ออกแถลงการณ์ 6 ข้อ เรียกร้องให้รัฐบาลและผู้เห็นต่างปกป้องเสรีภาพและชีวิตของพลเรือน
“ขอเรียกร้องให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ยุติการคุกคามประชาชนทุกกลุ่ม ชาติพันธุ์ศาสนาด้วยการบังคับใช้กฎหมายพิเศษที่ไม่เป็นธรรม…”
ตัวแทนเครือข่ายเฉพาะกิจเพื่อปกป้องพลเรือนฯ ออกแถลงการณ์ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี บ่ายวันนี้(2 มีนาคม)ระบุว่า นับแต่ปลายปี 2560 เป็นต้นมา พลเรือนได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความรุนแรงและการบังคับใช้กฏหมายพิเศษ ทั้งจากการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน และการจับกุม ประชาชนเป็นจำนวนมากในคราวเดียวกันหลายพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกทั้งมีความเป็นไป ได้ว่า จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงละลอกใหม่ตามมาอีก ไม่นับการ ซ้ำเติมสถานการณ์จากความพยายามปิดกั้นและกีดกันการแสดงความคิดเห็นในพื้นที่สาธารณะ
“ดังเช่นกรณีที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับสื่อมวลชนและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในช่วงต้นกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา”
ตัวแทนเครือข่ายฯ ยังเรียกร้องให้กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐหรือขบวนการต่อสู้ปาตานียุติการคุกคามและโจมตี พลเรือนทุกกลุ่มชาติ พันธุ์ศาสนาโดยเด็ดขาด เรียกร้องให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยุติการคุกคามทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการแจ้งความดำเนินคดี (SLAPPs) ต่อประชาชน สื่อมวลชน และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ดำเนินการทบทวนและตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้อย่างตรงไปตรงมา
“ขอเรียกร้องให้ “หุ้นส่วนสันติภาพ” ทั้งรัฐบาลไทย กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐหรือขบวนการต่อสู้ปาตานีทุกกลุ่ม ได้ร่วมกันติดตามและตรวจสอบกรณีคุกคามข้างต้นอย่างใกล้ชิด และขอเรียกร้องให้กลุ่มประชาสังคมผนึก กำลังกันเพื่อป้องกัน สกัดขัดขวางไม่ให้ทุกฝ่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนและปิดกั้นเสรีภาพ ในการแสดงความ คิดเห็น เพื่อตอกย้ำหลักคิดที่ว่า สันติภาพนั้นไม่อาจปรากฎขึ้นได้ หากไร้ซึ่งความเป็นธรรม”
ร่าง-แถลงการณ์-2-มีนาคม-2018-ร่าง-2