“หนูชอบทำขนมตั้งแต่ช่วง ป.6 เพราะครูตอนเรียนประถมพาทำกับข้าวให้เด็ก ๆ เลยชอบมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย”
วันนี้อยู่ดีมีแฮงจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ พิชญาภา อาณารัตน์ หรือน้องมีน นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนหินโงมพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย แม่ค้าเครปเย็นกล่องละ 10 บาท เรียนรู้การทำขนมจากออนไลน์นำมาขายที่โรงเรียนเพื่อต้องการมีรายได้เสริมในระหว่างเรียน และลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
ใช้เวลาหลังเลิกเรียนฝึกทำขนมผ่าน youtube
“ประมาณ 16:00 น หลังเลิกเรียนกว่าจะทำงานบ้านล้างจาน ค่อยได้เริ่มทำขนมก็ประมาณ 18:00-19:00 น หนูก็อธิบายไม่ถูกว่าเอาแป้งไปทำอย่างไร ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเหมือนกัน …คำแรกก็ให้น้าลองชิมก่อนผ่านจึงขายเลย ทำตาม youtube ไปเลยในครั้งแรกที่ทำทำตามสูตรของเขาแล้วค่อยมาปรับเปลี่ยนเอาเป็นสูตรของเรา”
น้องมีนใช้เวลาหลังเลิกเรียน ในการทำขนมเครปเย็นที่บ้าน ที่ตั้งอยู่ในชุมชนห่างจากโรงเรียนไม่ไกลนัก ซึ่งจุดเริ่มต้นของการอยากทำขนมไม่ได้มีอะไรมากมายมากกว่าการอยากมีรายได้เสริมจากเดิมที่แม่ให้เงินไปโรงเรียนวันละ 60 บาท แต่ด้วยค่าใช้จ่ายส่วนตัว ที่ต้องการจะซื้อของที่อยากจะได้ และอยากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคุณแม่ ทำให้น้องมีนหยิบจับโทรศัพท์แล้วเปิดออนไลน์ เพื่อศึกษาการทำขนมเครปเย็นผ่านช่อง YouTube
ครอบครัวสนับสนุนทดลองทำไปด้วยกัน
“ก็เอาไข่มาตีใส่แป้งเค้กมาผสมกับวานิลา น้ำตาล น้ำมัน แล้วเอามากรองให้เนื้อแป้งเนียน แล้วก็นำไปใส่ในกระทะให้มันเป็นแผ่น กลับมาพักไว้ให้เย็นก่อน พอเย็นแล้วก็นำไปห่อใส่ไส้ ไส้ก็มีไส้ฝอยทอง โอริโอ้ แยมสตอเบอรี่ แยมบลูเบอร์รี่”
เล่าไปก็หัวเราะไป เป็นท่าทีของน้องมีนที่ดูสดใสและสนุกสนานกับการทำขนมของเธอ แต่ท่าทางในการทำขนมไม่เคอะเขิน เพราะน้องมีนเริ่มทำขนมขายมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยเบื้องหลังที่ดีที่มีคุณแม่คอยช่วยเหลือ สนับสนุนให้ทำตามความต้องการที่น้องมีนอยากทำ ก็ทำให้เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการหารายได้ในระหว่างเรียนโดยการทำเครปเย็น
“ไม่รู้ว่าแกคิดอย่างไรเหมือนกันอยู่ดีๆก็มาบอกแม่ว่า แม่หนูอยากทำขนมขาย จึงถามว่าอยากทำจริงไหม เขาตอบว่าจริง ถ้าคิดว่าจะทำจริงแม่ก็รับปากว่าจะลงทุนให้ เขาจึงไปศึกษาใน YouTube แล้วมาลองทำให้น้าชิม น้าบอกว่าผ่านก็เลยเริ่มทำ แม่จึงไปซื้อของมาให้ เขาจึงทำไปขายปรากฏว่าขายดีช่วงแรกเขาก็ทำคนเดียวแม่เพิ่งมาทำช่วย ได้ช่วยทำวิปครีมให้เขาเท่านั้นแม่ไม่ได้ทำอะไรนอกนั้นเขาทำอีกทั้งหมดเลย”
อยากมีรายได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแม่
“ตอนแรกครูแทบไม่รู้เลยว่าขายขนม ช่วงแรกทำมาประมาณ 10 กว่ากล่องเองขายในห้องเรียนก็หมดแล้ว ครูไม่ว่า ครูบอกว่าให้เอามาขายได้เลยและก็สามารถเอาไปแช่ในตู้เย็นครูได้ถ้าไม่แช่ครีมมันจะละลายบางวันก็ไม่ว่างขายเพราะ ม.ปลาย เรียนเต็มคาบทุกวันเลย เลยเอาไปฝากน้อง ๆ ขายตอนเที่ยง เมื่อก่อนให้ส่วนแบ่งกล่องและ 2 บาท ปัจจุบันขายไม่หมดเลยให้วันละ 20 บาท อยากทำขนมและอยากหารายได้ด้วย เพราะเวลาสั่งซื้อของใช้จะไม่ได้รบกวนแม่ แค่เอาไว้ใช้จ่ายเวลามาเรียนและซื้อของที่เราอยากได้”
เรามักจะเห็นในหลายโรงเรียน ที่มีพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปขายสินค้าในโรงเรียน แต่น้อยครั้งที่เราจะเห็นนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนได้นำสินค้าของตัวเอง นำมาขายเพื่อหารายได้ในระหว่างเรียนในโรงเรียนแบบนี้ ด้วยความโชคดีที่โรงเรียนเปิดโอกาสและไม่ปิดกั้นสามารถทำให้น้องมีนนำเครปเย็นของเธอมาจำหน่ายในห้องเรียน และในโรงอาหารที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้สำหรับนักเรียนที่ต้องการหารายได้ระหว่างเรียน
โรงเรียนเปิดพื้นที่ให้นักเรียนหารายได้ด้วยตัวเอง
“ครั้งแรกที่เขาเอาขนมมาขายแกบอกกับครู ครูก็บอกแกว่าครูกำลังทำโครงการหารายได้ระหว่างเรียนก็อยากให้รู้ว่าโรงเรียนนอกจากสอนวิชาการมันจะต้องมีการเสริมทักษะอาชีพไปด้วย ถ้าอยากเอามาขายขายกล่องละ 10 บาทจะให้น้องเท่าไร ก็บอกว่าหนูจะให้กล่องละ 2 บาท แล้วเด็กๆจะเริ่มเก็บเล็กผสมน้อย ให้เขาเห็นคุณค่า เราจะมีการกันบูธอาหารในโรงอาหารสัก 1 ล็อคเพื่อให้นักเรียน เราต้องการให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จะเป็นวันธรรมดาหรือเวลาว่างจากการเรียนการสอนฝึกให้เขาหารายได้ด้วยตัวเอง”
“คนเราถ้ารู้จักเรียนรู้ในการหารายได้ อาชีพสุจริตที่ไม่อายที่จะทำ พึ่งเด็กบางคนอายที่จะทำ แต่พวกเขาไม่อาย เขามีความสนุกสนานในการทำ เราเริ่มต้นให้เขาแล้วเขาก็ไปต่อยอดได้”
“เด็กเองเด็กก็อยากมีรายได้ระหว่างเรียนถ้าเกิดให้แต่คนอื่นเข้ามาแล้วเด็กไม่มีพื้นที่เลยและโรงเรียนไม่ช่วย เด็กก็ไม่รู้จะไปขายตรงไหนเราไม่ปิดกั้นใครที่ทำด้วยฝีมือของตัวเองมาวางขายได้เลย เพราะเราต้องการให้เด็กทุกคนเกือบ 200 กว่าคนที่อยู่ในโรงเรียนมีโอกาสที่จะใช้พื้นที่ของโรงเรียนเป็นพื้นที่หารายได้ให้กับตัวเองและพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเขาดีใจกับลูกหลานของเขา เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายก็เป็นผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่ลูกหลานเขาก็มาเรียนที่นี่เขายิ่งดีใจว่าลูกหลานเขารู้จักหารายได้ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์”
ทักษะนอกห้องเรียน เรียนรู้ ทดลองทำ
“แบ่งเบาภาระแม่ได้แม่ให้แค่เงินมาโรงเรียน วันละ 60 บาทเท่านั้น คิดว่ากำไรได้นิดหน่อยสัปดาห์ละประมาณ 200-300 บาท ก็เอาเงินให้แม่บ้างแม่ก็บอกว่าดี เพราะแบ่งเบาภาระได้ เพราะอยากทำขนมและอยากหารายได้ด้วย”
นอกจากการทำขนมไปขายระหว่างเรียนเพื่อหารายได้ ในช่วงปิดเทอมน้องมีนมักจะไปรับจ้างทำงานในตัวเมืองจังหวัดหนองคาย เพื่อหารายได้อยู่เสมอ การทำขนมถึงแม้จะมีกำไรไม่มากนักแต่เธอก็มองว่า เป็นความชื่นชอบและเป็นการฝึกทักษะที่ดีของเธอ ทั้งยังสามารถสร้างรายได้ ทำให้เธอมีความฝันที่อยากจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งความตั้งใจของน้องมีนในการเรียนต่อคือสาขาศิลปะการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ เพิ่งจะเห็นได้ว่าอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับการทำขนม แต่นี่เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังฝึกฝนทักษะของตัวเองในอีกหลายด้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยากหากขาดการสนับสนุนและส่งเสริมจากครอบครัวและโรงเรียน
“ภูมิใจที่ลูกรู้จักทำมาหากิน ถ้าเขาเรียนจบต้องไปเรียนต่อที่อื่น เขาก็จะเอาตัวรอดเพราะมีทักษะอาชีพติดตัวเขาไปด้วย เพราะเขาสามารถทำอะไรขายได้อีกหลายอย่าง มันก็จะช่วยแบ่งเบาภาระแม่ได้ด้วย พ่อแม่หาเงินคนเดียว ก็บอกกับลูกแบบนี้ลองดูนะลูก”
