#ยืนตรงไร่หมุนเวียน รอบที่สาม ตามคำท้า Thanagorn Atpradit ปฐมบทความขัดแย้งรอบใหม่ “หมอกควันไฟป่ากับการจัดการไฟในไร่หมุนเวียน”

#ยืนตรงไร่หมุนเวียน รอบที่สาม ตามคำท้า Thanagorn Atpradit ปฐมบทความขัดแย้งรอบใหม่ “หมอกควันไฟป่ากับการจัดการไฟในไร่หมุนเวียน”

ปฐมบทความขัดแย้งรอบใหม่ “หมอกควันไฟป่ากับการจัดการไฟในไร่หมุนเวียน”

และแล้วข้อกังวลของชุมชนกะเหรี่ยงเรื่องการทำไร่หมุนเวียนในสถานการณ์วิกฤติหมอกควันและไฟป่าจะกระทบกับการทำไร่หมุนเวียนตามวิถีปกาเกอะญอ หรือการจัดการไฟตามประเพณีหรือตามวิถีวัฒนธรรม ก็เริ่มปรากฏเป็นจริง

เช้านี้ ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสะเมิง เชียงใหม่ โทรมาหารือว่า วันนี้ (17 เมษายน) คณะกรรมการชุมชนได้มีการประชุมเร่งด่วนกับชาวบ้านในพื้นที่ เรื่องการเผาทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่อำเภอสะเมิง เพราะที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องจัดการไฟป่าที่ลุกลามเข้ามาในพื้นที่ป่าชุมชนหรือป่าจิตวิญญาณ ชุมชนยังไม่ได้เผาไร่ในพื้นที่ไร่หมุนเวียน

ที่ผ่านมา ชุมชนได้มีการปรึกษากันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะวิตกว่า ตอนนี้ฝนกำลังจะตกแล้ว ฤดูกาลทำการผลิตหรือทำไร่หมุนเวียนใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงมาตรการห้ามเผาของจังหวัดเชียงใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึง 30 เมษายน 2563 รวมระยะเวลา 80 วัน) แต่ชุมชมคงรอแบบนั้นไม่ได้ เพราะฝนได้เริ่มตกลงแล้ว อันจะเป็นอุปสรรคต่อการทำไร่หมุนเวียน การทำไร่ตามวิถีวัฒนธรรมจะยากขึ้น จึงได้มีการหารือกันชุมชนกับชาวบ้านในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา และได้ส่งตัวแทนเข้าคุยกับนายอำเภอสะเมิงแล้ว ผ่านการประชุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้การจัดการไฟในไร่หมุนเวียนทุกปีที่ผ่านมา ชาวบ้านก็แจ้งให้ฝ่ายปกครอง ท้องที่ ท้องถิ่นให้ทราบมาโดยตลอด แต่ปีนี้ จังหวัดได้ขยายมาตรการห้ามเผาถึง 30 เมษายน ทำให้กระทบกับฤดูกาลทำไร่หมุนเวียน หากรอไปหลัง 30 เมษายน จะทำให้ฤดูกาลคลาดเคลื่อน

แต่นายอำเภอ ยังยืนยันว่าช่วงนี้อยู่ในระหว่างมาตรการห้ามเผาของผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ถ้าจะเผาในพื้นที่ไร่หมุนเวียน หรือพื้นที่ทางการเกษตร จะต้องหลังวันที่ 30 เมษายน 2563 เท่านั้น หากใครฝ่าฝืน มีโทษปรับ 400,000 บาท และการเผาในพื้นที่เกษตรจะต้องทำแผนมานำเสนอว่าการเผาไร่ มีพื้นที่ กี่ไร่,กี่แปลง,กี่วัน,เวลาเผา,เจ้าของแปลง ต้องควบคุมไม่ให้เกิดการลุกลาม แต่เนื่องจากชุมชน เห็นว่ามี ชาวบ้านมีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มดำเนินการเผาในพื้นที่ เพื่อทำพื้นที่การเกษตรในไร่หมุนเวียน อย่างช้าที่สุด น่าจะเริ่มวันที่ 18 เมษานี้แล้ว เพราะกลัวฝนตกลงมา วันนี้จึงนัดชาวบ้านมาประชุมเพื่อขอความเห็นและขอมติประชาคมหมู่บ้านว่าทางชุมชน จะมีแผนจัดการไฟในไร่หมุนเวียน อย่างไร และจะเข้าไปพบเพื่อปรึกษาหารือนายอำเภออีกรอบ

โดยข้อสรุปเบื้องต้นชุมชนจะทำแผนการทำไร่เริ่มวันที่ 19 เมษายน – 16 พฤษภาคม ขึ้นอยู่กับลมฟ้าอากาศ โยจะมีการเผาเวลา 15.00 – 19.00 น. โดยจะทำแผนว่าดำเนินการวันละกี่แปลง..กี่ไร่…กี่คน….พิกัด xy กลางแปลง….และวางกฎระเบียร่วมกันว่าแต่ละแปลงชาวบ้านเจ้าของที่ และกรรมการชุมชน จะต้องร่วมดูเพื่อไม่ให้เกิดไฟลุกลาม และเป็นไฟที่สามารถควบคุมได้ และสร้างกฏระเบียบในการเผาร่วมกัน โดยจะได้นำมติและข้อมูลชุมชนไปยื่นกับนายอำเภอสะเมิงอีกที

เราหวังแต่ว่าการจัดการไฟในไร่หมุนเวียนตามองค์ความรู้ของชุมชนตามรูปแบบการจัดการไฟตามหลักประเพณี หรือการจัดการไฟตามวิถีวัฒนธรรม จะได้มีช่องทางการหารือระหว่างเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้อง ทั้งป่าไม้/อุทยาน, ฝ่ายปกครอง อำเภอ จังหวัด , ท้องถิ่น และชุมชนในพื้นที่ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งนี้โดยเร่งด่วน

มิเช่นนั้นแล้ว ปีนี้ หากชาวบ้านทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่ไม่ได้ จะมีข้าวปลาอาหารที่ไหนกิน ยิ่งในสถานการณ์โควิดแล้ว รัฐเองมิอาจการันตีความมั่นคงทางอาหารให้ประชาชนได้ มีแต่ชาวบ้านเท่านั้นที่จะแก้วิกฤตินี้ได้

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ