มดงานด่านหน้าสู้โควิด-19 คัดกรองผู้สุ่มเสี่ยง ตรวจ เยี่ยม จ่ายยา ผู้ป่วยถึงหน้าบ้าน
ประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ซึ่งปัจจุบันมีหลายจังหวัดในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส (โควิด-19) เป็นจำนวนมาก เมื่อสถานการณ์การระบาดของไวรัส สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนในการดำเนินชีวิตประจำวันโดยไม่ใช่น้อย ซึ่งประชาชนทราบถึงความรุนแรง ความน่ากลัวของไวรัสชนิดดังกล่าวดี โดยทุกเพศวัยก็สามารถติดเชื้อไวรัส (โควิด-19) ได้เช่นกัน อาการของผู้ป่วยติดเชื้อมีอย่างหลากหลาย ผู้ป่วยบางคนอาจไม่แสดงอาการใด ๆ เลย ในขณะที่ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีอาการหนักมากจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรื่อกระทั่งอาจถึงชีวิตเป็นได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว อาจมีอาการรุนแรงเกิด โดยผู้ป่วยเช่น โรคเบาหวาน, โรคปอดและทางเดินทางหายใจ, ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคอ้วน,โรคตับ,โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น
จากการการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ( โควิด-19 ) ตั้งแต่รอบแรก ผู้ป่วยที่ความเสียงต้องจำเป็นเดินทางไปรับยาประจำของตนเองที่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่นั้น ๆ ก็เกิดความกังวลใจในการไปรับยา หรือจะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงใหม่ในการสัมผัสเชื้อ เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แออัดมีผู้คนหลากหลายและสามารถมีโอกาสรับเชื้อไวรัส (โควิด-19) ได้
ชุมชนบ้านปางหล่ะ อำเภองาว จังหวัดลำปาง เป็นชุมชนที่ได้ให้ความสำคัญต่อผู้ป่วยที่โรคประจำตัว ที่ต้องเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหวด หรือโรงพยาบาลงาว ทางผู้นำชุมชนได้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะต้องเข้าไปในพื้นที่แออัดในสถานที่นั้น ๆ ซึ่งมีผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งโรค เบาหวาน โรคความดันและโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่จะต้องเข้าใช้บริการมากถึง 70 คน ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่ต้องเดินทางไปรับยาเป็นประจำ
ผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้เกิดความคิดที่จะต้องหาแนวทางวิธีในการหลีกเลี่ยงในการเดินทางกับทางในช่วงสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงในการรับเชื้อ ทางชุมชนได้ปรึกษากับทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหวด จนได้ข้อสรุปว่าผู้ป่วยที่จะต้องเดินทางมารับยาที่โรงพยาบาลงาว หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านหวด ไม่ต้องเดินทางมารับยาด้วยตนเองก็ได้ โดยจะนำส่งไปให้กับประธาน อสม. หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และนำแจกจ่ายให้กับ อสม. ที่ดูแลผู้ป่วยนั้น พร้อมทั้งให้ อสม. แนะนำการบริโภคยาให้กับผู้ป่วยด้วย โดยวิธีการรับยานั้น อสม. ที่อยู่ในพื้นที่ที่ตนเองดูแลรับผิดชอบ จะมีข้อมูลของผู้ป่วยและเข้าไปตรวจสอบ วันนัดของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหวด หรือโรงพยาบาลงาว เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ยาของผู้ป่วยใกล้จะหมดทาง อสม. จะเข้าไปทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นการวัดความดันและอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงการสังเกตอาการ และ อสม.ก็จดใส่กระดาษเพื่อจะนำข้อมูลที่ได้ ถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ และนำข้อมูลส่งนำเข้าไลน์กลุ่ม ที่ทาง รพ.สต. เป็นคนตั้งไว้ เพื่อรับข้อมูลของผู้ป่วยที่มีทะเบียนผู้ป่วยอยู่ที่ รพ.สต. และโรงพยาบาลงาวนั้นไว้แล้ว เมื่อทาง รพ.สต.ได้ข้อมูลก็จะเช็คประวัติการรักษาคนไข้ที่มีอยู่อย่างละเอียดพร้อมจัดยาส่งมาให้ชุมชน โดยผ่าน อสม. ที่เป็นชาวบ้านในชุมชนบ้านปางหล่ะนั้นเอง
เมื่อโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหวด จ่ายยาโดยวิธีการดังกล่าวทำให้ได้ผลประโยชน์ทั้งชาวบ้านและทางบุคลากรทางการแพทย์ แต่ที่สำคัญคือการลดความแออัดในพื้นที่เสี่ยง อสม.กลายเป็นบุคลากรหลักในชุมชนที่ช่วยให้บริการจำเป็นทางสุขภาพต่าง ๆ มีความร่วมมือกับภาครัฐและดำเนินไปได้โดยไม่มีข้อติ อสม.บ้านปางหล่ะทุกคน มองว่าเรื่องการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยไม่ได้เป็นภาระเพิ่มขึ้นและเป็นพื้นที่ในชุมชนก็เป็นบ้านของตนเองและตนเองก็เปรียบเสมือนญาติพี่น้องเป็นของผู้ป่วย