หนี่ ธ่อ ซอ ปกาเกอะญอ วันรวมญาติเพื่อสืบสานวิถีวัฒนธรรมที่มือเจะคี

หนี่ ธ่อ ซอ ปกาเกอะญอ วันรวมญาติเพื่อสืบสานวิถีวัฒนธรรมที่มือเจะคี

หนี่ ธ่อ ซอ ปกาเกอะญอ วันรวมญาติเพื่อสืบสานวิถีวัฒนธรรม

 
                    หากไม่นับคนลัวะ  ชนเผ่าปกาเกอะญอเป็นชนเผ่าดั้งเดิมที่สุดในบรรดาชนเผ่าภาคเหนือของประเทศไทย  ตามความเชื่อที่บอกต่อกันมารุ่นต่อรุ่นของคนปกาเกอะญอ ได้มีการตั้งถิ่นรกรากในดินแดนระหว่างแม่น้ำโขงกับแม่น้ำสาละวินมาเป็นระยะเวลาพันกว่าปีแล้ว ก่อนที่จะมีอาณาจักรล้านนา   ในยุคสร้างบ้านแปงเมือง ของอาณาจักล้านนา คนลัวะได้ต่อสู้ด้วยการต้านทานทางทหารกับพญาเม็งรายผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้านนา  ในที่สุดคนลัวะก็พ่ายแพ้และตกเป็นเชลยศึก  แต่คนปกาเกอะญอต่อสู้ด้วยการหนีขึ้นเขาบ้างและไปในที่ที่ห่างไกลจากอิทธิพลของอาณาจักรใหญ่ ไม่ว่าในป่าหรือในที่ทุรกันดาร  โดยไม่ยอมตกเป็นทาสและเชลยศึก เพื่อรักษาความเป็นอิสระทางวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชนเผ่าปกาเกอะญอเอาไว้ 

                  แต่เมื่อมีการแบ่งพรมแดนประเทศในสมัยอาณานิคมอังกฤษปกครองพม่า และอาณานิคมฝรั่งเศสปกครองลาว คนปกาเกอะญอที่อยู่ในพื้นที่สยามถูกผนวกเข้าเป็นพลเมืองของสยามประเทศจนไม่สามารถหนีข้ามพรมแดนได้อีกต่อไป ภายใต้การเมืองการปกครองของสยามประเทศซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น ประเทศไทย ได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น  ทำให้พื้นที่ชนบทเช่น พื้นที่ชุมชนชาติพันธุ์ถูกพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเอื้อต่อการผลิตในระบบอุตสาหกรรมของเมืองใหญ่ๆ  พื้นที่ชุมชนชาติพันธุ์กลายเป็นผู้ผลิตขั้นปฐมภูมิให้แก่ระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมในที่สุด

                 แต่อย่างไรก็ตามชุมชนปกาเกอะญอเองก็พยายามปรับตัวเพื่อยืนหยัดในภูมิปัญญา ตามองค์ความรู้และวัฒนธรรมของชนเผ่า  แม้จะมีกระแสทุนนิยมเข้ามารุกเร้าอย่างเข้มข้นก็ตาม โดยปัจจุบันชนเผ่าปกาเกอะญอได้รับการยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะแวดวงสังคมที่ทำงานด้านทรัพยากรสิ่งแวดล้อมว่าเป็นชนเผ่าที่มีวิถีการอยู่กับป่าและมีภูมิปัญญาในการดูและรักษาป่าที่ยั่งยืนที่สุดเผ่าหนึ่งในโลกนี้ ชนเผ่าปกาเกอะญอหรือภาษาทางการไทยเรียกว่า กะเหรี่ยงปัจจุบันมีจำนวนประชากรในประเทศไทยมากกว่า 500,000 คน ตั้งถิ่นฐานครอบคลุม 15 จังหวัดได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย เพชรบุรี   สุพรรณบุรี อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนับเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทยขณะนี้   แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าปกาเกอะญอหลายอย่างได้เลือนหายไปในสังคมปกาเกอะญอในประเทศไทย โดยเฉพาะปีใหม่ปกาเกอะญอ ซึ่งน่าจะเป็นวันสำคัญทางวัฒนธรรมของปกาเกอะญอกลับไม่มีการรื้อฟื้นมาจัดอย่างเป็นทางการ  โดยชุมชนที่ถือคริสต์ได้ถือเอาปีใหม่สากลมาแทนปีใหม่ของตน  ชุมชนที่นับถือพุทธก็ถือเอาปี๋ใหม่เมืองหรือสงกรานต์มาแทนปีใหม่ของตน  จึงเกิดคำถามแก่ลูกหลานปกาเกอะญอและสังคมปกาเกอะญอว่าในขณะที่ชนเผ่าอื่นเช่น ม้ง มีปีใหม่ม้ง ลีซูมีปีใหม่ลีซู เป็นต้น แล้วปีใหม่ตามวัฒนธรรมคนปกาเกอะญอไม่มีหรือ

                  มูลนิธิภูมิปัญญาชาติพันธุ์ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านวัฒนธรรม ได้ร่วมกับ องค์กรเครือข่าย ภาคีที่ทำงานในพื้นที่ชุมชนปกาเกอะญอจากหลากประเด็นหลายพื้นที่เช่น เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม  มูลนิธิการศึกษาเพื่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-สาละวิน  มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย  คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊พติสแห่งประเทศไทย ศูนย์เยาวชนคาทอลิคสังฆมลฑลเชียงใหม่  สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมชาวไทยภูเขา  สมาคมปกาเกอะญอเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและสังคม  สมาคมปกาเกอะญอเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน  โครงการพระบัณฑิตอาสาบนพื้นที่สูง ศูนย์อบรมพระคริสต์ธรรมสิโลอัม ได้ร่วมกันศึกษาถึงความเป็นมาของวันปีใหม่ปกาเกอะญอ  จนได้ข้อค้นพบว่าปีใหม่ปกาเกอะญอนั้นได้มีชื่อเฉพาะที่เป็นภาษาปกาเกอะญอว่า “หนี่ ธ่อ ซอ” ซึ่งจะพิจารณาดูที่พระจันทร์เป็นหลัก โดยมีชุดความรู้ของคนปกาเกอะญอที่มีการนับเดือนหรือปฏิทินแบบฉบับของปกาเกอะญอเอง แต่ชุดความรู้วันสำคัญได้เลือนหายจากสังคมปกาเกอะญอประเทศไทยมากว่า 40 ปี   ดังนั้นทางองค์กรภาคีเครือข่ายที่ทำงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมปกาเกอะญอได้มีความเห็นร่วมกันว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการฟื้นวันสำคัญทางประเพณีปีใหม่ของชนเผ่า ให้กลับมาทำหน้าที่เป็นวันชนเผ่าปกาเกอะญออีกครั้ง

                   ปีนี้นับเป็นเรื่องที่น่ายีนดีสำหรับคนปกาเกอะญอประเทศไทย ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ได้ผ่านความเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอ แนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ซึ่งครอบคลุมเรื่องของประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญของชนเผ่า การฟื้นประเพณีปีใหม่ปกาเกอะญอจึงเป็นการสนองตอบนโยบายนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่ชุมชนปกาเกอะญอ ด้วยเหตุนี้เครือข่ายองค์กรที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องมีเวทีมาคุยกันเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ของชนเผ่าและร่วมระดมความคิดในการกำหนดทิศทางและจัดกระบวนการขับเคลื่อนของชนเผ่าเพื่อการดำรงความเป็นชาติพันธุ์ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในยุคปฏิรูป  โดยเลือกวันปีใหม่ตามวัฒนธรรมปกาเกอะญอ เพื่อฟื้นวันรวมญาติของชนเผ่าปกาเกอะญอให้เป็นพื้นที่ในการพบปะแลกเปลี่ยนสังสรรค์ทางประเพณีของวัฒนธรรมชนเผ่า  ภายใต้ชื่องาน “หนี่ ธ่อ ซอ วันปีใหม่รวมญาติปกาเกอะญอและมหกรรมดนตรีนานาชาติพันธุ์”ขึ้นในวันที่ 14 และ15 มกราคม 2554 นี้

         เพื่อเป็นพื้นที่เวทีในการระดมความคิดเห็นร่วมกันของคนชนเผ่าปกาเกอะญอในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนอนาคตของชนเผ่าในยุคปฏิรูป
         เพื่อรื้อฟื้นประเพณี หนี่ ธ่อ ซอ ปีใหม่วันรวมญาติปกาเกอะญอทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เจตนารมณ์มติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงให้เกิดเป็นรูปธรรมจริงในชุมชนปกาเกอะญอ
        เพื่อสร้างพื้นที่และกระบวนการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมสำหรับเยาวชนชนชาติพันธุ์และสาธารณะผ่านงานประเพณีและพิธีกรรมทางวัฒนธรรมของชุมชน

         โดยจัดกิจกรรมที่บ้านแม่ปอน   หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกลาง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
 
กำหนดการ หนี่ ธ่อ ซอ ปกาเกอะญอ วันรวมญาติเพื่อสืบสานวิถีวัฒนธรรม
                      14-15 มกราคม 2554
ณ บ้านแม่ปอน  ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง  จังหวัดชียงใหม่
วันที่/เวลา   กิจกรรม
14 มกราคม 2554  เวลา 18.00 น.
 –   กล่าวต้อนรับโดยการขับลำนำ ธา จากโมะโชะ ในพื้นที่
–   กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์  โดย บาทหลวงชาญชัย  เต็มอรุณรุ้ง
–   กล่าวเปิดงาน โดย นายก่อชิ เพชรพนาไพร  นายกเทศบาลบ้านหลวง
–   การแสดงต้อนรับโดยเยาวชนแม่ปอน 
–   การแสดงดนตรี กะเหรี่ยงโพล่ง  โดยพาตี่อยู่โป่ย  หยกสถาพรกุล
–    ผู้อาวุโสกล่าวโอวาท โดยครูศรีแก้ว  ศรีประเสริฐ
–   การแสดงดนตรี  โดยตือโพ 
–   การแสดงจากนักเรียน ศิลปะการต่อสู้
–   การแสดงดนตรี โดยพาตี่ทองดี  ตุ๊โพ
–   การแสดงรำตง จากพี่น้องโพล่ง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 
–   การแสดงดนตรี  โดยศิลปินอ๊อด  วิฑูรย์
–   การแสดงรำไฟ จากเยาวชน เครือข่าเกษตรกรภาคเหนือ
–   การแสดงรำเชือกสามัคคี จากพี่น้องโพล่ง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 
–   การแสดงดนตรี โดยจุ๊ย
–   การนับถอยหลังปีใหม่ปกาเกอะญอ การเฉลิมฉลอง จุดพลุ 7 ลูก
–   กล่าวอวยพร  โดย พระสังฆราช  สังฆมลฑลเชียงใหม่
                (พิธีกรประจำวัน อาจาย์ประชัน ผาตินันธ์)

15  มกราคม 2554
08.30- เป็นต้นไป   (พิธีกรประจำวัน คุณชิ สุวิชาน  )
–   อูแกว ส่งสัญญาณการเปลี่ยนสู่ปีใหม่
–   ตั้งแถวจัดขบวน
–   เดินขบวนพร้อมกับตีฆ้อง กลอง ฉาบ ดุริยางค์โรงเรียนบ้านแม่ปอน
–   กล่าวรายงานต่อประธาน โดย นายซันนี่  แดนพงพี
–   ประธานกล่าวเปิด  โดยนายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม
–   ตีโกล๊ะ เปิดพิธี โดย ประธานและตัวแทนผู้อาวุโสปกาเกอะญอ 
–   ยกเสากระดูกปลา โดยตัวแทนจากพี่น้องโพล่ง
–   ยกสุ่มไก่ โดยตัวแทนจากพี่น้องสกอร์
–   เชิญ ธงชาติไทย พร้อมร้องเพลงชาติไทย
–   ปัก เชกอ, เชวา และเชซู โดยเยาวชนตัวแทนผู้ชาย หญิงโสด และแม่บ้าน
–   ร้องเพลงประจำชนเผ่าปกาเกอะญอ
–   กล่าวปฐกถา  โดย พะตี่มูเสาะ  เสนาะพรไพร  ผู้อาวุโสชาวปกาเกอะญอ
–   สานส์ แสดงความยินดีจากเครือข่ายองค์กรต่าง ๆ 
–              เพลงสดุดีมหาราชา
–   รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน (อาหารพื้นบ้านปกาเกอะญอ)
13.30   เวทีเสวนาสาธารณะ  “เขตวัฒนธรรมพิเศษ ตามมติ ครม. 3 สิงหาคม  2553 และทิศทางการมีส่วนร่วมของชนเผ่าปกาเกอะญอในกระบวนการปฏิรูปประเทศไทย”   โดยมีผู้ร่วมเวทีจาก ตัวแทนแกนนำคนปกาเกอะญอ  วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่   ตัวแทนเครือข่ายชาติพันธุ์   รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม   กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กระทรวงมหาดไทย  ตัวแทนคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย  ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายทรัพยากรและสิทธิเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง  นักวิชาการ
–   ดำเนินรายการโดย คุณณาตยา  แวววีรคุปต์  จากรายการเวทีสาธารณะ  สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย

 
19.30 เป็นต้นไป   พิธีกรช่วงค่ำ นายสรศักดิ์  เสนาะพรไพร
– กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์   บาทหลวงชาญชัย  เต็มอรุณรุ้ง
– กล่าวเปิดงาน โดยบุญเลิศ  บุรณุปกรณ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
– รำตง
–  ทอค์โชว์ข้ามเผ่า
– บรรเลงเตหน่าโดย พาตี่อยู่โป่ย
– รำเชือกสามัคคี
–  แสดงดนตรีปกาเกอะญอร่วมสมัย โดย ชิ  และผองเพื่อน
–  พิธีปิด (ใช้รูปแบบปิรามิคแห่งศรัทธา), เพลงสรรเสริญพระบารมี

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ