‘ชาวบ้านปากมูน’ ร้องเจรจาเป็นทางการ เปิดประตูระบายน้ำ ‘เขื่อนปากมูล’

‘ชาวบ้านปากมูน’ ร้องเจรจาเป็นทางการ เปิดประตูระบายน้ำ ‘เขื่อนปากมูล’

27 พ.ค. 2557 สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกร้องเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล หลังจากเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2558 ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและเจรจาร่วมกัน ต่อมาในวันที่ 26 พ.ค. 2558 ได้ประชุมร่วมกับ กฟผ.โดย กฟผ.ระบุไม่มีอำนาจในการเปิดปิดบานประตูเขื่อน เนื่องจากอำนาจอยู่ที่ผู้ว่าฯ จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ห็นชัดเจนว่า กฟผ.และผู้ว่าฯ ต่างผลักภาระความรับผิดชอบให้แก่กัน

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อเรื่องนี้ สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลจึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปเจรจาเพื่อให้เกิดข้อยุติ ว่าใครกันแน่คือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ โดยสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล เรียกร้องให้มีเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการขึ้นในวันที่ 28 พ.ค.2558 เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ผู้แทนจากการไฟฟ้าฯ ที่รับผิดชอบเขื่อนปากมูล ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 7 อุบลราชธานี และผู้แทนสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล เข้าร่วม

“หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดการเจรจากับรัฐบาล ต่อไป” จดหมายเปิดผนึกระบุ 

จดหมายเปิดผนึก
เปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล

ตามที่สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ ให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ตามมติคณะรัฐมนตรีคราววะระการประชุม วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซึ่งที่ผ่านมาสมัชชาคนจนพยายามประสานงานกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับตัวแทนสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) ร่วมกันหลายครั้ง จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ซึ่งรัฐบาลดำเนินการล่าช้ามาก

เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) จึงได้ยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี(นายประทีป กีรติเลขา) เพื่อให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล (รายละเอียดทราบแล้วนั้น)

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลจะส่งหนังสือถึงรัฐบาลในวันเดียวกัน (๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘) พร้อมกับขอประสานงานติดตามความคืบหน้าภายใน ๗ วัน ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านเรียกร้องให้เปิดบานประตูเขื่อนปากมูลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ผู้ว่าราชการได้ชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการไม่มีอำนาจไม่สามารถทำได้ แต่จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้

ต่อมาในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างสมัชชาคนจน(กรณีเขื่อนปากมูล) กับ กฟผ.โดยหัวหน้าส่วนกองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรนธร ซึ่งทาง กฟผ.ได้ชี้แจงว่าเขื่อนปากมูลจะดำเนินการเพิ่มระดับน้ำจากหน้าเขื่อนที่ระดับ ๑๐๖.๐ ม.รทก.เป็น ๑๐๘.๐ ม.รทก. เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ ของเขื่อนปากมูล ในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านได้เสนอให้ กฟผ. เปิดบานประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อให้ปลาสามารถเดินทางเข้ามาในแม่น้ำนั้น กฟผ.ไม่มีอำนาจในการเปิดปิดบานประตูเขื่อนเนื่องจากอำนาจอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงชัดเจนว่า การไฟฟ้าฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบล ต่างโยนความรับผิดชอบ ต่างฝ่ายต่างโยนไปให้อีกฝ่าย อันเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบ และที่สำคัญการที่การไฟฟ้า ฯ อ้างว่าไม่สามารถเปิดประตูเขื่อนปากมูลได้ แต่จะปิดประตูเขื่อนปากมูลเพื่อเพิ่มระดับน้ำ กลับทำได้นั้น สะท้อนได้ชัดเจนว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อเรื่องนี้สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) จึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปเจรจาเพื่อให้เกิดข้อยุติ ว่าใครกันแน่คือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องนี้ โดยสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล)  ขอเรียกร้องให้มีเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ ขึ้น ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. สถานที่ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีองค์ประกอบการเจรจา ดังนี้

๑.) ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

๒.) ผู้แทนจากการไฟฟ้าฯ ที่รับผิดชอบเขื่อนปากมูล

๓.) ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ ๗ อุบลราชธานี

๔.) ผู้แทนสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล)
 
ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อยุติได้ สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดการเจรจากับรัฐบาล ต่อไป

ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน
สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ