เวลา 7.00 น. 6 ธันวาคม 2557 ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย – พนักงานเหมืองของบริษัททุ่งคำประมาณ 10 คน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 6 นายเข้าไปยังบริเวณซากกำแพง ที่ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้สร้างเพื่อป้องกันการขนแร่ผ่านถนนสาธารณะของชุมชน ซึ่งกำแพงดังกล่าวถูกทำลายไปพร้อมกับการขนแร่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังเหลือซากบางส่วนอยู่ โดยขณะรื้อซากกำแพงดังกล่าว ชาวบ้านบางส่วนซึ่งนั่งดูเหตุการณ์มีการต่อว่าด้วยความโมโห บางส่วนนั่งร้องไห้ เนื่องจากกำแพงดังกล่าวเป็นเหมือนสัญลักษณ์ยืนยันสิทธิชุมชนของกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดซึ่งใช้ต่อสู้กรณีเหมืองทองคำมานาน
หลังการรื้อซากกำแพง เวลาประมาณ 9.30 น. ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้ยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาปฏิบัติการเพื่อส่งต่อถึงนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และ พล.ต.เภลิงศักดิ์ พูลสุวรรณ เรื่องการถอนฟ้องคดีให้สำเร็จเสร็จสิ้นก่อนขนย้ายแร่ ตามที่ระบุในหมายเหตุบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างบริษัททุ่งคำและชาวบ้าน ซึ่งมีการลงลายมือชื่อกำกับโดยผู้ว่าฯ และ พล.ต.เถลิงศักดิ์
จากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. ชาวบ้าน “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด” ได้ออกแถลงการต่อสาธารณะ “ต้องถอนฟ้องคดีให้สำเร็จเสร็จสิ้นก่อนขนย้ายแร่” โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท ทุ่งคำ จำกัด กับ ชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านเกิด ณ ศาลากลางจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 นั้น ในหมายเหตุท้ายบันทึกข้อตกลงฯ หรือ MOU ที่ลงลายมือชื่อกำกับโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และ พล.ต.เถลิงศักดิ์ พูลสุวรรณ ว่าให้บริษัทถอนฟ้องแก่ชาวบ้านทั้งสิ้น 8 คดี ในวันที่ 8 ธันวาคม 2557 จึงมีความหมายว่าบริษัทจะต้องดำเนินการถอนฟ้องคดีทั้งหมดให้สำเร็จเสร็จสิ้น หรือให้ผลแห่งการถอนฟ้องคดีสมบูรณ์เสียก่อน จึงจะดำเนินการขนย้ายแร่ได้ มิเช่นนั้น บันทึกข้อตกลงฯ จะเป็นหลักประกันด้านเดียวให้บริษัทขนย้ายแร่ออกไปได้ แต่ไม่เป็นหลักประกันในการถอนฟ้องคดีที่มีผลสมบูรณ์แก่ชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดแต่อย่างใด ซึ่งถือเสมือนว่าเป็นบันทึกข้อตกลงฯ หรือสัญญาที่ไม่ชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง
กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดจึงประกาศให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน ว่าก่อนที่บริษัทจะเข้ามาขนย้ายแร่ในวันที่ 8 และ 9 ธันวาคม 2557 ตามที่ได้ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงฯ จะต้องดำเนินการถอนฟ้องคดีทั้งสิ้น 8 คดี แก่ชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด ตามความเห็นเป็นหมายเหตุของผู้ลงลายมือชื่อ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยและ พล.ต.เถลิงศักดิ์ พูลสวรรณ ในตอนท้ายบันทึกข้อตกลงฯ ให้สำเร็จเสร็จสิ้นหรือมีผลสมบูรณ์เสียก่อน
ขณะเดียวกันเวลาประมาณ 10.50 น. ชาวบ้านแจ้งว่ามีรถคอนเทนเนอร์เริ่มทะยอยวิ่งขึ้นเหมืองไปประมาณ 8 คันแล้ว
หลังจากมีการรื้อซากกำแพงและการอ่านแถลงการณ์ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้มีการประชุมกันอีกครั้ง พร้อมกับมีมติว่า วันที่ 8 ธันวาคมนี้ ชาวบ้านจะไปนั่งรวมกันที่ถนนกำแพงใจซึ่งเป็นจุดที่เคยเป็นกำแพงเพื่อไปรอใบถอนฟ้องคดีทั้งหมด โดยถ้าได้ครบตามที่สัญญาไว้ก็จะให้ขนแร่เอาออกไปหมด แต่ถ้าหากใบถอนคดีทั้งหมดไม่มาตามที่ได้ตกลงก็จะไม่ให้เอาแร่ออกไป
กลุ่มเหมืองแร่เมืองเลย / รายงาน