จ.ยโสธร แม้จะไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจหลักของภาคอีสาน แต่ก็มีผู้ป่วยสะสมทั้งจังหวัดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันนี้ 6 กันยายน 2564 รวม 4,629 คน เพราะจำนวนหนึ่ง เป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา ซึ่งกว่า 5 เดือนในการรับรักษาผู้ป่วย หลายคนหายจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่หลายคนก็ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือศูนพักคอยในชุมชน เช่น ที่ศูนย์พักคอยวัดพระพุทธบาทยโสธร อ.มหาชนะชัย ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้เข้ารักษากว่า 367 คน และสามารถรักษาผู้ป่วยหายแล้วกว่า 361 คน ส่วนผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่มีเพียง 4 คนเท่านั้น จึงมีการย้ายไปรักษาตัวในโรงพยาบาลมหาชนะชัยต่อไป
และอีกหนึ่งปัญหาของการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 นั่นก็คือเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลนอย่างเครื่องเอกซเรย์ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้ตรวจผู้ป่วยโควิด-19 และช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย นพ.นพพล ธาดากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาชนะชัย จ.ยโสธร บอกว่า นี่เป็นเครื่องมือสำคัญจะช่วยให้รู้อาการผู้ป่วยได้ชัดเจน
“เนื่องจากโควิด-19 เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ และความรุนแรงของโควิด-19 คือทำให้เกิดปอดอักเสบ ซึ่งพบว่าปอดอักเสบจากโควิด-19 บางครั้งคนไข้ที่เราจับออกซิเจนที่ปลายนิ้วออกซิเจนปกติ แต่ปอดถูกทำลายไปแล้ว ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ จะรู้ได้จากการเอ็กซเรย์เท่านั้น ซึ่งเครื่อเอกซเรย์เคลื่อนที่ก็มีความจำเป็น เพราะว่า ก่อนที่เราจะมีเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เราต้องพาคนไข้โควิด-19 ไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นเครื่องติดตั้งประจำที่ และตอนที่พาคนไข้เดินทางไปที่โรงพยาบาลนั่นแหละ ที่จะเกิดความเสี่ยงที่คนไข้จะแพร่เชื้อให้กับผู้ป่วยคนอื่นในโรงพยาบาล เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่จึงจำเป็น”
เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ ที่ถูกส่งมอบให้กับโรงพยาบาลมหาชนะชัย จ.ยโสธร เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือโดยชมรมพ่อค้าอำเภอมหาชนะชัย และชาวมหาชนะชัยทุกคน ในการสนับสนุนบุคลากรด่านหน้าให้สู้กับการระบาดของโควิด-19 และเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ สร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน ทั้งคนที่เข้ามารักษาตัว และคนในชุมชน การร่วมมือกันของภาคประชาสังคมจึงเป็นกลไกสำคัญ
โดย วารินทร์ ทวีกันย์ ย้ำถึงรูปธรรมความร่วมมือของชุมชนในครั้งนี้ “เครื่องเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่เป็นสิ่งที่เราชาวมหาชนะชัยตั้งใจซื้อมาเพื่อให้ระบบสาธารณสุขได้นำมาคัดกลองผู้ป่วยโควิด-19 ที่ศูนย์พักคอยวัดพระพุทธบาท เพื่อคัดกรองผู้ป่วยที่หายแล้วก่อนที่จะให้คนป่วยกลับบ้าน เป็นการตรวจเอกซเรย์ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าหายจริง ๆ และให้ชุมชนเกิดความสบายใจ เกิดความมั่นใจ ซึ่งเครื่องเอกซเรย์เครื่องนี้ นอกจากจะสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยได้แล้ว ยังเป็นเครื่องที่จะทำให้สังคมอยู่กันอย่างมีความสุข เพราะช่วยลดการหวาดระแวง ลดการรังเกียจกันด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึงและได้มารู้ประโยชน์ของมันอีกที คือมันสามารถลดปัญหาทางสังคมได้ด้วย”
นอกจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ การระดมทุนร่วมกันคนละ 5 บาท 10 บาท หรือตามกำลังแรงที่มี ยังแสดงถึงการมีส่วนร่วมดูแลกันของประชาชนที่ไม่ได้รอคอยหน่วยงานเท่านั้น ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้ นอกจากเครื่องเอกซเรย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว ยังเป็นโอกาสสร้างระบบดูแลกันของชุมชน เพื่อเตรียมพร้อมรับวิกฤตโควิด19 หากมีการระบาดอีกครั้งโดยชาวมหาชนะชัย แห่งเมืองบั้งไฟ จ.ยโสธร
author
