เปิดงานวิจัยสารตะกั่วในสีทาบ้าน พบ ‘1 ใน 3 ผู้ผลิตสี’ ลดใช้สารตะกั่ว จี้ กมอ.เร่งชงมาตรฐานบังคับ

เปิดงานวิจัยสารตะกั่วในสีทาบ้าน พบ ‘1 ใน 3 ผู้ผลิตสี’ ลดใช้สารตะกั่ว จี้ กมอ.เร่งชงมาตรฐานบังคับ

รายงานสำรวจตลาดสีน้ำมันทาอาคารปี 2558 โดยมูลนิธิบูรณะนิเวศ พบผู้ผลิตสีจำนวน 1 ใน 3 ลดใช้สารตะกั่วในการผลิตสีแล้ว ในขณะที่มีบริษัทใหญ่บางแห่งผลิตสีแบบ 2 มาตรฐาน ร้องคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เร่งเสนอมาตรฐานบังคับให้ ครม. อนุมัติ เพื่อควบคุมปริมาณสารตะกั่วในสีทาบ้าน ป้องกันเด็กไทยได้ผลกระทบจากโรคพิษตะกั่ว และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

20151606180501.jpg

15 มิ.ย. 2558 มูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี และแผนงานพัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าว “สีปลอดสารตะกั่วใกล้เป็นจริง” แถลงผลการศึกษาแนวโน้มใหม่ของตลาดสีไทย จากงานวิจัยปี 2558 โดยมูลนิธิบูรณะนิเวศ ณ ห้องประชุม Dipak C.Jain ชั้น 1 อาคารศศนิเวศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

20151606180524.jpg

นางสาวอัฏฐพร ฤทธิชาติ นักวิจัยมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ. 2558 นี้ ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศได้ดำเนินการสำรวจตัวอย่างสีน้ำมันทาอาคาร 100 ตัวอย่าง จาก 56 ยี่ห้อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ 35 บริษัท พบมีผู้ประกอบการผลิตสีปลอดสารตะกั่วจำนวนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผลการสำรวจตลาดสีเมื่อปี พ.ศ. 2556 

โดยพบว่า ในปี 2558 ผลิตภัณฑ์สีกลุ่มโทนสีขาว มีผลิตภัณฑ์สีปลอดสารตะกั่วเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 69 ขณะที่ในปี 2556 มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 28 และผลิตภัณฑ์สีกลุ่มโทนสีสดมีสีปลอดสารตะกั่วเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 จากที่ในปี 2556 มีเพียงร้อยละ 2 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ผลิตสีจำนวน 1 ใน 3 หรือ 11 บริษัทใน 35 บริษัท ที่ลดใช้สารตะกั่วในการผลิตสีแล้ว และมีบางรายเลิกใช้สารตะกั่วในกลุ่มสีขาวและสีสดทุกยี่ห้อ

 

20151606180600.jpg

20151606182327.jpg

อย่างไรก็ตาม นางสาวอัฏฐพรแสดงความห่วงใยกรณีผู้ผลิตสียักษ์ใหญ่บางรายที่สามารถผลิตสีปลอดสารตะกั่วได้ แต่ยังมีการใช้สารตะกั่วปริมาณสูงมากในการผลิตสีบางยี่ห้อของตน และยังโฆษณาว่าเป็นสีที่เหมาะสมใช้งานตกแต่งภายในอาคารและบ้านเรือน 

นอกจากนี้นางสาวอัฏฐพรยังชี้ว่า จากผลการศึกษาของมูลนิธิในปีนี้ยังคงปรากฏผลเช่นกับเมื่อ 2 ปีก่อน นั่นคือไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างราคากับการใช้สารตะกั่ว กล่าวคือ กลุ่มตัวอย่างสีปลอดสารตะกั่วในขนาดบรรจุ ¼ แกลลอน มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 69 ถึง 359 บาทต่อกระป๋อง ขณะที่สีที่มีปริมาณสารตะกั่วสูง (เกิน 100 พีพีเอ็ม) ในขนาดบรรจุเท่ากัน มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 64 ถึง 315 บาท ข้อมูลที่พบจึงไม่บ่งชี้ว่า สีที่มีสารตะกั่วจะมีราคาถูกกว่าสีปลอดสารตะกั่ว อย่างไรก็ดีการกำหนดราคาสีในท้องตลาดมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก

20151606180949.jpg

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายว่า สารตะกั่วเป็นพิษต่อพัฒนาการเซลล์สมองของเด็กเล็ก การได้รับสารตะกั่วจากฝุ่นสีโดยเฉพาะในเด็กวัย 0-6 ปี จะส่งผลให้สติปัญญาบกพร่อง และก่อให้เกิดโรคสมาธิสั้นและพฤติกรรมก้าวร้าว แม้ได้รับสารตะกั่วในปริมาณเพียงเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีระดับสารตะกั่วที่ปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์ 

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า ในแต่ละปีมีเด็กในประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ต่ำ ที่มีสติปัญญาบกพร่องเพราะพิษตะกั่วสูงถึง 600,000 คน ซึ่งภาวะนี้ก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอย่างมหาศาล 

อาจารย์ชาญณรงค์ ไวยพจน์ ประธานอนุกรรมการวิชาการด้านวิศวกรรมความปลอดภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนนโยบายการเพิกถอนสารตะกั่วจากสีเพื่อแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ เนื่องจากเมื่อสีปนเปื้อนสารตะกั่วถูกใช้งานแล้วจะต้องเป็นภาระของผู้ปกครองและโรงเรียนในการขูดลอกสีอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันมิให้ฝุ่นตะกั่วแพร่กระจายสู่สภาพแวดล้อม 

20151606181053.jpg

นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตือนผู้บริโภคเรื่องการหลอกลวงทางฉลาก กรณีสีบางยี่ห้อแสดงฉลากโฆษณาว่า “ไม่ผสมสารตะกั่ว” แต่กลับตรวจพบสารตะกั่วสูงถึง 35,000 พีพีเอ็ม พร้อมเรียกร้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งประกาศให้สีทาบ้านเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก 

นางสาวเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติได้กำหนดให้การเพิกถอนสารตะกั่วจากสีเป็นวาระเร่งด่วน โดยจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อเพิกถอนสารตะกั่วจากสี (Global Alliance to Eliminate Lead Paint – GAELP) และกำหนดเป้าหมายให้รัฐสมาชิกทุกประเทศออกกฎหมายห้ามใช้สารตะกั่วในการผลิตสีภายในปี 2563 

ล่าสุด ประเทศเพื่อนบ้านเริ่มออกกฎหมายห้ามใช้สารตะกั่วในผลิตภัณฑ์สีแล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และเนปาล โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เตือนผู้ประกอบการไทยให้ปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศอย่างเคร่งครัดและพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้าของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคในการส่งออก เนื่องจากไทยมีมูลค่าการส่งออกสีทาและวานิชไปฟิลิปปินส์เฉลี่ยปีละ 616 ล้านบาท 

20151606180906.jpg

นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯ ร่วมกับสำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นผู้ผลิตสีขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) พบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 95 ยินดีปฏิบัติตามกฎหมายหรือมาตรฐานบังคับให้เลิกใช้สารตะกั่ว และเสนอให้รัฐมีมาตรการที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมามาตรฐานสมัครใจไร้สภาพบังคับทำให้ในท้องตลาดสีของไทยยังมีผลิตภัณฑ์สีที่มีสารตะกั่วอีกจำนวนมาก

กลุ่ม SMEs ยังเสนอให้รัฐเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และให้การสนับสนุนเชิงเทคนิควิชาการแก่ผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต 

นางสาวเพ็ญโฉม เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ได้จัดทำมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อควบคุมปริมาณสารตะกั่วในสีน้ำมันเสร็จแล้ว (มอก. 2625-2557) แต่ปัจจุบันยังไม่มีผลเป็นมาตรฐานบังคับ จึงเรียกร้องให้ กมอ. เร่งเสนอมาตรฐานบังคับให้ ครม. อนุมัติ เพื่อคุ้มครองสุขภาพและสติปัญญาของเด็กไทย และป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจในอนาคต  

 

หมายเหตุ: มูลนิธิบูรณะนิเวศ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ทำงานเพื่อความเป็นธรรมและความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยศึกษาและติดตามนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรม สถานการณ์มลพิษอุตสาหกรรม และรูปแบบการบริโภคที่ไม่ยั่งยืน เน้นส่งเสริมความเป็นธรรมในการจัดการสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม ธรรมาภิบาล และความพร้อมรับผิดของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยมุ่งเน้นที่ผลกระทบของสารเคมีอันตรายที่เกิดต่อระบบนิเวศน์ ชุมชน และสุขภาพของคนงาน

งานศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิกถอนสารตะกั่วจากสีในเอเชีย (Asian Lead Paint Elimination Project) เป็นความร่วมมือระหว่างเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อเพิกถอนสารพิษตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม (IPEN) และองค์กรภาคประชาสังคมใน 7 ประเทศทั่วเอเชีย ได้แก่ บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา เนปาล อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ และไทย และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสหภาพยุโรป ภายใต้โครงการส่งเสริมการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน (Switch Asia)

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

Prev

March 2025

Next

Mon

Tue

Wed

Thu

Fri

Sat

Sun

24
25
26
27
28
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
6

19 March 2025

Nothing to show.

เข้าสู่ระบบ