ผู้ประสานงาน ขปส. กรณีเขื่อนปากมูล เข้าชี้แจงกรณีจัดงาน 2 ทศวรรษปากมูน เผยรองผู้ว่าฯ ชี้ ไม่ปรองดอง ไม่เป็นงานวิชาการ เหมือนงานชุมนุมขัดกฎอัยการศึก ทั้งห่วงไปลาวดูเขื่อนดอนสะโฮง กระทบต่อความสัมพันธ์สองประเทศ ด้านทหารระบุไม่ขออนุญาติ ให้ทำหนังสือขอพร้อมเข้าชี้แจงไม่เกี่ยวการเมืองที่ค่ายทหาร พรุ่งนี้
วันนี้ (24 ก.พ. 2558) นายกฤษกร (ไพจิต) ศิลารักษ์ ผู้ประสานงานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กรณีเขื่อนปากมูล กล่าวถึงการเข้าชี้แจงกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบล ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานด้านความมั่นคงของจังหวัด หลังถูกเชิญเข้าพบที่ศาลากลางอุบลราชธานี เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงาน 2 ทศวรรษปากมูน
นายกฤษกร ระบุว่า ประเด็นการพูดคุยเริ่มต้นจากนายคันฉัตร ต้นเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อ้างว่าไม่สบายใจต่อการจัดงาน 2 ทศวรรษปากมูน ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในช่วงระหว่าง วันที่ 13-16 มี.ค. 2558 ที่ อ.โขงเจียม ซึ่งมีข้อกังวล อยู่ 4 ประเด็น ดังนี้ 1.การจัดงานที่กำหนดว่าเป็นการรณรงค์หยุดเขื่อนโลก ไม่สอดคล้องกับบรรยากาศของการสร้างความปรองดอง เพราะอาจมีผู้ที่สนับสนุนเขื่อนมาแสดงความเห็น หรือคัดค้านการจัดงาน ซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
2.การใช้ภาษาในหลักการและเหตุผลของการจัดงาน โดยเฉพาะข้อความที่ว่า “นับตั้งแต่ระเบิดลูกแรกดังสนั่นคุ้งน้ำที่คันเห่ว บ้านหัวเห่วในการก่อสร้างเขื่อนปากมูล” เหมือนบอกว่าจะมีลูกที่ 2 ลูกที่ 3 อีก ซึ่งเป็นภาษาที่รับไม่ได้
3.การจัดงานครั้งนี้ ดูแล้วไม่เป็นงานวิชาการเลย เหมือนเป็นงานระดมมวลชน เป็นการชุมนุมซึ่งขัดต่อกฎอัยการศึก
4.การที่กำหนดว่าจะเดินทางลงพื้นที่ สปป.ลาว ไปดูบริเวณสร้างเขื่อนดอนสะโฮงนั้นจะทำให้เกิดปัญหากระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายคันฉัตร ขอความร่วมมือว่าขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในบรรยากาศปรองดอง อยากให้ช่วยกันคิดถึงความสงบสุขของบ้านเมืองไว้ก่อน หากเป็นงานวิชาการที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองก็สามารถทำได้ แต่งานนี้ดูแล้วมันเป็นการจัดการชุมนุมมากกว่า และที่สำคัญยังจะเดินทางไปลงพื้นที่ ที่ สปป.ลาว อีกด้วย ยิ่งจะทำให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย และยังตั้งคำถามว่าการจัดงานได้ข้ออนุญาตทาง มทบ.22 หรือไม่
ส่วนทหารจาก มทบ.22 กล่าวว่า พวกท่านจะจัดงานก็ไม่เห็นมีการแจ้งหรือขออนุญาตมาเลย แล้วหากไม่อนุมัติจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญงานครั้งนี้คงต้องให้หน่วยงานลงไปฟังด้วย หากมีเนื้อหาพาดพิงการเมืองคงต้องถอดปลั๊กออกคือ ไม่ให้จัดต่อและส่งเข้าค่ายเลย
นายทหารจาก มทบ.22 ระบุด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ให้หาคำอธิบายมาว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นงานวิชาการไม่เกี่ยวกับการเมืองอย่างไร เดินทางไปชี้แจงที่ มทบ.22 ในช่วงบ่าย และให้ทำหนังสือขออนุญาตมายื่นอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเรียนผู้ใหญ่ ซึ่งต้องแจ้งไปทางภาค 2 และ คสช.ด้วย แต่การไปดูงานที่ สปป.ลาว นั้นไม่เห็นด้วย
นายกฤษกร ระบุว่าได้ชี้แจงว่า งานนี้จัดทุกปี เพียงแต่ปีนี้พิเศษหน่อยตรงที่มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ เขื่อนดอนสะโฮง ของ สปป.ลาว ซึ่งการลงไปดูพื้นที่ก็เป็นข้อตกลงที่ทำกับทางกรมทรัพยากรน้ำ แต่หากจะมองว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ สปป.ลาว จะสร้างเขื่อนดอนสะโฮง นั้น ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ที่เวียงจันทร์ในที่ประชุม 4 ประเทศ ก็มี 3 ประเทศที่ท้วงติงไม่อยากให้ สปป.ลาว สร้างเขื่อนดอนสะโฮง ดังนั้นการที่ประชาชนไทยจะเดินทางไปดูพื้นที่ ย่อมสอดรับกับท่าทีของกรมทรัพยากรน้ำด้วย ตรงนี้จึงไม่น่าห่วง แต่ก็ถูกท้วงติงจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีว่า ไม่ห่วงไม่ได้ เพราะหากข้ามฝั่งแล้วถูกจับหรือเกิดอันตรายจะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ทั้งนี้ นายกฤษกร กล่าวว่า จะจัดทำหนังสือและเดินทางเข้าชี้แจ้งกับ มทบ.22 ในช่วงบ่าย พรุ่งนี้ (25 ก.พ. 2558)