กรณีคุณสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท. ถูกยิงบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยมผ่านไปแล้ว 2 วัน ท่ามกลางข่าวครึกโครมปนสับสนถึงเหตุการณ์นี้ที่ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่ว …แต่รถหกล้อคันเกิดเหตุยังจอดนิ่งอยู่บริเวณหน้า ปตท. ขณะที่เจ้าของรถและเป็นคนขับรถดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวบ้านจากลุ่มน้ำปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี ….สับสนและว้าวุ่นใจในอนาคตของตัวเอง
ยามสายของวันที่ 28 ม.ค.2557ดิฉันได้คุยกับคนขับและเจ้าของรถหกล้อที่คุณสุทิน ธราทิน ขึ้นปราศรัยและถูกยิงจนเสียชีวิต วันนี้รถของเขายังคงจอดอยู่ที่หน้า ปตท.โดยยังไม่มีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่ปรากฏข่าวในบางสื่อบางสื่อกลับกลายว่ารถคันที่เกิดเหตุเป็นรถปิคอัพ และตรวจค้นพบอาวุธหลายชนิด ความสับสนตรงนี้ที่ทำให้เขากังวลใจ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและอนาคตของตนเอง
เจ้าของรถหกล้อคันนี้ มาร่วมชุมนุมที่เวทีหน้ากระทรวงพลังงาน โดยสละรถหกล้อของตนเองที่ปกติจะใช้ทำมาหากินธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับ ให้เป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว มาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม เขาไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรง และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง หากมิใช่ว่าเขาเป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์น้ำท่วมกบินทร์บุรี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
บ้านเกิดของเขาน้ำท่วมใหญ่ราวเดือนกันยายน 2556 ปกติเขาและชาวกบินทร์บุรีเคยชินอยู่กับธรรมชาติของน้ำที่นั่น แต่ครั้งนี้เขาเห็นความผิดปกติของการบริหารจัดการน้ำ ที่ไม่เปิดประตูระบายน้ำจนน้ำท่วมกบินทร์บุรีหนักหน่วง คนในพื้นที่รวมทั้งเขาได้พยายามทักท้วงแต่ไม่เป็นผล แถมรัฐบาลยังประเคนโครงการเขื่อนล้อมเมืองมาให้ภายใต้โครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เขาจึงเริ่มคัดค้านโครงการนี้ร่วมกับเพื่อนๆให้ยกเลิกโครงการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่
ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 สถานการณ์โครงการน้ำคลี่คลายลงบ้าง เขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ขับรถหกล้อคู่ใจไปขนส่งไม้ดอกไม้ประดับระหว่างภาคเหนือและภาคตะวันออกซึ่งเป็นธุรกิจเล็กๆ ของเขา ช่วงเวลานั้น การชุมนุมกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเริ่มต้นขึ้นบ้างแล้วในกรุงเทพมหานคร แต่เขายังไม่ได้เข้าร่วมเพราะติดค้าขายอยู่ กระทั่งเริ่มมีการนัดหมายชุมนุมใหญ่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2556 เขาได้มาร่วมครั้งหนึ่ง และกลับไป แต่ได้กลับมาใหม่เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 โดยตัดสินใจร่วมกับแนวทางการเคลื่อนไหวของคุณสุทิน และเครือข่ายปฏิรูปพลังงานประเทศไทย ซึ่งมีเวทีอยู่ที่หน้ากระทรวงพลังงาน ตามการชักชวนของแกนนำในจังหวัดของเขา
“ผมสนใจแนวคิดเรื่องการปฏิรูปพลังงาน อยากให้ค่าน้ำมันถูกลงกว่าที่เป็นอยู่ ประชาชนมีส่วนในการบริหารจัดการ และที่สำคัญผมคิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนทุกสีเสื้อ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”
เขาเพิ่งได้มาพบและรู้จักคุณสุทินที่หน้ากระทรวงพลังงานนี่เอง และชื่นชอบที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน และการมาร่วมชุมนุมของเขาก็แสดงจุดยืนอย่างเปิดเผย จริงใจ เต็มตัว จิตอาสาให้รถหกล้อของตนเองเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว เพราะไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายอะไร วันเกิดเหตุก็เคลื่อนขบวนไปด้วยกัน
เราได้ คุยกันถึงรายละเอียดวันเกิดเหตุพอสมควร แต่เช้าวันนี้ (29 มกราคม 2557) ที่หน้า ปตท.สำนักงานใหญ่ คุณหมอพรทิพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะตรวจสอบรถ 6 ล้มคันที่ถูกรุมยิงที่วัดศรีเอี่ยม และ 16.00 ที่โรงแรมสยามซิตี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษชนนำจะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ซึ่งรวมถึงเขาด้วย ซึ่งเขาก็คงจะได้ให้รายละเอียดของข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น ดิฉันขออนุญาตยังไม่นำมาเขียนในที่นี้ แต่ขณะที่เราคุยกัน รถหกล้อของเขายังคงจอดนิ่งอยู่หน้า ปตท.ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากังวลใจ เนื่องจากยังไม่มีการดำเนินการใดตามขั้นตอน และเขาก็กังวลต่อการดำเนินชีวิตและการจะประกอบอาชีพต่อไป หากรถของเขาจะต้องเป็นวัตถุพยานในคดีสำคัญนี้หรือไม่ในอนาคต