สุภิญญาระบุตอนนี้ฝ่ายผู้มีอำนาจกังวลกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษา แต่ กสทช.ควรตั้งหลักถ่วงดุลให้สื่อบ้าง ไม่ใช่อะไรๆ ก็ขัดความมั่นคง ขัดความมั่นคง พูดไม่ได้ รายงานไม่ได้ ส่วน ThaiPBS ก็ระวังตัวสูงมากอยู่แล้ว
คลิปข่าวที่ถูกร้องเรียนว่ามีเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ออกอากาศทางรายการที่นี่ThaiPBS เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2558
คลิปข่าวที่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้น
คลิปข่าวที่ ThaiPBS ยังคงเผยแพร่เรื่องขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หลังจากถูกเรียกเข้าชี้แจง
2 ก.ค. 2558 กรณีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียกคุยเรียกผู้บริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ส.ส.ท. จากกรณีการนำเสนอข่าวนักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (ThaiPBS)
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณาตยา แวววีรคุปต์ บรรณาธิการข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ ThaiPBS โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Nattaya Tpbs ระบุ
ศึกษากันไว้นะ Aruchita Atmpk Santi Chang ธนพล เลิศธนาผล Wilasinee Supparot Nuttapon Plarachun
ม. 37 พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551
ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการ ให้กรรมการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือให้ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที และให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยพลัน ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลยของผู้รับใบอนุญาตจริง ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขตามที่สมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้
ล่าสุด สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Supinya Klangnarong สรุปความเครียด 10 ประเด็นในรอบสัปดาห์ มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า
5. เครียดมากกับประเด็นที่ สนง. เรียก ThaiPBS มาชี้แจงกรณีการรายงานข่าวกรณีกลุ่มนักศึกษาโดยเฉพาะกลุ่มดาวดินถูกจับกุม ยังไม่รู้จะมีโทษไหม
รู้ว่าตอนนี้ฝ่ายผู้มีอำนาจกังวลกับการเคลื่อนไหว (แม้โดยสงบ) ของนักศึกษา ถึงขั้นมีการตัดสินใจจับกุม แต่ กสทช. ก็ควรตั้งหลักถ่วงดุลให้เสรีภาพสื่อบ้าง
ไม่ใช่อะไรๆ ก็ขัดความมั่นคง ขัดความมั่นคง พูดไม่ได้ รายงานไม่ได้
ทีวีดิจิตอลเขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา ยิ่ง ThaiPBS เขาก็ระวังสูงมากอยู่แล้ว
ยังไม่แน่ใจว่า สนง.จะเสนอวาระที่เรียก ThaiPBS มาชี้แจง เข้าบอร์ด กสท.ให้ลงมติเพื่อตัดสินตามมาตรา 37 หรือไม่ ถ้าเข้าก็ควรใช้หลักการให้มากในการตัดสิน
คือสภาพการณ์เรื่องสิทธิเสรีภาพมันก็ถูกจำกัดมากอยู่แล้ว
ถ้ายิ่งจำกัดมากไปกว่านี้มันจะไม่ดีทั้งต่อ กสทช. รัฐบาล และ สังคมไทยเองในที่สุด
เราควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์กันให้มาก
เราควรใช้เหตุผลกันให้มาก เราควรตั้งสติกันให้มาก โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้อำนาจแบบ กสทช. และหน่วยงานรัฐอื่นๆ
อย่างที่บอกถ้าใช้อำนาจอย่างที่ควรใช้ในการลงโทษผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภคอันนี้เห็นด้วย (แต่การบังคับกฎหมายก็อ่อนแอมาก) แต่พอการเมืองแล้วใช้ได้แรงสุดๆ
หยุดตั้งสติมาสองคืนแล้ว เพราะไม่อยากทวิตแรงมาก ส่วนหนึ่งก็ห่วงตัวเอง อีกส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้ความรู้สึกนำเหตุผล เพียงแต่ต้องการเตือนทุกฝ่าย
โดยเฉพาะ กสทช.อันเป็นที่รัก ทำงานที่นี่ไป วิจารณ์ไป แต่ก็รักงาน รักองค์กรของตนเอง เจ็บปวดทุกครั้งถ้า กสทช.ตัดสินใจอะไรแล้วสวนทางกับหลักการที่ควรจะเป็น
พันธกิจ กสทช.ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ เพื่อกำกับดูแลสื่อให้เป็นอิสระจากการเมือง มันเป็นอุดมคติมาก แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เราเกิดมา
จริงอยู่ภายใต้กฏหมายปัจจุบัน ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับเดิมซึ่งเป็นที่มาของ กสทช. แล้วก็ตาม แต่เราก็ยังหวังว่าจิตวิญญาณของมันยังล่องลอยอยู่บ้าง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งเสียง แม้อาจดูไม่มีความหมาย แต่ก็จะพยายามจะทัดทานให้เต็มที่ ไปจนกว่าแรงเสียดทานมันจะทำให้เรายืนไม่ไหวไปเอง
ข่าวการเมืองในฟรีทีวีตอนนี้มันก็คล้ายๆกันอยู่แล้ว ไม่มีช่องไหนที่เขาจะกล้าเสี่ยงท้าทายกฏหมายหรอก ถ้าเราเข้มงวดยิ่งกว่านี้ การมีทีวีหลายสิบช่องก็คงไร้ความหมายจริงๆ
วันนี้ (2 ก.ค.2558) วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2558 กสทช.ได้เรียกผู้บริหาร ส.ส.ท.ไปชี้แจงเรื่องการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งมีผู้ร้องเรียนมาว่ารายงานเรื่อง “วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวกลุ่มนักศึกษาภายใต้การบริหารประเทศ คสช.” ออกอากาศทางรายการที่นี่ไทยพีบีเอสเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2558 ว่า เนื้อหาที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เข้าใจผิด ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม
การออกอากาศเนื้อหารายการอาจจะขัดกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 97/2557 เรื่องการให้ความร่วมมือกับการปฏิบัติงานของ คสช.และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประกาศ คสช.ฉบับที่ 103 และอาจขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551
“คณะผู้บริหารก็ได้ไปชี้แจงให้ทางอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ซึ่งผมเองในฐานะที่เป็น 1 ในตัวแทนผู้บริหารได้ชี้แจงให้ทางคณะอนุกรรมการได้ฟังว่า ที่ผ่านมา บทบาทของไทยพีบีเอสในฐานะที่เป็นทีวีสาธารณะได้ทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ของไทยพีบีเอสตามข้อที่ 4 คือ “ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน” และข้อ 5 “สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำหนดทิศทางการให้บริการขององค์การเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ซึ่งเราก็ได้เรียนชี้แจงให้อนุกรรมการฟังว่าเราก็ทำตามหน้าที่ตาม พ.ร.บ. นอกจากนั้นก็ได้มีการเปิดคลิปรายงานดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการฯ ได้ชม ซึ่งก็ได้มีการซักถามเรื่องการถ่ายทำทั่วไป ซึ่งคุณก่อเขต จันทรเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวก็ได้อธิบายให้ฟัง”
“หลังจากนี้ทางคณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาอย่างไรก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจของอนุกรรมการฯ ซึ่งหลังจากชี้แจงแล้ว ทางกสทช.ก็ยังไม่ได้แจ้งกลับทางไทยพีบีเอสกลับมาว่า ซึ่งเมื่ออนุกรรมการฯ มีมติและได้แจ้งมตินั้นให้เราทราบแล้ว ทางผู้บริหารไทยพีบีเอสก็จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” วันชัยกล่าว
รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปีที่ทาง กสทช.ได้เรียกผู้บริหารของไทยพีบีเอสเข้าไปพบอย่างเป็นทางการ พร้อมกับชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าผู้บริหารได้ตัดเงินเดือนของพนักงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้่ว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง