7 มี.ค. 2559 สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่าที่ศาลจังหวัดสตูล ชาวเลอูรักลาโว้ย 4 ราย ได้แก่ นางสลวย หาญทะเล นางสาวมาซ่า หาญทะเล นางสาวประภา สิริฮัน และนายสิชล หาญทะเล ถูกศาลตัดสินจำคุกข้อหาบุกรุกที่ดินเอกชน ภายหลังถูกเอกชนฟ้องร้องให้รื้อถอนบ้านในเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล โดยขณะนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการเสนอขอศาลประกันตัวชั่วคราว
นางแสงโสม หาญทะเล ชาวบ้านเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้มีชาวบ้านหลายคนไปร่วมให้กำลังใจทั้ง 4 ราย โดยศาลพิจารณาตัดสินให้รับผิด ซึ่งกรณีการฟ้องร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวแทนเอกชนได้ส่งจดหมายเตือนให้ชาวบ้านทั้ง 4 รายย้ายออก โดยกรณีนางสลวย หาญทะเลนั้นเป็นรายที่ถูกฟ้องซ้ำซ้อนหลายครั้ง โดยครั้งนี้พนักงานอัยการเสนอให้ทั้ง 4 รายประกันตัวรวมกันทั้งหมดราว 220,000 บาท ซึ่งทนายความและนักพัฒนาเอกชนก็พยายามประสานงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือชาวบ้านทั้ง 4 รายอยู่
“สำหรับรายละเอียดของชาวบ้านที่ถูกศาลสั่งจำคุกนั้น ทั้ง 4 รายล้วนเป็นหัวหน้าครอบครัวและต้องรับผิดชอบกับภาระหน้าที่ดูแลครอบครัว อย่างกรณีของสลวยนั้น มีแม่ที่อายุมากแล้ว ซึ่งทันทีที่รู้ว่าลูกถูกศาลตัดสินและให้จำคุก แม่ของสลวยร้องไห้ทันที” นางแสงโสม กล่าว
อนึ่ง สำหรับข้อมูลที่ดินของนางสลวย หาญทะเลและญาตินั้นมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่กว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวถูกนายทุนรายเดียวกันอ้างกรรมสิทธิ์ให้ไล่รื้อ เพื่อก่อสร้างรีสอร์ทและร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามปัญหาการไล่ที่ชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะนั้นเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปีแล้ว ในอดีตที่ดินเกาะหลีเป๊ะไม่มีใครมีเอกสารสิทธิ เพราะโต๊ะคีรีซึ่งเป็นบรรพบุรุษชาวเลและผู้บุกเบิกเกาะหลีเป๊ะ ได้แบ่งที่ดินให้ลูกหลานเท่าๆ กัน ต่อมาเมื่อการท่องเที่ยวเริ่มเติบโต ทายาทอูรักลาโว้ยบางคนได้อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองและขับไล่ชาวเลที่เคยอยู่เดิม เนื่องจากที่ดินมีราคาแพงจึงต้องการนำไปประกอบธุรกิจหรือขายต่อ
ปัจจุบันชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะถูกกผักดันให้ไปอยู่ในที่ดินกลางเกาะ ขณะที่บริเวณริมทะเลต่างตกเป็นที่พักและรีสอร์ทยาวเหยียดไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ทำให้ทุกวันนี้ชาวเลแทบไม่มีช่องทางเดินออกสู่ทะเล เพราะแม้แต่เส้นทางสาธารณะยังถูกจับจองเป็นเจ้าของ
อ่านเพิ่ม: http://transbordernews.in.th/home/?p=11886
author
