อยู่ดีมีแฮง : กล้วยหอมทอง ประสบการณ์ลงมือทำที่ไม่มีวันเป็น “ศูนย์”

อยู่ดีมีแฮง : กล้วยหอมทอง ประสบการณ์ลงมือทำที่ไม่มีวันเป็น “ศูนย์”

เมื่อมีเหตุให้ต้องกลับบ้านกลายเป็นเกษตรบนพื้นที่ 7 ไร่

มีคำถามเกิดขึ้นมากมายกับการทำเกษตรของ“ศศิธร พันธ์มุง” หลังตัดสินใจออกจากงานในเมืองกรุงและกลับบ้านซึ่งทางบ้าน คนส่วนใหญ่ในชุมชนเขาจะปลูกอ้อยปลูกมันสำปะหลัง แล้วทำไมถึงไม่ทำเหมือนกันอื่นเขา จากคำตอบของ “ศศิธร พันธ์มุง” หรือ พี่ติ๋ว เจ้าของไร่กล้วยหอมทอง ที่อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ได้เล่าว่าส่วนตัวพี่ติ๋วเองนั้น แต่ก่อนเรียนจบก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ สักพักใหญ่ ๆ พอได้ข่าวว่าพ่อที่อยู่ทางบ้านป่วยจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลพ่อที่ป่วย บวกกับหาอะไรทำไปด้วย

ตัวพี่ติ๋วเองรู้สึกว่าไร่อ้อยไร่มันสำปะหลังแถวนี้มีเยอะแล้ว เลยอยากคิดหาอะไรที่ไม่มีคนปลูกในพื้นที่แถวนั้น หาสิ่งที่แตกต่าง จึงได้คำแนะนำจากคนผู้เป็นพี่ชายว่า ลองปลูกกล้วยหอมทองดูไหม เผื่อขายได้กำไรดี พี่ติ๋วจึงได้นำพันธุ์กล้วยหอมทางมาปลูก ลองผิดลองถูกในพื้นที่ 7 ไร่อยู่เป็นปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ทำไม่ประสบความสำเร็จเพราะตนเองไม่มีประสบการณ์ ไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ไม่ได้ท้อและไม่ได้คิดที่จะหยุดอยู่แค่นั้น จากปีแรกก็ได้รู้ปัญหาหลายๆอย่างแล้ว เริ่มลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ค้นหาแหล่งเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติม

พอทำได้และได้ผลผลิตที่ดีเกินที่คิดไว้ ทำให้พี่ติ๋วรู้สึกภูมิใจมากขึ้น แถมกล้วยหอมทางของพี่ติ๋วยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย หลังมามีคนสนใจเข้ามาถามมาเรียนรู้ วิธีการปลูกกล้วยหอมทองเยอะขึ้น

กล้วยหอมทองปลูกง่าย ดูแลยาก ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

กล้วยหอมทองจะไม่ทนแล้ง จะต้องการน้ำอยู่ตลอด ต้องทำระบบน้ำให้ต้นกล้วยอย่างต่อเนื่องด้วย ถ้าต้นเริ่มโตเริ่มออกผลแล้วต้องค้ำยันทุกต้น นำถุงพลาสติกมาห่อเครือกล้วยหอมทองอีกเพื่อให้ผิวของกล้วยหอมทองสวยไม่เป็นรอย ส่วนการดูแลต้องหมั่นไปดูทุกวัน ไปให้น้ำ ตัดกอหญ้าข้าง ๆ ต้นกล้วยใช้เวลาแค่ช่วงเช้าเท่านั้นในการดูแลกล้วยหอมทอง ความโดดเด่นของกล้วยหอมทองนั้น จะมีกลิ่นที่หอม รสชาติหวาน เนื้อแน่น

กล้าลงมือทำ เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต ไม่มีคำว่าขาดทุน

ความกลัว เป็นจินตนาการที่เราคิดขึ้นมาเอง ซึ่งไม่มีตัวตน ทำให้เราหยุดการกระทำหรือทำด้วยความไม่มั่นใจ การเอาชนะความกลัว คือ กล้าลงมือทำในสิ่งที่กลัว อยากทำอะไรขอแค่ให้ลงมือทำก่อน ทำให้มันเต็มที่ถ้าทำอย่างเต็มที่แล้วผลตอบแทนมันจะไม่เป็นศูนย์อย่างแน่นอน

 จุดเปลี่ยนในชีวิตที่แท้จริงของเกษตรกรยุคใหม่

พี่ติ๋ว เล่าว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สุดในชีวิตเมื่อตัดสินใจกลับมาทำเกษตรที่บ้าน แต่เป็นจุดเปลี่ยนที่คุ้มค่ามากที่สุดเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดในชีวิตแล้ว ได้เปลี่ยนความคิด ทัศนคติ การใช้ชีวิตจาก แต่ก่อนเป็นคนที่ไม่มีเป้าหมายไม่มีกระบวนความคิดที่ซับซ้อนได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆทำงานตามหน้าที่งานที่ไม่ใช่งานของเราแต่เป็นงานที่รับจ้างคนอื่นเขา พอกลับมาอยู่ในจุดที่อยู่แล้วสบายใจจึงเกิดกระบวนการคิดใหม่ ๆ มากขึ้น ได้ดูแลไร่สวนกล้วยหอมทองที่รัก เวลาเก็บผลผลิตก็มีความสุขยิ่งเป็นช่วงโรคระบาด COVID-19 ยิ่งทำให้รู้ว่าดีนะที่เราตัดสินใจออกมาอยู่ตรงนี้ก่อน และถ้าเกิดไม่ตัดสินใจตอนนั้นก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เราจะอยู่ตรงไหน ตอนนี้รู้สึกว่าคุ้มมากที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว มันคือสิ่งที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตแล้วการที่เราได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ