อยู่ดีมีแฮง : ก๋วยเตี๋ยวไก่สามล้อรถเร่ สู้โควิด-19

อยู่ดีมีแฮง : ก๋วยเตี๋ยวไก่สามล้อรถเร่ สู้โควิด-19

เดชา  คำเบ้าเมือง  เขียน

มิ่งขวัญ  ถือเหมาะ  ภาพ

ทุกวันเวลาเช้ามืด ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ แม่หวันหญิงวัยกลางคน พร้อมด้วยสามีของเธอ จะลุกขึ้นมาช่วยกันหุงหาอาหารและจัดเตรียมข้าวของอย่างขะมักเขม้น กระทั่งสายแสงพระอาทิตย์สาดส่องจึงได้เวลาออกเร่ขายก๋วยเตี๋ยว ไก่ โดยมีสามล้อเครื่องคู่ใจเป็นพาหนะ ขับเรื่อยไปตามเส้นทางถนนในหมู่บ้าน บ้างก็ลงทุ่งนา เข้าสวนยางพาราก็มีไม่น้อย เพื่อนำรสชาติที่คุณคุ้นเคยไปเสิร์ฟลูกค้าประจำที่กำลังรอคอยถึงที่ ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาของชาวบ้านในชุมชนแถบนี้เป็นอย่างดี

วันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน แม่หวัน กำลังเคี่ยวน้ำซุป และตุ๋นขาไก่ พอได้ที่ก็หันไปล้างผักเครื่องเคียง ไม่ว่าจะเป็น มะระ กะหล่ำปี และโหระพา แล้วนำมาหั่นซอยและบรรจุในกล่องพลาสติกที่รองไว้ด้วยน้ำแข็งเพื่อเก็บความเย็น จนกระทั่งตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าเธอจึงตั้งหม้อต้มน้ำโอเลี้ยง ก่อนจะพักไว้แล้วไปตักน้ำแข็งบดใส่กระติกน้ำแข็ง หลังจากนั้นก็ไปตรวจตราดู น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู และพริกป่น ในภาชนะเครื่องปรุงรส อุปกรณ์ ถ้วย ตะเกียบ ช้อน ฯลฯ ส่วนสามีของเธอก็ทำหน้าที่ทอดปอเปี๊ย และแหนมคลุก ในกระทะร้อนไฟกลางๆ จนสุกเหลือง เสร็จแล้วจึงตักออกมาวางไว้ที่ถาดเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน เมื่อของทุกอย่างพร้อมสรรพก็ถูกทยอยนำไปจัดวางบนรถในตำแหน่งเดิมเหมือนเช่นที่เคยอยู่  

พอเสร็จภารกิจส่วนตัว ถึงเวลา 9 โมงตรง แม่หวัน ก็แปลงกายเป็นชุดแม่ค้า ใส่ผ้ากันเปื้อน สวมหมวกมิดชิด และที่ขาดไม่ได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็คือหน้ากากผ้า ที่เธอใส่แล้วสลับเปลี่ยนซักทุกวัน เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส บรื้น…บรื้น…บรื้น…สามล้อคู่ใจถูกสตาร์ทเครื่องขึ้น สองมือกำแฮนด์แน่น สายตาคู่มุ่งมั่นมองข้างหน้า แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ตามด้วยเสียงแตรลมดังขึ้น 3 ครั้ง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ลูกค้าและเสมือนการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกจากบ้าน

ในตอนนี้ อยู่ดีมีแฮง ขอเชิญชวนทุกท่านมาพูดคุยสนทนากับแม่หวัน เธอมีชื่อจริงว่า ลัดดาวัลย์  ลือเกียงคำหล้า อายุ 57 ปี เป็นชาวบ้านสังคม ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี อาชีพแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวไก่รถเร่ ซึ่งเป็นอีกอาชีพหนึ่งของคนตัวเล็กตัวน้อยในชุมชน ที่ได้รับผลกระทบในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากจะมองในมุมบวกเมื่อคนอยู่บ้าน “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ตามนโยบายของรัฐบาล การค้าขายแบบ delivery โดยใช้รถเร่ขับไปเสิร์ฟถึงหน้าประตูบ้าน ก็ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของอาชีพในชุมชน เพื่อแสวงหาทางรอดในช่วงวิกฤติ

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่า แต่ก่อนทำอะไรมาบ้าง แล้วทำไมถึงมาลงเอยกับการขายก๋วยเตี๋ยวไก่รถเร่

แต่ก่อนตอนเป็นวัยรุ่นเคยไปทำงานเป็นสาวโรงงานที่กรุงเทพฯ อยู่หลายปี ก่อนจะไปทำงานต่างประเทศ ที่ประเทศเกาหลีใต้อีก 3 ปี ด้วยหวังว่าจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวลงทุนค้าขายที่บ้าน พอกลับมาบ้านก็เริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าขายน้ำแข็งไสที่หน้าบ้านตนเองก่อน ขายไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามีลูกค้าอยู่ในวงแคบๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้าน จึงมีความคิดว่าเราต้องวิ่งไปหาลูกค้าไม่ใช่ให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเราซึ่งน่าจะขายดีกว่า หลังจากนั้นก็เลยเอารถมอเตอร์ไซค์ไปติดพ่วงข้างแล้วออกวิ่งไปขายน้ำแข็งไสหมู่บ้านใกล้เคียงด้วย ปรากฏว่ามันได้ขายดีและเห็นช่องทางการทำมาหากิน จึงเอาชาเย็น ชานมเย็น ชาเขียว และโอเลี้ยง มาขายเพิ่มด้วย เพราะสมัยนั้นในชุมชนละแวกนี้มีแม่คนเดียวที่ขับรถเร่ขายจำพวกน้ำหวาน

พอขายไปสักพักใหญ่ มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในหลายหมู่บ้าน ซึ่งบางคนก็มักจะถามว่าขายแต่น้ำหรือ? ทำไมไม่ขายประเภทอาหารด้วย? จึงฉุกคิดขึ้นได้ก็เลยไปเรียนสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวไก่ ลองดูว่าเผื่อมันขายดีกว่าน้ำ ได้เงินมากกว่า ซึ่งก็ขายดีกว่าจริงเพราะว่ามันมีราคาแพงกว่า แต่รายจ่ายที่ลงทุนก็มากเหมือนกัน

ขายทุกวันไหมครับ และในแต่ละวันขายอะไรบ้างครับ

ขายทุกวันค่ะ ไม่มีวันหยุด นอกจากว่าวันไหนที่เจ็บป่วยหรือติดธุระจำเป็น โดยจะออกขายตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ที่เราเคยไปประมาณ 10 หมู่บ้าน ไปเรื่อยๆ เหมือนรถขายโอ่ง (หัวเราะ) จนประมาณบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 โมง ของหมดเราก็กลับบ้าน แต่บางวันอาจจะมีปัญหา เช่น ฝนตกขายไม่ค่อยได้ก็ต้องเร่จนถึง 4 โมงเย็น จะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะเราได้เตรียมของแล้วก็ต้องออกเร่ขาย หรือวันไหนที่คนไม่ค่อยอยู่บ้านก็จะต้องเร่นานสักหน่อย แต่ก็ขายหมดทุกวันค่ะ ไม่มีเหลือค้าง

ส่วนของที่ขายก็มีปอเปี๊ยะทอด มีแหนมคลุก ชุดละ 30 บาท มีน้ำโอเลี้ยงแก้วละ 20 บาท และก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ธรรมดา ราคาถ้วยละ 35 บาท พิเศษ 40 บาท เอาแค่นี้พอไม่มีเวลาเตรียมของมาก เพราะขายของเสร็จเข้าบ้านก็ต้องเก็บข้าวของล้างอุปกรณ์ และไปตลาดซื้อของมาเตรียมไว้สำหรับวันต่อไปอีก กว่าจะเรียบร้อยดีก็มืดค่ำ วงจรชีวิตเป็นอย่างนี้ในแต่ละวัน

คิดว่าก๋วยเตี๋ยวไก่รถเร่คันนี้ มีเอกลักษณ์หรือจุดเด่นอะไรที่คนต้องซื้อ

นอกจากการใช้รถสามล้อเครื่องเร่ขายแล้ว แม่ก็ใช้แตรลมที่เขาขายไอศกรีมมาบีบเพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า “ก๋วยเตี๋ยวไก่ยายหวันมาแล้ว” ขายไปบีบแตรไปคนได้ยินก็ออกมา ถ้าไม่บีบคนก็ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณ ก็ไม่ออกมาซื้อ เพราะไม่รู้ว่าเรามาแล้ว ถ้าได้ยินเสียงสัญญาณแตรดัง ก็แสดงว่าก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว เป๊คคคคค…เป๊คคคค…เป๊คคคค (บีบแตร) บางทีก็มีเด็กน้อยวิ่งออกมานึกว่ารถขายไอศกรีม แต่ก็บอกไปว่าเป็นรถขายก๋วยเตี๋ยวไก่ (หัวเราะ) บางคนที่กินเป็นประจำถ้าเห็นไปสายหน่อยเขาก็จะโทรตาม หรือถ้าวันไหนติดธุระ ไม่ได้ไปขายก็จะบอกลูกค้าไว้ล่วงหน้า

ในส่วนของก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าก็จะบอกว่า “ก๋วยเตี๋ยวไก่แซ่บมาแล้ว” เจ้านี้อร่อย น้ำซุบแซ่บ ไม่ต้องปรุงเลยค่ะ ขาไก่ก็ตุ๋นนุ่ม เนื้อไก่นุ่ม เพราะเราจะให้ความสำคัญกับการใช้เวลาเคี่ยวตุ๋นขาไก่นานจนเปื่อยร่อนออกจากกระดูก ผักและของประกอบอื่นๆ ก็ต้องใหม่สดทุกวัน

แล้วรายได้เป็นอย่างไรบ้างครับ

แต่ละวันก็ได้เงินในราว 2,000 บาท ค่ะ รวมๆ กันทุกอย่างแล้ว อย่างเช่นแหนมคลุกก็ไม่ทำมาก ทำวันละ 20 ชุด ปอเปี๊ยะทอดก็วันละ 20 ชุด ก๋วยเตี๋ยวสูงสุดก็ได้ 40 ถ้วย ถึงขายดีก็ไม่เพิ่ม คือเอาเท่าเดิม เพราะถ้าสมมติเราทำเพิ่มบางวันคนก็กิน บางวันขายดี บางวันก็ขายไม่ดี ถ้าเราทำพอสมควรหรือพอดีเวลาเที่ยงถึงบ่ายก็หมด ซึ่งก็ถือว่าพอได้ค่ะ ก็ได้อาศัยยึดเป็นรายได้หลักทุกวันนี้ พอมีอยู่มีกินได้ใช้จ่ายในครอบครัวค่ะ

ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นอย่างไรบ้างครับ

ตอนช่วงโควิด-19 ระบาดแรกๆ ก็กลัวค่ะ ก็กลัวเหมือนกัน เพราะถ้าเราติดเชื้อก็กลัวว่าคนในครอบครัวจะติดไปด้วย แต่ถ้าไม่ขายก็ไม่รู้จะทำอะไร รายจ่ายก็มาก แต่อยู่ก็ไม่มีกิน ไปก็ตายอยู่ก็ตาย จึงตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ก็เลยออกไปขาย เมื่อออกเร่ขายก็ปรากฏว่ามีผลดี ผลดีคือช่วงที่มีการระบาดหนักๆ คนอยู่บ้าน อยู่ทุกหลังคาเรือนเลย ก็ได้ขายดีพอสมควร ขายหมดเร็วกว่าปกติอีกค่ะ เพราะเราไปส่งถึงที่ถึงหน้าบ้านลูกค้า ขณะเดียวกันเราก็ต้องป้องกันตัวเองใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า พกเจลแอลกอฮอล์ไปด้วยสำหรับล้างมือ และถ้ามีคนมาซื้อของไม่ป้องกัน ไม่ใส่หน้ากากฯ เราก็บอกให้ใส่ คือต่างคนต่างใส่ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

อยากให้ฝาก ให้กำลังใจสำหรับใครหลายคนที่กำลังรู้สึกท้อกับการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้หน่อยครับ

ช่วงโควิด-19 นี้ หากใครกำลังท้อแท้กับชีวิต ก็ขอให้สู้ๆ นะค่ะ เพราะว่าความเข้มแข็งในจิตใจของเราเท่านั้นที่จะช่วยต่อสู้ได้อย่างมีพลังให้เราสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ เราไม่ต้องน้อยใจและไม่ต้องคิดมาก มันอยู่ที่ใจเรา สู้เท่านั้นถึงจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ