ครูตี๋เตือนระเบิดแก่งแม่น้ำโขงภาค 2 กระทบความมั่นคงไทย-ลาว ชี้ร่องน้ำเปลี่ยน-ทำลายระบบนิเวศ แนะรัฐบาลรีบระงับ ระบุชาวบ้านพร้อมปกป้องด้วยชีวิต
ภาพ: แก่งไก่ ที่พรมแดนไทยลาว บริเวณ อ.เชียงของ
28 มี.ค. 2559 นิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือครูตี๋ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ให้ความเห็นต่อการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 1 (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ณ เมืองซานย่า ณ เมืองโป๋อ๋าว มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 22 – 24 มี.ค.ที่ผ่านมา และมีข่าวว่ารัฐบาลจีนจะเดินหน้าโครงการระเบิดแก่งในแม่น้ำโขงเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้า ว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการะเบิดแก่ง หรือเรียกให้ไพเราะว่าโครงการปรับปรุงร่องน้ำเพื่อการเดินเรือพาณิชย์
ประธานธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงในเขต อ.เชียงของ จ.เชียงราย ต่างมองว่า เกาะแก่งในแม่น้ำโขงมีประโยชน์ทางระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาศัยและหากันของปลา มีความงดงามลักษณะเฉพาะ และมีคุณค่าด้านการท่องเที่ยว
นิวัฒน์กล่าวว่า ความพยายามของจีนที่จะเดินหน้าโครงการระเบิดแก่งเฟสที่ 2 เพื่อการเดินเรือเข้ามาในลาว ซึ่งหมายถึงเส้นทางที่ต้องผ่านพรมแดนลาว-ไทย ที่ จ.เชียงราย เข้าไปยังหลวงพระบางนั้น แสดงให้เห็นว่าจีนเห็นแก่ได้เพียงฝ่ายเดียว
“เขาเอาการค้าเป็นตัวนำและทำลายระบบนิเวศ นี่คือการมาทำร้ายกันถึงหน้าบ้านเรา ชาวบ้านยืนยันว่าไม่ยอมแน่นอน ที่ผ่านมาข้อมูลงานวิจัยต่างๆ ก็มีชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นการทำลายระบบนิเวศ คือการฆ่าแม่น้ำโขงโดยตรง ตอนนี้แม่น้ำโขงบอบช้ำหนักจากเขื่อนจีนมามากแล้ว ยังมาระเบิดแกาะแก่งอีก เขื่อนคุณก็สร้างแล้ว ยังจะมาทำลายแม่น้ำที่บ้านเราอีกหรือ” นิวัฒน์ กล่าว
ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าวว่า ขอให้รัฐบาลในภูมิภาคทบทวนการค้าที่เป็นธรรม การค้าที่ให้คนตัวเล็กตัวน้อยอยู่ได้ ปัจจุบันในภูมิภาคมีถนนสายต่างๆ เกิดขึ้นมากมายที่เชื่อมโยงเส้นทางระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องขยายเส้นทางการเดินเรือแม่น้ำโขงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลทำในสิ่งที่ควรทำ เว้นในสิ่งที่ควรเว้น ตนเชื่อว่าชาวบ้านเราพร้อมที่จะลุกขึ้นมาสู้และปกป้องด้วยชีวิตหากมีการระเบิดแก่งที่เชียงของ
“รัฐบาลไทยต้องทบทวนโครงการนี้ทันที เพราะหากมีระเบิดแก่งบริเวณพรมแดน การปักปันเขตแดนจะเกิดปัญหา เมื่อระเบิดเกาะแก่งที่เป็นตัวชะลอน้ำ จะทำให้ร่องน้ำเปลี่ยน เรื่องนี้ต้องระมัดระวังมาก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศ รัฐบาลต้องพิจารณาให้ดี คณะกรรมการสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ บอกชัดเจนว่าเรื่องเขตแดนบนแม่น้ำโขงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเกาะแก่งหายไป เขตจะแดนเปลี่ยนทันที จะกลายเป็นว่าลาวไทยจะมาทะเลาะกัน หากระเบิดแก่งบริเวณพรมแดน เราได้ยื่นหนังสือและทำทุกอย่าง จนประมาณปี 2547 เราหยุดโครงการไว้ได้ แต่วันนี้กลับจะมาฟื้นอีก” นิวัฒน์ กล่าว
ภาพ: ท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 มี.ค. สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานข่าวว่าจีนวางแผนจะยกระดับเส้นทางเดินเรือล้านช้าง-แม่น้ำโขง โดยขั้นตอนที่ 2 ในการขุดลอกจะเริ่มเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยให้เรือขนาด 500 ตันสามารถเดินทางในแม่น้ำได้ตลอดทั้งปี ข่าวระบุว่าการขุดลอกระยะที่ 2 นั้นจะขยายขอบเขตเข้าไปยังประเทศลาว
โครงการระเบิดแก่งแม่น้ำโขง หรือโครงการปรับปรุงร่องน้ำเพื่อการเดินเรือพาณิชย์ เกิดจากที่รัฐบาล 4 ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนบน ได้แก่ จีน พม่า ลาว และไทย ร่วมกันลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขง ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2543 แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีแก่ง ผา ดอน กว่า 100 แห่ง เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือขนาดใหญ่กว่า 150 ตัน รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศ จึงตั้งคณะกรรมการสำรวจการปรับปรุงความเหมาะสมของโครงการปรับปรุงร่องน้ำ เพื่อการเดินเรือ
ในเวลาต่อมา ได้อนุมัติให้มีการระเบิดเกาะแก่งดังกล่าว โดยเริ่มระเบิดครั้งแรกไปเมื่อเดือน เม.ย. 2545 จากนั้นโครงการได้ชะลอเนื่องจากปัญหาปักปันเขตแดนระหว่างไทยและลาว