สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมฯ แถลงต่อเนื่อง กรณีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ บุกบ้านพัก-หอพักนักศึกษา ร้องขอความชัดเจนของวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายในการตรวจค้น จี้รัฐชี้แจงข้อมูลสู่ความเข้าใจแก่ประชาชนโดยเร็ว อีกทั้งคัดค้านการตรวจ DNA ของผู้ถูกต้องสงสัยหรือตรวจค้น เผยเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางมิชอบ
26 เม.ย. 2558 สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) ออกแถลงการณ์ตอเนื่อง ฉบับที่ 2 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารบุกตรวจค้นหอพักนักศึกษาย่านรามคำแหง จากกรณีเมื่อวานนี้ (25 เม.ย. 2558) เวลาประมาณ 6.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวม 1,800 นาย เข้าบุกค้นหอพักย่านรามคำแหง วังทองหลาง ตลอดจนย่านลาดพร้าว
แถลงการณ์ระบุการเข้าบุกค้นหอพักนักศึกษาหญิงและนักศึกษาชาย สร้างความตื่นตระหนกหวาดผวาอย่างสูงให้กับนักศึกษา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกลุ่มดังกล่าวได้ใช้ท่าทีข่มขู่ให้นักศึกษาเปิดประตูหอพักเพื่อเข้าตรวจค้น นักศึกษาจึงยินยอมให้เข้าไปตรวจด้วยความขืนใจและเพื่อแสดงว่าตนมีความบริสุทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการ “รามคำแหงร่มเย็น”
หนึ่งในจุดใหญ่ที่เข้าตรวจค้น คือชุมชนภายในซอยรามคำแหง 53/1 แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีนักศึกษาพักอาศัยอยู่จำนวนมาก และได้เชิญตัวนักศึกษาผู้ต้องสงสัยกว่า 10 คน ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งการตรวจสอบไม่พบยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เข้าข่ายการละเมิดและคุกคามต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของนักศึกษา อีกทั้งยังอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ที่ต้องการมีส่วนร่วมรณรงค์เปิดและขยายพื้นที่ทางการเมืองสู่การลดพื้นที่การใช้ความรุนแรงในการนำพาสังคมไทยให้สงบสุข ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของภาครัฐโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่ได้พยายามใช้นโยบายขับเคลื่อนสังคมให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องต่อรัฐดังต่อไปนี้ 1.ขอความชัดเจนของวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายในการตรวจค้น รวมถึงการใช้อำนาจใดตามรัฐธรรมนูญ และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐชี้แจงข้อมูลสู่ความเข้าใจแก่ประชาชนโดยเร็ว
2.ขอคัดค้านการตรวจ DNA ของผู้ถูกต้องสงสัยหรือตรวจค้น โดยที่เจ้าของไม่ยินยอมหรือการกระทำให้ยินยอมให้ตรวจ ซึ่งเป็นการละเมิดขั้นพื้นฐานของตัวบุคคลในฐานะมนุษย์ และเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางมิชอบ
3.ขอคัดค้านวิธีการดังกล่าว เพราะย่อมเป็นการดีถ้าก่อให้เกิดความร่มเย็นแก่ประชาชนจริงๆ แต่การปราบปรามไร้ซึ้งการให้เกียรติพลเมืองเช่นนี้ เสี่ยงก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สวนทางกัน กลายเป็นว่าเป็นรัฐเองจุดไฟแห่งความเกลียดชังระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งรัฐเองต้องการความร่วมมือของคนในชาติในการก้าวพ้นความขัดแย้งที่มีอยู่
ก่อนหน้านี้ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ระบุดังนี้
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) กรณีเจ้าหน้าที่ทหาร/ตำรวจ บุกบ้านพัก/หอพักนักศึกษา การปฏิบัติการตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายในครั้งนี้เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการ “รามคำแหงร่มเย็น” โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รวม 1,800 นาย จากการสอบถามนักศึกษาที่ถูกบุกค้นพบว่าส่วนใหญ่รู้สึกหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บ้างเป็นนักศึกษาหญิงพักอาศัยอยู่คนเดียว บ้างเป็นคู่สามีภรรยากำลังหลับนอน บ้างกำลังอาบน้ำ และนักศึกษาที่ถูกบุกค้นทั้งหมดล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากไม่พบบุคคลหรืออาวุธที่กระทบต่อความมั่นคง บ้างถูกเจ้าหน้าที่เอานกกรงหัวจุกสุดที่รักไป นักศึกษาท่านหนึ่งกล่าวว่า ตนจะรู้สึกดีมากหากการขับเคลื่อนโครงการรามคำแหงร่มเย็นให้ทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าต้องเป็นหอพักนักศึกษาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทำไมต้องที่รามฯ และเป็นหอพักของตนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ควรมีข้อมูลและกระบวนการในการบุกค้นให้รัดกุมมากกว่านี้ |
ปฏิบัติการเร่งด่วน ตรวจค้นหอพัก ที่หน้าราม กทม.เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด ได้ปฏิบัติการตรวจค้…
Posted by Wartani on Friday, April 24, 2015