21 มิ.ย. 2558 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาปากมูล ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ขณะที่ขณะที่สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล ประมาณ 1,000 คน รวมตัวชุมนุมเพื่อติดตามผล เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เมื่อเวลา 14.00 น. เรณู ตังคจิวางกูรการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่รองประธานคณะอนุกรรมการฯ ออกมาแถลงผลการประชุมต่อชาวบ้านที่ปักหลักอยู่
ผลการประชุมกล่าวโดยสรุปคือ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ชาวบ้าน ที่ประชุมมีมติให้เปิดเขื่อนปากมูลภายใน 13 วัน นับจากนี้ และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามผลจากการเปิดเขื่อน การแก้ไขปัญหาในระยะยาวยังต้องศึกษาข้อมูลและผลกระทบต่างๆ อย่างรอบด้านจากหลายฝ่ายและหลายกลุ่มต่อไป
ชาวบ้านพอใจผลการประชุม และได้แยกย้ายกลับบ้านในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล มีกำหนดจะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือพีมูฟ ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล และพร้อมเสนอปัญหาและความต้องการของกรณีเขื่อนปากมูน ให้กับที่ประชุมใหญ่ได้รับทราบ
ทั้งนี้ สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล ประมาณ 1,000 คน เดินขบวนมาชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อให้กำลังใจคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารวางกำลังสกัดเป็นระยะไม่ให้ชาวบ้านเคลื่อนไปที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
ต่อมาเมื่อเวลา 10.45 น. รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (เลขานุการคณะกรรมการฯ) เดินทางมาพูดคุยชี้แจงรายละเอียดของการประชุมในวันนี้ หลังคณะกรรมการลงพื้นที่ศึกษาข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.58 และขอให้ทางสมัชชาฯ ส่งคนเข้าร่วมรับฟังกลุ่มละ 2 คน ยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ให้ความช่วยเหลือทุกกลุ่ม และให้ชาวบ้านเดินทางกลับบ้านได้ แต่ชาวบ้านยืนยันรอฟังผลการประชุม
เมื่อเวลา 11.00 น. สมัชชาคนจนฯ ส่งตัวแทน 9 คน เข้าไปกับทหาร เพื่อเข้าฟังการประชุมและยื่นหนังสือกับคณะกรรมการฯ ขณะที่ชาวบ้านที่รออยู่ด้านนอก รวบรวมรายชื่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปิดประตูเขื่อน และต้องการให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องเปิดเขื่อน จากนั้น ตัวแทนชาวบ้านได้นำรายชื่อผู้สนับสนุนให้เปิดเขื่อนที่รวบรวมได้จำนวน 1,477 คน ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อให้นำเข้าไปให้คณะกรรมการฯ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มอีกครั้ง มีการสั่งห้ามชาวบ้านโบกธงสัญลักษณ์ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม อ้างว่าจะเป็นการปลุกระดมให้ชาวบ้านกลุ่มอื่นทั่วประเทศเคลื่อนไหว
ส่วนข้อมูลจาก สื่อเล็กๆ ขบวนชุมชน ระบุว่า ปัญหาชาวบ้านซึ่งรับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ยืดเยื้อมากว่า 20 ปีแล้ว โดยเขื่อนดังกล่าวได้รับการอนุมัติสร้างในยุคพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ปี 2532 และเกิดกระแสคัดค้านอย่างหนัก แต่ก็ได้รับการดำเนินการสร้างต่อในยุค รสช.ซึ่งทำรัฐประหารรัฐบาลพลเอกชาติชายในปี 2533 และยุคนายกอานันท์ ปัณยารชุน จนแล้วเสร็จในปี 2537
เขื่อนดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนของชุมชนกว่า 4,000 ครอบครัว แม้จะได้รับการชดเชยบางส่วน แต่ยังคงไม่ครอบคลุมและปัญหายังสะสม จนถึงปัจจุบันชาวบ้านยังคงยืนยันที่จะให้มีการเปิดประตูเขื่อนถาวร เนื่องจากรายงานการวิจัยหลายสิบฉบับต่างเห็นตรงกันว่า กำลังไฟฟ้าที่ได้ไม่คุ้มค่าต่อความสูญเสียมหาศาลที่เกิดขึ้น ทั้งด้านระบบนิเวศน์และชีวิตของผู้คนในชุมชน
ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเปิดประตูเขื่อนรอบล่าสุด คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาปากมูลได้ลงพื้นที่ศึกษาปัญหาข้อเท็จจริง ในวันที่ 19-20 มิ.ย. 2558 โดยเริ่มตั้งแต่ อ.เมือง อ.พิบูลมังสาหาร อ.โขงเจียม และสันเขื่อนปากมูล โดยการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านฝ่ายสนับสนุน กฟผ.เดินทางมาปิดกั้นขบวนรถคณะกรรมการฯ บริเวณสันเขื่อน ส่งผลให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่พอใจและเดินทางมายังศาลากลางเพื่อให้กำลังใจแก่คณะกรรมการในการประชุมวันที่ 20 มิ.ย.2558
ที่มาภาพ: ป้าย บูรพาไม่แพ้