“เป้าหมายหรือสิ่งที่คุณศึกษาไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณได้แบ่งปันอะไรให้ตัวเองและโลกใบนี้บ้าง”
Santosh Kalwar
โรงเรียนอิตุท่าถูกก่อตั้งขึ้น ในปี ค.ศ.2007 เนื่องจากการลี้ภัยของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาร์ เนื่องจากความขัดแย้งในสงครามกลางเมืองระหว่าง กลุ่มทหารของรัฐบาลเมียนมาร์ และกองกำลังปกป้องตัวเองของชาวกะเหรี่ยง ด้วยเหตุนี้เองทำให้มีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากมายที่ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากภัยสงคราม และแน่นอนหนึ่งในนั้นคือ เยาวชนที่กำลังเติบโต เป็นความหวังของครอบครัวและสังคมของตัวเอง พวกเขาเหล่านี้ กลายเป็นผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา และการเจริญเติบโตในด้านคุณภาพของชีวิต
พวกเขาเหล่านี้มีความฝันและมีอุดมการณ์ของชีวิต แต่ก็ถูกไฟแห่งสงครามแย่งชิงไป ชีวิตของเยาวชนเหล่านี้จึงต้องการผู้ชี้นำ และการช่วยเหลือ
พวกเขาเปรียบเหมือนเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่รอการเจริญเติบโตและการดูแลเอาใจใส่จากคนที่คู่ควรดูแล พวกเขารอวันที่จะผลิบานและออกผลให้แก่คนที่สมควรจะได้เก็บเกี่ยวผลแห่งความชื่นชมยินดี และความหวังจึงทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวของ Theodore N. Vail
“อุปสรรคขวากหนามในชีวิตจริงย่อมมีหนทางเอาชนะ มีเพียงสิ่งที่อยู่ในจินตนาการเท่านั้นที่ไม่อาจเอาชนะได้”
Theodore N. Vail
ดังนั้น โรงเรียนอิตุท่าในค่ายผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยงนั้นจึงถูกก่อตั้งมาเพื่อให้ความหวังกับเยาวชนผู้พลัดถิ่นและ โรงเรียนแห่งนี้จะสร้าง คลื่นแห่งชีวิตใหม่ให้กับเด็ก ๆ ผู้พลัดถิ่นที่ต้องการความรู้และการศึกษาเพื่อมาพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองและเพื่อเป็นกำลังหลักในการรับใช้ครอบครัวของพวกเขาเหล่านั้น โรงเรียนแห่งนี้ถือได้ว่ามีส่วนช่วยผลัดดันโอกาสของเยาวชนให้เพิ่มพูนขึ้น เพราะโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้มอบแค่วิชาความรู้เท่านั้น แต่พวกเขาได้ฝากความหวังและอนาคตให้กับเด็ก ๆ เยาวชนในโรงเรียนแห่งนี้ เพราะเมล็ดที่กำลังจะเติบโตในภายข้างหน้าจะกลับกลายเป็นต้นไม้ที่ใหญ่โตและเป็นร่มเงาให้กับชีวิตอีกนับไม่ถ้วนที่ต้องการที่พักพิงและการช่วยเหลือ
ผมเชื่อว่าเด็กเหล่านี้แม้จะเติบโตในค่ายผู้พลัดถิ่นและได้รับการศึกษาในโรงเรียนของผู้พลัดถิ่น แต่พวกเขาย่อมสามารถใช้ชีวิตด้วยพลังที่เขามีอยู่ได้อย่างเต็มเปี่ยม