ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ ส่งจม.ถึงเกรต้า ธันเบิร์ก สาวน้อยมหัศจรรย์นักเคลื่อนไหวเรื่องโลกร้อน

ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ ส่งจม.ถึงเกรต้า ธันเบิร์ก สาวน้อยมหัศจรรย์นักเคลื่อนไหวเรื่องโลกร้อน

ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นออกมาสื่อสารให้สังคมได้เข้าใจถึงความหวงแหนทะเลหน้าบ้านที่อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งกำลังจะมีโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม เเละเธอตัดสินใจเขียนเขียนจดหมายด้วยลายมือถึงเกรต้า ธันเบิร์ก เยาวชนนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดัง ซึ่งเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดนที่มีอายุน้อย รุ่นราวคราวเดียวกับเธอ

เมื่อวาน(9กรกฎาคม) ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนวัย 17 ปี เดินทางมาจากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ยุติโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เธอได้เดินทางไปยื่นจดหมายถึงเกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตสวีเดน

เนื้อความจดหมายเป็นการเล่าเรื่องชีวิต และสภาพปัญหาที่น้องไครีย๊ะ ระหมั่นยะและชาวอำเภอจะนะ จ.สงขลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่และส่งกำลังใจต่อกันในการขับเคลื่อนเพื่อสังคมเพื่อโลกร่วมกัน

สวัสดี เกรต้า ธันเบิร์กฉันได้ติดตามเรื่องราวและสิ่งที่คุณทำมาระยะหนึ่งแล้ว ในฐานะผู้เคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดนที่มีอายุน้อย แต่ทรงพลัง คุณมีความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้และกำลังรุนแรงมากขึ้นในอนาคต คุณเริ่มต้นด้วยการประหยัดพลังงาน หลีกเลี่ยงการกระทำทุกอย่างที่จะก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่ผู้ใหญ่หลายคนไม่ได้สนใจการกระทำใดๆที่ก่อให้เกิดมลภาวะบนโลกใบนี้ จนทำให้คุณต้องออกมาแสดงออกเพื่อเรียกร้องให้พวกเขาหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งคุณทำมันได้ดีจนเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางและเป็นที่ยอมรับของสังคมโลก ฉันรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ และความความอดทนในตัวของคุณ นี่คือความยิ่งใหญ่ที่ฉันชื่นชมคุณด้วยหัวใจ

ฉันชื่อยะห์ ไครียะห์ ระหมันยะ อายุ 17 ปี เราน่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ฉันอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ชื่อบ้านสวนกง ใน ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่อยู่ติดริมทะเลอ่าวไทย ทางภาคใต้ของประเทศไทย พ่อแม่ของฉัน และคนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นชาวประมงพื้นบ้าน จับสัตว์น้ำอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม บ้านของฉันในอำเภอจะนะมีลำคลอง 2 สาย ที่ไหลลงสู่ทะเล มีระบบนิเวศโดยรวมที่อุดมสมบูรณ์ มีอากาศที่บริสุทธิ์มาก พวกเราสามารถจับสัตว์น้ำทะเลได้ง่ายหลากหลายชนิด ถือเป็นแหล่งรายได้ที่หล่อเลี้ยงฉันและครอบครัวมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนี้สัตว์น้ำทะเลบ้านฉันจะถูกนำไปจำหน่ายที่ตลาดในตัวเมือง และจำนวนหนึ่งถูกนำส่งออกต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี มาเลเซีย สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น ทะเลบ้านฉันจึงเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับคนจำนวนมาก ที่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ทะเลบ้านฉันจึงเป็นเสมือนครัวของอาเซียน นอกจากนี้แล้ว บ้านของฉันยังมีการทำเกษตรแบบอินทรีย์ ปลูกข้าว ทำไร่แตงโม ทำสวน เลี้ยงสัตว์ และที่อำเภอจะนะยังมีการเลี้ยงนกเขาชวากันมาก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง

มาวันนี้ บ้านของฉันกำลังจะกลายเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้เนื้อที่ของชายฝั่งทะเลเกือบ 2 หมื่นไร่ ซึ่งจะเปลี่ยนชุมชนของฉันให้เป็นพื้นที่รองรับโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ กว่า 200 โรง รวมถึงอุตสาหกรรมหนักอย่างปิโตรเคมีก็จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ด้วย อีกทั้งการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่เขตนิคมฯจะต้องตัดต้นไม้จำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อน้ำและระบบนิเวศในคลองและทะเลในวงกว้าง หากเป็นเช่นนั้นจริงไม่ใช่เฉพาะชุมชนของฉันเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ อากาศบริสุทธิ์ ระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม สังคม วิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมถึงอาชีพของพ่อแม่ฉันและพวกเราทุกคนจะหายไป ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความเสียหายในทุกด้านอย่างรุนแรงกับพวกเราในอนาคต และแน่นอนว่าจะเกิดมลพิษขึ้นจากกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างไร้การควบคุม อันจะส่งผลกระทบกับชั้นบรรยากาศของโลกที่จะก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ฉันเป็นคนรุ่นใหม่ในหมู่บ้านคนหนึ่งที่ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในชุมชน เพราะฉันอยากเติบโตอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาวะแวดล้อมที่ดีดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และในอนาคตลูกหลานของฉันก็ต้องมีสิทธิ์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะเช่นนี้ด้วยเช่นกัน สถานการณ์เช่นนี้ ได้ทำให้ฉันคิดถึงคุณ เด็กสาวของโลกที่ไม่เคยย่อท้อต่อความคิดความเชื่อของตัวเอง ที่จะปกป้องโลกใบนี้ไว้ ส่วนฉันที่กำลังปกปัองบ้าน ชุมชน ทะเล และอากาศในพื้นที่เล็กๆ ของอำเภอจะนะ กำลังประสบกับปัญหาอุปสรรคมากมายจากระบบอำนาจของรัฐที่มีอยู่ และรวมถึงความคิดความเข้าใจของพี่น้องเราจำนวนหนึ่งที่อยากจะร่ำรวยจากนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเขาไม่ได้คิดว่าสิ่งนั้นจะต้องแลกกับความหายนะครั้งใหญ่ของชุมชนและของโลกใบนี้

ฉันเดินทางจากบ้านใน อ.จะนะ จ.สงขลา เข้ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศ เป็นระยะทางกว่า 1000 กิโลเมตร เพื่อมายื่นหนังสือถึงผู้นำประเทศของฉันอย่างไร้ความหวังและไม่รู้ชะตากรรมในอนาคต หากแต่เป็นหนทางหนึ่งที่เราจำเป็นต้องทำ ในขณะเดียวกันนี้เพื่อนๆ ของฉันกำลังเดินทางไปเรียนหนังสือหลังจากโรงเรียนปิดมานานกว่า 3 เดือน ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด19 มันทำให้ฉันคิดถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของคุณ ที่เคยเลือกที่จะต้องขาดเรียนหนังสือเพื่อปกป้องโลกใบนี้ไว้ สิ่งนี้ได้ทำให้พลังใจของฉันฟื้นคืนขึ้นอีกครั้ง

ฉันจึงอยากบอกเล่าความคิด ความรู้สึก และเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นกับฉันและพี่น้องของฉันให้คุณได้รับรู้ ด้วยหวังว่าพลังระหว่างเราทั้งสองคนจะเชื่อมโยงถึงกันได้ ซึ่งฉันจะได้นำไปใช้เพื่อการปกป้องบ้านเกิดและชุมชนของฉัน ซึ่งหมายถึงการได้ปกป้องโลกใบนี้ร่วมกันด้วย สิ่งที่คุณทำได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับฉัน ทำให้ฉันมั่นใจในสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ ขอบคุณนะ…เกรต้า

ไครียะห์ ลงท้ายจดหมายว่า ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาไครียะห์ ระหมันยะ 9 ก.ค. 63กรุงเทพฯ ประเทศไทย

จากนั้นเธอเดินทางไปยื่นหนังสื่อต่อผู้แทนองค์กรสหประชาติด้านสิทธิมนุษยชน ประจำประเทศไทย (UN) เนื้อหาระบุถึงข้อกังวลเรื่องผลกระทบที่จะได้รับความเสียหายกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างมหาศาลในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ขาดความมั่นคงในการดำรงชีวิต ทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน หากจะต้องเปลี่ยนสภาพเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเดินทางกลับ  เธอได้อ่านจดหมายที่ตัวเองได้เขียนถึงเกรต้า ธันเบิร์ก และออกแถลงการณ์ช่วยกันจับตาถึงเวทีรับฟังความคิดเห็นต่างโครงการจะนะเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม นี้ด้วย

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ