กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได พบนายอำเภอสุวรรณคูหา ร้องจัดประชาคมผู้รับผลกระทบ 6 หมู่บ้าน ด้านชุมชนเตรียมจัดฟังความคิดเห็นของประชาชน 20 ก.พ.นี้ เชิญหน่วยงานรัฐ ราชการ เอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน
27 ม.ค. 2563 เวลา 10.00 น. กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ประมาณ 30 คน เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เพื่อคัดค้านการอนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเก่ากลอยและป่านากลาง เพื่อทำเหมืองแร่ ชนิดแร่หินปูนอุตสาหกรรมก่อสร้าง จำนวน 175 ไร่ และโรงโม่หิน อีก 50 ไร่ ตามประทานบัตรเลขที่ 27221/15393 พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายอำเภอจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน และรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ในแนวเขตคำขอประทานบัตร ไม่เกิน 500 เมตร ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560
นางเปี่ยม สุวรรณสนธ์ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได อ่านเนื้อหาในหนังสือ โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1.ขอให้มีการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการรับฟังความคิดเห็นของชุมชนในพื้นที่ที่ขอประทานบัตร พ.ศ. 2561 โดยจัดประชาคมหมู่บ้านที่มีระยะห่างจากแนวเขตคําขอประทานบัตร ไม่เกิน 500 เมตร สำหรับประทานบัตรการทำเหมืองประเภทที่ 2 ซึ่งกรณีนี้มีจำนวน 6 หมู่บ้าน ไม่ใช่ขอบเขตทั้งตำบล 13 หมู่บ้าน
2.กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จะดำเนินการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตามแนวเขตคําขอประทานบัตร ระยะห่างไม่เกิน 500 เมตร จำนวน 6 หมู่บ้าน ในวันที่ 20 ก.พ. 2563 พร้อมทั้งจะมีการเชิญหน่วยงานรัฐและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการประชาคมในครั้งนี้ด้วย
นางเปี่ยม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการทำเหมืองและโรงโม่หิน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมแนบท้ายประทานบัตร ได้กำหนดไว้ว่า หากมีการร้องเรียนจากราษฎรในบริเวณใกล้เคียง ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการทำเหมือง บริษัทต้องยุติการทำเหมือง ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นที่ชัดเจนว่าต้องยุติการทำเหมือง และไม่ต่ออายุประทานบัตรในพื้นที่อีกต่อไป
นายจรูญ วิริยะสังวร นายอำเภอสุวรรณคูหา ได้มารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า เห็นด้วยกับการจัดประชาคม 6 หมู่บ้าน โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม หนักวิชาการ เข้าร่วมประชาคมด้วย ส่วนจะมีหมู่บ้านใดบ้างก็ให้ทางกลุ่มฯ ระบุมาได้เลย และในส่วนของตนเอง ก็จะดำเนินการให้ พร้อมทั้งเสนอเรื่องไปยังจังหวัดต่อไป
ทั้งนี้ ประทานบัตรดังกล่าวกำลังจะหมดอายุลง ในช่วงเดือน ก.ย. 2563 นี้ ซึ่งตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 กำหนดให้ผู้ถือประทานบัตรต้องยื่นขอต่อใบอนุญาตก่อน ไม่น้อยกว่า 180 วัน นอกจากนี้ตามขั้นตอนจะต้องมีการประชาคมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ และได้รับความเห็นชอบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อประกอบการต่ออายุประทานบัตรด้วย