7 ก.ย. 2559 เครือข่ายสลัม 4 ภาค เผยแพร่แถลงการณ์ “หยุด !! ไล่รื้อ ชุมชนป้อมมหากาฬ เมืองจะเจริญไม่ได้ ถ้าปราศจากคนจน” ผลักดันกรุงเทพมหานครปฏิบัติตามข้อสรุปที่ได้มีการเจรจาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2559 คือ 1.การเข้ารื้อบ้านเรือนจะกระทำเพียง 12 หลัง ที่ผู้อยู่อาศัยยินเยอมให้รื้อเท่านั้น
2.จะตั้งคณะกรรมการพหุภาคี เพื่อหาทางออกระยะยาวร่วมกัน 3.บ้านโบราณกลางชุมชนทางกรุงเทพหมานครจะไม่ทำการรื้อทำลาย และจะให้ทางชุมชนเป็นผู้ดูแลรักษาต่อไปในอนาคต 4.หากการรื้อทำลายบ้านเรือนทั้งหมดตามที่ตกลงกันแล้วจะไม่มีการรื้อทำลายบ้านเรือนชุมชนอีกต่อไป และจะวางแนวการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในคณะกรรมการพหุภาคี
อีกทั้งเรียกร้องให้ หยุดการรื้อทำลายทรัพย์สินของชุมชนป้อมมหากาฬ พร้อมทั้งเร่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีขึ้นมา เพื่อพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะที่ดูแลรักษาร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน
ภาพเหตุการณ์การไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
ที่มาภาพ: เฟซบุ๊ก Phapop Saengkong
หยุด !! ไล่รื้อ ชุมชนป้อมมหากาฬ จากสถานการณ์ที่กรุงเทพมหานครจะดำเนินการรื้อทำลายบ้านเรือนชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา และได้มีการเจรจาหารือกันหลังจากที่มีการรื้อทำลายทรัพย์สินชุมชนบางส่วน โดยมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และผู้แทนชุมชน เข้าร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้ 1. การเข้ารื้อบ้านเรือนจะกระทำเพียง 12 หลัง ที่ผู้อยู่อาศัยยินเยอมให้รื้อเท่านั้น หลังจากการเจรจาชาวชุมชนป้อมมหากาฬ ได้อำนวยความสะดวกในการเข้ารื้อถอนบ้านทั้งหมดที่มีการตกลงร่วมกัน แต่ภาพข่าว และกระแสข่าว ที่ออกมาจากทางกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เป็นดั่งที่ได้มีการพูดคุยเจรจา ไม่มีความชัดเจนว่าจะหยุดการดำเนินการเพียง 12 หลังที่ยินยอม กลับวางเป้าหมายที่จะรื้อทำลายทั้งชุมชนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้ต่อสาธารณะ และชาวชุมชน เป็นการหลอกประชาชนเพื่อรุกคืบการทำลายชุมชน เครือข่ายสลัม 4 ภาค ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิที่อยู่อาศัยเห็นว่าการพัฒนาเมืองโดนการทำลายชุมชนโบราณ แล้วนำมาทำเป็นสวนหย่อมเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาในสังคมโลกปัจจุบัน ทั้งที่ทางชุมชนก็สามารถพัฒนาทำให้เป็นอย่างที่กรุงเทพมหานครต้องการทำได้โดยไม่ต้องรื้อทำลายชุมชนโบราณเก่าแก่ ซึ่งจะขัดต่อนโยบายรัฐบาล ในการแก้ปัญหาคนจน และลดความขัดแย้ง , ขัดต่อข้อเสนอของนักวิชาการและสังคมที่เสนอแนวทางการแก้ปัญหาคนจนอย่างมีส่วนร่วมด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน และยังขัดต่อหลักการสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ดังนั้นจากเหตุผลข้างต้น เครือข่ายสลัม 4 ภาค เห็นว่า กรุงเทพมหานครควรจะปฏิบัติตามที่ได้มีการเจรจาไว้เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 ที่ได้สรุปไว้ข้างต้น และหยุดการรื้อทำลายทรัพย์สินของชุมชนป้อมมหากาฬ พร้อมทั้งเร่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีขึ้นมา เพื่อพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะที่ดูแลรักษาร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน ด้วยจิตคารวะ |