เหตุการณ์โรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง กรณีตัวอย่างที่ทำให้เห็นผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพต่อผู้คนที่อยู่โดยรอบ ซึ่งชาวแม่เมาะต้องเผชิญชะตากรรมที่พวกเขาไม่ได้ก่อมานานกว่า 20 ปี
คณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม ร่วมกับกลุ่มจับตาพลังงาน ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการภาพถ่าย “Dark Side of the City ด้านมืดของเมือง” ขึ้นที่หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อให้คนเมืองได้สัมผัสถึงอีกด้านหนึ่งของความสว่างไสวในเมืองใหญ่ นั่นคือชะตากรรมของหลากหลายผู้คนที่ผูกติดกับการใช้พลังงานของคเมือง โดยในงานจะมีการจัดแสดงภาพถ่ายของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะจำนวน กว่า 60 ภาพ
นอกจากนี้ยังมีการเปิดห้องจำลองบรรยากาศสภาพปัญหาในพื้นที่เหมืองถ่านหินให้คนกรุงเทพได้ตระหนักถึงปัญหาที่ชาวบ้านต้องเผชิญมานาน ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่กระตุ้นและเตือนให้สังคมไทยเห็นถึงปัญหาทีตามมาของการพึ่งพาพลังงานจากถ่านหิน
คุณฝ้ายคำ หาญณรงค์ ผู้ประสานงานคณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม ได้กล่าวถึงที่มาและแรงบันดาลใจในการจัดนิทรรศการครั้งนี้
“อยากจะสื่อสารเรื่องพลังงานและผลกระทบจากพลังงานที่เราใช้ ถ้าเอาง่ายๆเลยคือกรุงเทพฯเป็นจังหวัดที่ใช้ไฟจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของประเทศ แล้วก็มักจะถูกนำไปอ้างว่าเรายังต้องการใช้ไฟอีกเยอะมาก เราถึงต้องสร้างโรงไฟฟ้า แต่ว่าเราไม่เคยรู้สึกจริงๆ สัมผัสจริงๆว่าผลกระทบจากการที่เราใช้ไฟแบบนี้มันเป็นอย่างไร”
นักข่าวพลเมืองได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับช่างภาพอิสระ คุณเริงชัยและคุณเริงฤทธิ์ คงเมือง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวถึงสิ่งที่พวกเขาพบเห็นในการเดินทางไปยังโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอแม่เมาะ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้เห็นสภาพบรรยากาศของโรงไฟฟ้าเท่านั้นแต่ยังได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ และสามารถถ่ายทอด ความรู้สึก อารมณ์ความเจ็บปวดของชาวบ้านผ่านภาพถ่าย
คุณเริงชัยเล่าว่า “ก่อนที่จะลงไปในพื้นที่มันมีสถานการณ์ที่ชาวบ้านกำลังฟ้องร้องกับโรงไฟฟ้า ซึ่งศาลปกครองสูงสุดก็พิพากษาให้ชาวบ้านเป็นฝ่ายชนะ และโรงไฟฟ้าต้องชดเชยให้กับชาวบ้าน เราต้องเลยรีบลงไปเพื่อที่จะไปดูว่าชาวบ้านเป็นอย่างไร”
“ในวันที่ไปถ่ายเราก็จะเห็นชาวบ้านนอนสูด ออกซิเจน ซึ่งมันเป็นภาพที่ปกติของพวกเขา แต่สำหรับคนนอกอย่างเราที่เข้าไปดูมันรู้สึกน่าหดหู่มาก” คุณเริงฤทธิ์เสริม
หากภายภาคหน้าประเทศไทยได้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นมาอีกเรื่อยๆหลายแห่ง คำถามที่เกิดขึ้นคือ จะเกิดผลกระทบตามมาเช่นนี้อีกหรือไม่ และประชาชนจะรู้สึกเช่นไร
ภควดี ศรานุรักษ์ หนึ่งในผู้เข้าชมนิทรรศการครั้งนี้ได้ให้ความคิดเห็นว่า “จากที่ดูภาพถ่ายแต่ละภาพมาก็รู้สึกหดหู่ ยังมีอีกหลายคนที่เค้าไม่ได้มีชีวิตที่มีความสุขเหมือนกับเรา เราใช้ไฟใช้โน่นใช้นี่ไปยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนควรจะเลือกใช้พลังงานที่ไม่ต้องทำร้ายสิ่งแวดล้อมและชีวิตของคนอีกหลายคน บทเรียนของชาวแม่เมาะ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกคนควรร่วมกันหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกต่อไป สำหรับนิทรรศการ “Dark Side of the City” จะจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม รวมถึงวงเสวนา “สร้างบทสนทนา เลือกพลังงานที่ไม่ทำร้ายคนอื่น” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร