สูตรลับไก่อบชนม์บท

สูตรลับไก่อบชนม์บท

ได้เห็นโพสต์ของเขาวันนั้นทำให้ผมรู้สึกตกใจ ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ มันเป็นเรื่องของ “ตาเอก”เพื่อนช่างภาพรุ่นพี่ที่ผมรู้จักมาหลายปีแล้ว  เขาเป็นตากล้องภาพนิ่ง  ส่วนผมเป็นช่างภาพสายวิดีโอเราหากินตามงานอีเว้นท์ด้วยกันอยู่พักหนึ่ง  แต่ไม่นานผมก็บอกเลิกกับเขาเพื่อกลับไปทำงานประจำกินเงินเดือน ทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกเลยนอกจากนาน ๆ ทีบังเอิญเจอกันตามที่อโคจรต่าง ๆ (ไปตกปลา) แต่สิ่งที่ทำให้ผมร้อนใจจากโพสต์ของเขาในวันนั้นจนต้องดั้นด้นไปหาในวันนี้  เพราะเขาโพสต์ขายไก่

การขายไก่เป็นอาชีพสุจริต ผมไม่ติดใจเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทำให้สะเทือนใจและแอบสงสัยว่าทำไม ช่างภาพระดับเจ้าของรางวัลพระราชทานในงานประกวดของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยอย่างเขา ถึงหันหลังให้กล้องแต่หันหน้าให้ไก่  เขาบอกว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาเป็นปีแล้ว 

ตั้งแต่ระลอกแรกก็ยังพอทนเพราะยังไปถ่ายงานได้บ้าง ระลอกสองนี้เริ่มกุมขมับเพราะงานอีเว้นต์ทุกอย่างจัดไม่ได้ยกเว้นงานศพ และมาถึงระลอกสามนี่แทบจะกระอักเลือดงานศพยังจัดได้ยาก แถมไม่มีคำตอบที่ทำให้มั่นใจจากรัฐบาลว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เมื่อไหร่  ถ้าไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ครอบครัวคงต้องมีปัญหาแน่ ๆ

ณวรัญญ์ ศิริสุนทร (ตาเอก)

ตอนที่โลกสงบสุขตาเอกมีรายได้จากการถ่ายภาพปีละไม่น้อยครับ นั่งคุยกันสักพักเขาก็เหลือกตามองบน  ทำปากมุบ ๆ มิบ ๆ นับไล่ตามข้อนิ้วก็ได้คำตอบมาว่า เฉพาะเงินรางวัลจากการประกวดถ่ายภาพทุกรายการรวมแล้วได้ 8 แสนบาท!  นี่ยังไม่รวมค่าจ้างถ่ายภาพที่เป็นรายได้หลักซึ่งน่าจะมากกว่านี้ แต่พอโควิดระบาดนี่ก็ไม่ได้เห็นตัวเลขรายได้วิ่งขึ้นอีกเลย  มีแต่รายจ่ายที่วิ่งแซงรายได้พรวด ๆ ฉะนั้นเขาจึงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

สิ่งก่อสร้างทรงกล่องชั้นเดียวแต่หลังคาสูงดูคล้ายโกดังสินค้าผุดขึ้นใกล้แยกไปรษณีย์ใหญ่กลางเมืองอุบลราชธานี   รากไม้แห้ง ๆ ถูกนำมาดัดแล้วแปะเป็นตัวหนังสืออ่านว่า “ชนม์บท” ตรงเหนือประตูทางเข้า  ที่นี่คือร้านขายไก่อบสมุนไพรของเขาซึ่งเงินก้อนสุดท้ายถูกนำมากองไว้ตรงนี้หมด  แม้ใจจริงเขาเองก็อาจไม่มั่นใจว่ามันจะไปได้ดี  แต่แววตาของเขามันบอกว่าครั้งนี้จะแพ้ไม่ได้   

บริเวณหน้าร้านนอกจากจะมีตู้กระจกไว้ใส่สินค้าเหมือนร้านขายของกินทั่วไปแล้ว ยังมีท่อกลม ๆ สีเหลืองตั้งอยู่ 2 อัน  มันคือเตาอบที่ดัดแปลงมาจากถังน้ำมัน 200 ลิตร ส่วนใบสีเทาที่ตั้งอยู่ริมทางเท้าตาเอกบอกว่ามันคือถังต้นแบบที่เคยใช้อบอาหารประเภทกับแกล้มในสมัยก่อน เอามาตั้งโชว์เฉย ๆ มันเป็นของเพื่อนที่เอามาให้ใช้นานแล้ว แถมป้องปากกระซิบดัง ๆ ว่า ถังนี้เกิดก่อนไก่อบโอ่งอีกนะ 

จากนั้นเขาก็เดินไปยกเตาถ่านออกมาจากถังสีเหลือง กวาดขี้เถ้าลงรูเล็กๆแล้วกวาดจากชั้นล่างออกอีกทีก่อนจะจุดไฟใส่ขี้ไต้ควันโขมง ไม่นานถ่านก็เริ่มติดไฟเป็นสีแดง 

ตาเอกเดินไปเอาตลับพลาสติกขนาดใหญ่ที่มีไก่หัวขาดตัวอวบอ้วนนอนอาบเครื่องเทศเบียดเสียดกันอยู่ในนั้นหลายตัว   เขาไม่ยอมบอกสูตรลับว่าใส่อะไรลงไปบ้าง บอกเพียงแค่ว่าไม่ได้ใส่ผงชูรสเพื่อจะลองดูว่ามันจะอร่อยสู้เขาได้ไหม จากนั้นก็เอาเหล็กแหลม ๆ แทงไก่อย่างเลือดเย็นพร้อมกับหันมาบอกว่า อันนี้ก็สูตรลับอย่าไปบอกใครนะ ผมก็ได้แต่เอาคิ้วมาชนกัน ไอ้แทงไก่นี่มันสูตรลับตรงไหน เขาทำแบบนี้กับไก่อีกสี่ห้าตัวแล้วเอาพวกมันแบะขาออกเสียบด้วยเหล็กขอจากนั้นก็เอาไปห้อยเรียงในเตาอย่างเป็นระเบียบ ก่อนปิดฝาเห็นเขาเอาตะแกรงเหล็กอะไรสักอย่างใส่ลงไปด้วย แล้วก็หันมาบอกว่า

“อันนี้ก็สูตรลับ”

มาถึงขั้นตอนที่ลำบากที่สุดก็คือนั่งรอ หลักการของไก่อบถังคือต้องกระจายความร้อนให้ทั่วถึงในเวลาที่เหมาะสม  ไก่จะออกมาเหลืองสวย ไอ้ที่ว่าเวลาที่เหมาะสมนั้นก็ได้ทดลองจนหมดไก่ไปหลายตัวแล้ว  ปัจจุบันเขาสามารถตั้งเวลาได้เลยว่าจะเปิดฝาเมื่อไหร่ตอนนี้ทำได้แค่รอ ทำให้กระบอกใส่กาแฟในมือถูกกระดกก้นขึ้นลงอยู่หลายครั้ง  เมื่อพอใจกับรสชาติและผลข้างเคียงของคาเฟอีนแล้ว เขาก็หันมาบอกกับผมว่า

“ที่จริงผมทำกับข้าวไม่เป็น” 

แม้ทุกวันนี้จะยังทำไข่เจียวไม่อร่อย แต่โชคดีที่พี่ดวง ภรรยาของเขาเป็นคนชอบทำกับข้าว งานนี้เลยทำให้รอดตัวไปได้บ้าง แต่ตาเอกมีนิสัยที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตอย่างหนึ่ง คือชอบทดลอง ไก่อบที่เป็นสูตรลับนักลับหนานี่ก็มาจากการทดลองเช่นกัน หรือที่จริงอาจจะไม่ใช่สูตรลับ แต่จำสูตรไม่ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อีกไม่กี่นาทีนี้ก็จะได้รู้แล้วว่า สูตรลับนี้ยังควรลับต่อไปหรือไม่

ในระหว่างรอไก่สุก ตาเอกกวักมือหยอยๆเรียกผมไปหลังร้านบอกมีอะไรจะโชว์ ผมเดินตามไปพร้อมมองหาว่ามีอะไรพิเศษที่ผมยังไม่เห็นหรือเปล่า แกก็ชี้นิ้วไปที่ “ส้วม” อันนี้ภูมิใจนำเสนอเพราะส้วมนี้ออกแบบเอง ในนั้นก็มีของตกแต่งจากเศษไม้เศษหินที่แกไปเก็บมา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ก็เกิดจากการ DIY เอาของเก่ามาทำใหม่อย่างเช่นฝักบัวอาบน้ำ แกก็เอาบัวรถน้ำต้นไม้พลาสติกเก่าๆไปติดไว้บนผนังดื้อ ๆ อย่างนั้นแล้วต่อสายยางต่อก๊อกให้ใช้อาบน้ำได้จริง แต่ฟังก์ชันที่ประหลาดกว่านั้นคือในห้องน้ำมีโถส้วม 2 อัน  มีทั้งแบบนั่งยองกับแบบชักโครก 

แกบอกว่าตอนอึสามารถนั่งคุยกันไปอึไปพร้อมกันได้ แล้วก็หัวเราะอย่างพอใจ จากนั้นก็พาผมเข้ามาดูผนังร้านที่ตกแต่งด้วยภาพถ่ายนับร้อยเหมือนแกลอรีเล็ก ๆ ก็ฝีมือแกถ่ายเองทั้งนั้น ภาพทั้งหมดอยู่ในกรอบอย่างดีห้อยด้วยเส้นเอ็นตกปลา พอพัดลมหันหน้ามากรอบรูปพวกนี้ก็พระเพื่อมไปตามจังหวะลม มองไกล ๆ แล้วไม่เห็นเส้นเอ็นเหมือนกรอบรูปลอยอยู่ แกบอกว่านี่เป็นการออกแบบให้ภาพนิ่งกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวไง แล้วก็พาผมไปดูแทบทุกจุดของร้านที่ไม่มีตรงไหนเลยที่ใช้ของดี ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเอาของเก่า ๆ มาใช้ใหม่ทั้งหมด แล้วแกก็ตบท้ายบทสนทนาของซีนนั้นว่า หากเราพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกจุดที่ทำได้ จะช่วยให้เราสามารถรอดพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้

เสียงนาฬิกาปลุกที่แปะไว้ตรงเสาดังติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ร้องเรียกให้ผู้ตั้งเวลาลุกออกมาดูไก่ที่อบไว้ ฝาเหล็กสีเหลืองเฉดเดียวกับตัวถังถูกเปิดออก เผยให้เห็นว่าไก่เปลี่ยนสีไปแล้ว วันนี้อาจใส่ถ่านเกินมานิดหน่อยซึ่งทำให้บางส่วนของไก่เกรียมไปนิด แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าน่ากินใช้ได้ ตาเอกบอกว่าถ่านที่ใช้อบนี้ต้องเป็นถ่านไม้ชนิดหนึ่งเท่านั้น ใช้ไม้ชนิดอื่นไม่ได้เพราะทั้งกลิ่นและรสชาติมันจะเพี้ยน แล้วใช้ไม้อะไรล่ะ แต่ไม่น่าถาม เพราะนี่ก็เป็นสูตรลับ

หลังจากที่ครบตามเวลาแล้ว ไก่จะถูกนำมาห้อยเรียงไว้ในตู้กระจกเพื่อยั่วยวนคนที่ผ่านไปมาประหนึ่งน้องนางในตู้กระจก  แต่สำหรับไก่แล้ววิธีนี้อาจจะดูชักช้าไปหน่อย การโพสต์ขายแบบโจ๋งครึ่มในเฟสบุ้กดูจะได้ผลมากกว่า  เพราะไม่นานหลังจากถ่ายรูปเสร็จแต่นานตรงคิดแคปชั่นนิดหน่อย ก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อถึงร้านไป 1 ตัว และอีกตัวต้องเอาไปส่งที่ซอยข้าง ๆ สำหรับภารกิจนี้ไม่มีตัวช่วย ตาเอกรับภาระทั้งหมดตั้งแต่ซื้อไก่ หมักไก่ อบไก่ สับไก่ ขายไก่ และตอนนี้ต้องสวมวิญญาณเป็นไรเดอร์ไปส่งไก่ด้วย เขาให้เหตุผลที่อยากไปส่งเองว่า จะได้ไปพูดคุยกับลูกค้าสอบถามถึงความพึงพอใจในรสชาติโดยตรง หากไม่ถูกปากก็จะได้กลับมาพัฒนาสินค้าต่อไป 

แต่ละวันเขาอบไก่เพียงไม่กี่ตัว เพราะร้านเปิดใหม่ยังมีลูกค้าไม่มากนัก หากทำมากเกินไปแล้วขายไม่ออกก็ขาดทุนพอดี  แต่แม้จะทำน้อยบางวันก็ขายไม่หมด ไก่ค้างคืนจะขายไม่ได้ทำให้เขาต้องขาดทุนตัวละร้อยกว่าบาท  ฉะนั้นด้วยความอยากแก้ปัญหาขาดทุนเขาจึงคิดหาเมนูที่ทำได้จากไก่อบค้างคืน และสุดท้ายก็ได้ออกมาหลายเมนู เช่น ต้มข่าไก่อบสมุนไพร แกงเผ็ดไก่อบสมุนไพร หรือขนมจีนน้ำยาไก่อบสมุนไพร แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นฝีมือภรรยา ส่วนเขายังต้องฝึกทำไข่เจียวต่อไป

ปัจจุบันร้านชนม์บทก็ยังคงเปิดขายอาหารเมนูไก่ทุกวัน  แม้จะขายได้บ้างไม่ได้บ้างแต่อย่างน้อยมันก็เป็นธุรกิจของตัวเอง  ตาเอกบอกว่าถึงขายไม่ได้เราก็ยังได้กินหรือเหลือกินก็แบ่งปันคนอื่นได้  อย่างวันที่ผมไปสัมภาษณ์อยู่ดี ๆก็มีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ลุงมีแขนข้างเดียวและหิวจึงเอ่ยปากขอข้าวกิน  ยังไม่ทันได้มีใครพูดหรือถามอะไร  พี่ดวงก็จ้วงข้าวสวยใส่ถุง กับแกงเผ็ดไก่อบสมุนไพรที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆแยกอีกถุงหนึ่งบวกน้ำเปล่าอีกขวดใส่ถุงให้ลุงคนนั้น และไม่ลืมยื่นแมสก์ให้อีกหนึ่งอัน ก่อนที่จะถามว่าเป็นใครมาจากไหนด้วยซ้ำ  นี่คือภาพความจริง 2 มุม  มุมหนึ่งคือในสังคมยังมีผู้คนที่อดอยากหิวโหยอยู่เต็มถนน และอีกมุมก็มีน้ำใจจากคนข้างทางที่ยังมองเห็นความโหยหิวของผู้อื่นอยู่เสมอ

ในความหิวโหยของผู้อยู่เบื้องล่าง ท่ามกลางสภาวะที่กำลังย่ำแย่ของเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 กลายเป็นความย่ำแย่ซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนเข้าไปอีก  แม้เรื่องราวของตาเอกและครอบครัวจะมาถึงจุดที่ชีวิตต้องพลิกผัน หลายคนที่โดนแบบเดียวกันยังจมอยู่กับความท้อแท้ก็มีมาก แต่นั่นไม่ช่วยอะไร การสร้างความฮึกเหิมในใจนี่สิเป็นประโยชน์อันแท้จริงที่จะพาเราก้าวข้ามอุปสรรคที่กำลังเผชิญได้ ก่อนจากกันผมอุดหนุนไก่อบสมุนไพรของตาเอกไปฝากลูก ๆ 1 ตัว แต่ช่างโชคร้ายที่คนเป็นเก๊าท์อย่างผม ไม่มีปัญญาชิมไก่สูตรลับของเขา..

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ