ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว สำหรับกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศเนปาลเมื่อ 26 มิถุนายน 2558 ณัฐพล สิงห์เถื่อน ตัวแทนมูลนิธิกระจกเงา เดินทางจากเมืองไทยเพื่อสำรวจความเสียหาย และหาแนวททางการเยียวยาคนเนปาลอีกครั้ง โดยครั้งนี้เดินทางไปที่ เมือง Rumechap district ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกาฏมาณฑุ และ RUSUWA district ที่อยู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงกาฏมาณฑุ
25 เมษายน 2558 เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 7.8 เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 3 ล้านหลังคาเรือน และที่ผ่านมาถึงแม้นจะมีความช่วยเหลือจำนวนมากจากนานาประเทศที่สนับสนุนสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ การช่วยเหลือทางการเงินเพื่อนำช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเนปาล แต่ผ่านมานับ 2 เดือนยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ มากนัก ผู้ประสบภัยจำนวนมากต้องหาช่วยเหลือครอบครัวตนเองทั้งการสร้างที่พักชั่วคราว และการดำรงชีพในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว
ภาพจากเมือง RUSUWA
ณัฐพล เล่าว่า มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และเพื่อนองค์กรที่ทำงานด้านการพัฒนาสังคมสโมสรไลออน์กรุงกาฐมาณฎุประเทศเนปาล ร่วมเดินทางออกไปเยี่ยมชาวเนปาลีในพื้นที่เมืองราเมชาฟ หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ที่มีศูนย์กลางอยู่จากเมืองนี้เพียง 30 กว่ากิโลเมตรทีมองค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศไทยเดินทางมาประเทศเนปาลเป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว
“เราคิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของคนทั้งโลกที่จะต้องหาทางร่วมกับช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กำลังตกอยู่สภาวะยากลำบาก” ณัฐพล ระบุ
ณัฐพล กล่าวด้วยว่า หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างที่มองให้เห็นความก้าวหน้าในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาลเนปาล และการลงพื้นที่ของทีมไทยในครั้งนี้จะนำไปสู่การหาแนวทางเพื่อระดมทุน สร้างรูปธรรมการช่วยเหลือของคนไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล
ตัวแทนมูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า 1 ปีแผ่นดินไหวที่เชียงรายผ่านไป ทำให้ทีมเครือข่ายการจัดการภัยพิบัติภาคประชาชนจังหวัดเชียงราย มีบทเรียนชุดหนึ่ง ที่ชื่อว่าดงลานโมเดล คือเป็นการซ่อมบ้าน โดยรวมระหว่างวัสดุที่มีและโครงสร้างหลักที่มั่นคง กว่าเดิมและนำงบที่ได้รับการสนับสนุนไปซื้อวัสดุซ่อมสร้างบ้านให้ชุมชนทั้งหมด 56 ครอบครัว
ที่มาภาพ: ณัฐพล สงห์เถื่อน ตัวเเทนมูลนิธิกระจกเงา เครือข่ายการจัดการภัยพิบัติภาคประชาชน จ.เชียงราย
author
