“… มนุษย์ในสมัยโบราณเชื่อว่า การที่เขาฆ่าวัวในรูปย่อมมีผลสะท้อนถึงวัวจริงๆ คือเท่ากับฆ่าวัวจริงๆ ด้วย ทั้งนี้เพราะเขาเชื่อว่าวัวในภาพกับวัวจริงๆ เกี่ยวข้องกันหรืออีกนัยหนึ่งเป็นตัวเดียวกัน การเชื่อถือเช่นนี้เป็นการเชื่อถืออันเกิดจากความรู้สึกนึกคิดแบบลี้ลับอาถรรพ์ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนสมัยที่จะมีศาสนา…”
นี่คือคำอธิบายของจิตร ภูมิศักดิ์ ตามแนวคิดแบบ ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ผาแต้มเป็นหนึ่งในศิลปะของถ้ำผาขาม อำเภอโขงเจียม เป็นภูผาทรายส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน มีลักษณะเป็นผาสูงขึ้นขนานไปตามแนวแม่น้ำโขงยาวประมาณ ๓ กิโลเมตร ประกอบด้วยแหล่งศิลปะถ้ำ ๔ แห่ง คือ ผาขาม ผาแต้ม ผาหมอนและหมอนน้อย คนส่วนใหญ่เรียกรวมว่า ” ผาแต้ม ” เป็นภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในกลุ่มศิลปะถ้ำของจังหวัดอุบลราชธานี มีอายุ ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ ปีก่อนประวัติศาสตร์
( ยอดเขาภูจันทร์แดง )
เรื่องราวความเป็นมาในอดีตชาวบ้านที่อาศัยทำมาหากินในบริเวณใกล้เคียงภูผาอันเป็นที่ตั้งของผาแต้ม เล่าว่า น้อยคนนักที่จะได้เข้าไปในภูผาแห่งนี้ โดยมีความเชื่อว่า ผาแต้มเป็นเขตต้องห้าม มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไปหรืออาจเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ต่อมาเมื่ออาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรได้เข้าไปสำรวจป่าแห่งนี้จึงถูกเปิดและทำหนังสือต่อกองอุทยานแห่งชาติให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ความน่าสนใจที่ผมอยากแนะนำให้ไปเที่ยวชมก็คือ ภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เรียงรายตามทางเดินเป็นระยะๆ ความยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร มีความจำนวนทั้งหมดไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ รูปภาพ แบ่งได้เป็น ๔ กลุ่ม คือ รูปคน รูปสัตว์ รูปสิ่งของเครื่องใช้ และรูปสัญลักษณ์ ซึ่งนับว่าเป็นภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ภาพเขียนต่างๆ แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวการดำรงชีวิต ความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของผู้เขียนภาพขณะนั้น เช่น การล่าสัตว์ การจับปลา และรูปภาพการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ดังปรากฏการเขียนรูปคนที่อิริยาบถแปลก อาจจะหมายถึงบุคคลที่มีความสำคัญ อาทิ พ่อหมอที่สามารถสื่อสารกับอำนาจเหนือธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่น่าเคารพยำเกรง และ สันนิษฐานว่าบริเวณผาแต้มนี้เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อศาสนา
“…มนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ได้สะท้อนความจัดเจนในการต่อสู้ชีวิตโดยอาศัยธรรมชาติออกมา โดยการขีดเขียนและการป้ายสีวาดภาพสัตว์ลงบนผนังถ้ำ แต่ว่ายังแยกระหว่างโลกของความฝันกับภาพเขียนในโลกความจริงออกจากกันไม่ได้เด็ดขาด เช่น ภาพของวัว มีความหมายและคุณค่าเท่ากับวัวจริงๆ ที่วิ่งได้ ดังนั้น ภาพวัวที่เขาเขียนลงไปก็คือวัวจริงๆ ที่เขามีนั่นเอง…”
“… มนุษย์ในสมัยโบราณเชื่อว่า การที่เขาฆ่าวัวในรูปย่อมมีผลสะท้อนถึงวัวจริงๆ คือเท่ากับฆ่าวัวจริงๆ ด้วย ทั้งนี้เพราะเขาเชื่อว่าวัวในภาพกับวัวจริงๆ เกี่ยวข้องกันหรืออีกนัยหนึ่งเป็นตัวเดียวกัน การเชื่อถือเช่นนี้เป็นการเชื่อถืออันเกิดจากความรู้สึกนึกคิดแบบลี้ลับอาถรรพ์ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนสมัยที่จะมีศาสนา…”
นี่คือคำอธิบายของจิตร ภูมิศักดิ์ ตามแนวคิดแบบ ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน
>>> ผาแต้ม ปรากฏภาพสัตว์ เช่น ปลา เต่าหรือตะพาบน้ำ ช้าง เป็นต้น มักแสดงภาพขนาดใหญ่เท่าของจริง โดยเฉพาะช้างและปลาที่มีขนาดยาวถึง 4 เมตร สูงประมาณ 3 เมตร ภาพสัตว์นี้พบประมาณ 30 ภาพ ทั้งภาพคนและสัตว์ มักอยู่ในอาการเคลื่อนไหว ภาพวัตถุสิ่งของ อาจเป็นเครื่องมือจับปลาที่เรียกว่า “ตุ้ม”
>>> ผาหมอนน้อย พบภาพคนสูงประมาณ 1.6 เมตร กำลังเหนี่ยวคันธนูเล็งไปยังสัตว์สี่ ขาอาจเป็นวัวท้อง ลำตัวยาวประมาณ 6.4 เมตร รอบๆ ภาพกลุ่มนี้มีภาพมือทั้งซ้ายและขวาประมาณ 20 มือ ทำขึ้นโดยการทาสีบนฝ่ามือแล้วขูดสีบางส่วนที่นิ้วและฝ่ามือออกแล้วจึงทาบมือลงบนผนัง
>>> ผาหมอน พบภาพคนนุ่งกระโปรงยาวครึ่งน่อง ยืนท้าวสะเอว มีขนาดใหญ่กว่าภาพคนอื่นๆ ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นหญิงหรือชาย เขียนแบบระบายเงาทึบกับแบบกิ่งไม้ มีลักษณะค่อนข้างเหมือนจริง แสดงกล้ามเนื้อน่องโป่งพองด้วย
การเดินทาง
เส้นทางสายแรก – จากตัวเมืองอุบลฯ ใช้เส้นทางเมืองอุบลฯ – วารินชำราบ – พิบูลมังสาหาร เมื่อถึงสามแยกพิบูลฯ แล้ว สามารถเลือกเดินทางได้ ๒ เส้นทาง จะเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานตรงแก่งสะพือ แล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้า อ.โขงเจียม
เส้นทางสายที่สอง – จากสามแยกที่ อ.พิบูลมังสาหาร เลี้ยวขวาไปทาง อ.สิรินธร เส้นทางนี้ จะได้แวะเที่ยวชมเขื่อนสิรินธร เลยต่อไปเที่ยวช่องเม็ก ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ตรง อ.โขงเจียม เข้าไปวัดโขงเจียม จุดชมวิวแม่น้ำสองสี ก่อนที่จะถึงผาแต้ม
อ้างอิง
หนังสือ ทีปกร. “ศิลปะเพื่อชีวิต”. พิมพ์ครั้งที่ ๒ . กรุงเทพมหานคร : แม่คำฝาง, ๒๕๕๒
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (๒๕๕๗). ภาพเขียนสีและภาพสลัก ศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศ
ไทย (ออนไลน์). สืบค้นเมือวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ , จากเว็บไซต์ : http://www.era.su.ac.th/RockPainting/northeast/index.html
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (๒๕๕๗). อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (ออนไลน์). สืบค้นเมือวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗, จาก
เว็บไซต์ : http://thai.tourismthailand.org/