpg)
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/681093-1024x768.jpg)
![](https://thecitizen.plus/wp-content/uploads/2022/06/681098-1024x768.jpg)