อดีตคลองห้วยยางเป็นแหล่งน้ำสำคัญของคนที่อยู่ในที่พื้นที่ ซึ่ง ศูนย์กลางเมืองแต่เดิมเป็นชุมชนตลาดสลับสวนยางและสวนพริกไทย สำหรับคลองห้วยยางกับคนทับเที่ยงรุ่นแรกคือเส้นทางคมนาคมที่มาจากท่าจีน คนรุ่นที่เติบโตช่วง 2500 กว่า ๆ มีภาพจำที่ยังสวยงาม กับน้ำใสไหลผ่าน ใช้อุปโภคบริโภคได้ ผู้คนยังเดินเลียบคลองไปมาหากันได้ หาปลากิน และจับปลาเล่น ภาพจำที่สะท้อนความสุข ความผูกพันที่ถ่ายทอดถึงกันระหว่างรุ่น
ปัจจุบัน คลองห้วยยางกลายเป็นลำคลองมีลักษณะตื้นเขิน บางช่วงมีตะกอนสะสมและแคบ ทำให้น้ำไหลผ่านไม่สะดวก เเละไม่สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภค บริโภคได้ เนื่องจากท่อระบายชำรุดในบางช่วง ทำให้น้ำเสียส่วนหนึ่งไหลลงสู่คลอง กระทบต่อระบบนิเวศสายคลอง แม้เทศบาลจะพยายามฟื้นฟูด้วยการทำทางเดินเลียบคลองส่วนกลางเมือง แต่ยังไม่มีกิจกรรมที่เข้มข้นพอจะเรียกความสนใจกลับคืนมา จนเกิดงาน “มาแต่ตรัง” ที่ผู้คนสนใจ ถือเป็นการนับหนึ่งในการฟื้นคลองห้วยยาง
โจทย์สำคัญ คือการสร้าง ความเข้าใจ ทั้งในเรื่องประโยชน์ใช้สอย ความงาม คุณค่าทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ จะทำอย่างไรให้คลองห้วยยางกลับมาเป็นหัวใจเมืองอีกครั้ง เกิดการมีส่วนร่วมกับเมืองในทุกมิติ เราชวนล้อมวงคุยถึง คลองห้วยยางกับอนาคตการฟื้นเมืองทับเที่ยง
วันนี้ออกเดินทางมาที่ คริสตจักรตรัง ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ อายุกว่าร้อยปี โดยมีอักษรจารึกไว้เหนือบันไดทางเข้าข้างหน้าไว้ว่า วิหารคริสตศาสนา สร้าง ค.ศ.1915 ที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้ อยู่กึงกลาง ของสองฝั่งคลองห้วยยาง สามารถเดินเชื่อมกันได้ เป็นลำคลองที่ไหลผ่านตัวเมืองภายในเขตเทศบาลนครตรัง ในอดีตมีความเชื่อมโยงย่านพื้นที่สำคัญต่าง ๆ ของเมืองและเคยเป็นเส้นทางคมนาคมค้าขายเชื่อมไปยังแม่น้ำตรัง
และวันนี้พวกเขาจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมองภาพ คลองห้วยยางกับอนาคตการฟื้นเมืองทับเที่ยง จ.ตรังซึ่งชาวตรังในอดีตแคบใช้พื้นที่คลองห้วยยางทำกิจกรรมสาธารณะที่หลากหลาย รวมถึงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญๆของเมือง เราจึงชวนมองภาพในอีก 5 ปีข้างหน้า ถึงโจทย์และทิศทางความเป็นไปได้ของการฟื้นฟูเมืองทับเที่ยง
สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุเเห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯตรัง กล่าวว่าที่มาทางคลองห้วยยาง คือเส้นทางคมนาคมที่สําคัญในอดีต เพราะแต่ก่อนเราไม่ได้มีถนนนี้ มาก็ตั้งถิ่นฐานใกล้คลองไม่ได้ติดริมคลองเหมือนสมัยนี้เพราะแต่ก่อนที่ดินมันเยอะแล้วในที่สุดมันก็จะกลายเป็นชุมชนใหญ่ทับเที่ยง
เราจะพบหลักฐานเอกสารว่า ตอนที่เมืองอยู่ที่ควรทนีถ้าเทียบก็มีความเจริญ คนจีนเข้ามาแล้วก็ปลูกพริกไทย ผูกพริกไทยเน็ตทั่วเลยมันจะมีเอกสารอยู่อันนึงบอกว่า เดินทางมาถึงบ้านทับเที่ยง แล้วตรงระหว่างบ้าน เดินไประหว่างทางนอร์ทอีส มีคลองแล้วคลองนี้น้ำลึกศอกเศษ ธรรมชาติมันเป็นยังไงเพราะว่ามาจากต้นน้ำที่ไม่ได้เป็นต้นน้ำจากภูเขาใหญ่แบบเทือกเขาบรรทัด เเต่มันไหลลงมาตามฤดูกาล ตามธรรมชาติของคลองไม่ได้ราบเรียบเท่ากัน แต่เป็นวัง ระหว่างทางปลูกพริกไทย ดินเป็นกรวด สมัยก่อนน้ำจะใสสะอาดแล้วพอมารุ่นที่เราโตเราก็จะพบว่าคลองกลายเป็นน้ำที่ส่งกลิ่น มีสีดํา
ระยะแรกที่เป็นเส้นทางคมนาคม เเน่นอนเปลี่ยนไปเเละกลับมาไม่ได้แล้ว แต่ภาพที่อยู่ในความทรงจําของผู้คนก็คือ ภาพน้ำใส ภาพคลองสวย ภาพความสุข ความรื่นรมย์เราอยากจะฟื้นสิ่งเหล่านี้
ยิ่งยศ เเก้วมี สถาปนิคเมืองตรัง กล่าว่า ฐานะนักออกแบบทุกคนเนี่ยมันจะต้องหาดาต้าพวกนี้ให้เจอก่อน ว่าคลองเป็นลักษณะแบบไหน ซึ่งคลองมอกว่ามันทําหน้าที่ได้หลายหน้าที่มากแต่หน้าที่นึงที่เราเห็นได้อย่างเด่นชัด คือทางสัญจรมันเป็นทางชอตคัตของเมือง เราเห็นสุนทรียะ เราเห็นธรรมชาติ เราต้องช่วยกันคิดต่อว่าจะทำอย่างไร อดีตเราเคยมีคลองที่สวยงาม แต่ตอนนี้มีคูระบายน้ำที่สร้างเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว มันมีการบําบัดน้ำเสียก็ช่วยไปได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ทั้งหมดปัญหาเราต้องไปแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่แก้ที่ต้นน้ำ
เราอยู่ในเมืองเก่า บ่อบําบัดถังบําบัดของทุกบ้านในเมืองเก่ายังเป็นระบบโบราณ นั้นคือปัญหาของคลองห้วยยาง ไม่นับทางอย่างอื่นอย่างเช่นมีโจร ไม่มีความไม่ปลอดภัยนั่นคือสิ่งที่เทศบาลต้องบูรณาการร่วมกับตํารวจและชุมชน ส่วนเรื่องดีไซน์คนจะคิดต่อได้เอง
กมลพร สมคิด คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า จากการที่ได้ฟังเรื่องราวที่ทุกคนได้เล่ากันตั้งแต่อดีตว่าของห้วยยางนี่มันเคยใช้ทําอะไรบ้างหรือในคลองมันมีอะไรบ้าง เป็นเรื่องราวที่แบบมันมีความน่าสนใจ ทุกคนในชุมชนต้องร่วมกันดูแลเป็นสอดส่องความปลอดภัย ทั้งย่านชุมชนตลาด ย่านชุมชนย่านชุมชนเส้นทางรถไฟ เพราะพื้นที่เหล่านี้ พื้นที่แห่งความทรงจํา จังหวัดตรังอ่ะมันก็แบบมีย่านชุมชนที่มีความน่าสนใจและสําคัญสําหรับคนพื้นที่ การพัฒนาอาจจะเริ่มจากการมีพื้นที่ ที่พักผ่อนหย่อนใจได้ มีกิจกรรมอะไรต่างๆ ทำให้คลองห้วยยางไม่ใช่เป็น เส้นทางหลังบ้านอยากให้มองมองย้อนกลับไปในอดีตว่าเราควรจะพัฒนาในส่วนของเส้นทางเหล่านี้อย่างไร
พัฒนาพื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีความครีเอทีฟอาร์ตให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมได้เพื่อเป็นอีกทางเลือกที่สามารถสร้างเศรษฐกิจชุมได้
คนรุ่นในพื้นที่จังหวัดตรังกล่าวว่า ถ้าน้ำในคลองใสสวยเหมือนในภาพฉากทัศน์ บริเวณรอบรอบสามารถออกกําลังกายหลากหลาย สามารถมีกีฬาสปอร์ต มีเรือค่ายัค พื้นที่รอบรอบก็สามารถเป็นพื้นที่สำหรับรำไทเก๊กหรือกิจกรรมแอร์โรบิกได้ และมีลานสเก็ตสเก็ตบอร์ด เซิร์ฟ บอร์ด เซิร์ฟสเก็ต น้ำลึกก็เป็นซับบอร์ด ถ้าเราอัดน้ำเข้ามาในระบบแบบนี้ ปรับพื้นที่ให้สามารถรับรองกีฬาที่เหมาะสมได้ บริเวณข้างๆก็ยังเป็นงานศิลปะได้เป็นเหมือนอาจจะเป็นกราฟฟิตี้ อย่างสร้างสรรค์ได้
รับชมข้อมูลเพิ่มเติม
ฉากทัศน์ 1. คลองห้วยยาง GreenCity กลางเมืองเก่าตรัง
• ฟื้นให้คลองห้วยยาง เป็นพื้นที่สาธารณะให้แก่เมืองและผู้คนได้กลับมาใช้อย่างเสรีและปลอดภัย ปรับปรุงคลองกลางเมืองเเละทำให้คลองเป็นพื้นที่ เก็บกักน้ำ มีการบำบัดน้ำให้สะอาด และมีความปลอดภัย
• เพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดย่อม “พอคเกตพาร์ค” ที่มีพันธุ์ไม้นานพันธุ์ริมคลอง เพื่อเป็นสวนทดลองทางด้านพฤกษศาสตร์ แบ่งการจัดสวนออกเป็นโซนต่างๆ ตามแต่ลักษณะของพรรณไม้ที่จัดไว้ โดยเฉพาะพืชมีค่าทางเศรษฐกิจ อาทิ สวนพริกไทยปลูกริมรั้ว สร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชน ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล
• โดยมีแผนปรับปรุงเพื่อวางแนวทางในการเปลี่ยนพื้นที่จัดทำฐานข้อมูล พร้อมกันนี้หากพบว่ามีพื้นที่ไหนมีศักยภาพในการปรับปรุงเพื่อประโยชน์สาธารณะเพื่อให้มีโอกาสเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้มากขึ้น ทำความร่วมมือ พัฒนาพื้นที่รกร้าง ของเอกชน วัด โบสถ์ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แปลงโฉมด้วยการใช้ความรู้ด้านภูมิสถาปัตยกรรมเมืองมาออกแบบ ปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งคลอง ทางเท้า ทำให้ทางเท้าใช้งานได้ทั้งการเดิน ออกกำลังกาย และ Universal Design รองรับการใช้งานของผู้คน ตลอดจนระบบไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อความปลอดภัย และให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีที่ดินเป็นการทดแทน
• เช่น จัดทำโครงการ กรีนตรัง โดยการให้เจ้าของกรรมสิทธิ์นำที่ดินเข้าร่วมกับโครงการฝากไว้ให้ เทศบาล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ กำหนดสัญญากำหนดระยะเวลาประมาณ 10 ปี เเละปรับพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร เป็นสวนพันธ์ุไม้ริมคลอง และเกิดกิจกรรมเดินทัวร์ริมคลองโดยคนในชุมชนเชื่อมกับเส้นทางย่านเมืองเก่าตรัง
• สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมชุมชน หากทำได้ก็จะเกิดการสร้างองค์ความรู้ในพื้นที่ หากว่าองค์ความรู้เรื่องพื้นที่สาธารณะกระจายตัวออกไป ให้ผู้คนรู้เข้าใจเห็นความสำคัญมากขึ้น
• เเต่ฉากนี้ ท้องถิ่นต้องดูแลเรื่องระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย รวมถึงทำความเข้าใจร่วมกับชุมชน ในการออกแบบและพัฒนาข้อเสนอร่วมกัน เกิดข้อตกลงเทศบัญญัติร่วมเเละเกิดเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งต้องใช้เวลาเเละเป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ
ฉากทัศน์ที่ 2. คลองห้วยยาง Creative Lab
- พัฒนาคลองประวัติศาสตร์ใกล้ใจกลางเมืองตรังให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ฟื้นความสัมพันธ์เมือง-ระบบนิเวศ ด้วยการใช้ความรู้ด้านภูมิสถาปัตยกรรมเมืองและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออกแบบมาด้วยคอนเซ็ปความเหมาะสมของพื้นที่ พัฒนาย่านเศรษฐกิจการค้าเมืองเก่าควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่
- เปิดพื้นที่สร้างสรรค์แลกเปลี่ยนของคนทุกวัย ทั้งในด้านสุนทรียะและประวัติศาสตร์ ศิลปะ การละเล่น ให้กลายมาเป็นย่านสุดชิค เป็น art space หลากหลายฟังก์ชั่น เชื่อมเส้นทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าตรัง สร้างเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นคนในท้องถิ่นร้านค้า อาหาร คาเฟ่ของคนท้องถิ่น เเละปลุกชีวิตพื้นที่ให้รองรับกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่
- จุดเน้นสำคัญ การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมชุมชน สร้างโปรเจคเป็นห้องทดลองเมืองร่วมกันในหลายมิติ เพื่อสร้างกลไกการมีส่วนร่วมกับคนหลากหลายกลุ่ม ทั้งสายครีเอทีฟหลากสาขา ทั้งสถาปนิก, นักออกแบบ และศิลปินภาพถ่าย ร่วมมือกัน ซึ่งไม่ง่าย แต่ถ้าทำได้จะสร้างความยั่งยืนและทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม ถ้าต้องมีการลงทุน ก็อาจใช้โอกาสการร่วมลงทุนโดยเอกชน ลงแรงโดยภาคประชาชน ลงบางส่วนโดยภาครัฐบาล และถ้าท้องถิ่นปลดล็อคให้เกิดโมเดลใหม่ๆของการพัฒนาได้ ซึ่งไม่ง่าย แต่ถ้าทำได้จะสร้างความยั่งยืนและทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม
- เเต่ฉากนี้ หน่วยงานท้องถิ่นเข้ามาร่วมอยู่ในกระบวนการและรับฟังความคิดเห็น ตั้งแต่เริ่มต้น ร่วมกับทุกภาคส่วนรับไม้ต่อ รวมถึงปลดล็อคเงื่อนไขบางอย่างเพื่อพัฒนาให้เกิดโมเดลใหม่ๆ และปรับแผนการพัฒนาเมืองให้สอดคล้องและเชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย ฯ รวมถึงการบริหาร และจัดการงบประมาณบางส่วนในการดูแลบำรุงพื้นที่ ให้ครอบคลุมทั้งระบบ ไฟ น้ำ เเละสิ่งอำนวยความสะดวก เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ฉากที่3 คลองห้วยยาง Healthy and creation
นอกจากความปลอดภัยผู้สัญจร คุณภาพน้ำในคลอง ฉากทัศน์นี้เน้น ฟื้นฟูธรรมชาติริมฝั่งคลอง การรักษาสิ่งแวดล้อมและระดับน้ำในคลองอยู่ในระดับที่สามารถทำกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลายได้ รวมถึงกิจกรรมกีฬาอื่นๆที่หลากหลายเหมาะกับทุกกลุ่มทุกวัย
• ปรับภูมิทัศน์ เปลี่ยนจุดอับของเมืองด้วยศิลปะสร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่สร้างลานสันทนาการให้กลายเป็นพื้นที่กลางสำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลาย กีฬา รำไทยเก๊ก เดินเล่น เล่นเกมส์ มีเรือพายในน้ำ มีกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่หลากหลาย SUB Board พายเรือคะยักล่องไปตามลำคลอง เชื่อมกับเรื่องราวเมืองเก่าตรัง เป็นโอกาสที่สามารถสร้างเศรษฐกิจให้กับเมือง
• จัดโซนนิ่ง พื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมเเต่ละโซนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับชุมชน สะพานเชื่อมคลอง ทางเท้า ย่านชุมชนเมืองเก่าตรัง ความสัมพันธ์ของผู้คนได้ออกมาพักผ่อน เจอธรรมชาติ ได้มาพูดคุยและรู้จักกับเพื่อนๆ มากขึ้นเกิดการพูดคุย เพิ่มชีวิตชีวาให้กับเมือง
• นำเอาเทคโนโลยี เแอปพลิเคชัน เข้ามาจัดการระบบในการดูแลคุณภาพน้ำและระดับน้ำ การแจ้งเหตุ รวมถึงมีการอัพเดทกิจกรรมที่เกิดขึ้นหลากหลาย เพื่อเเจ้งให้ทุกคนทราบเเละสามารถจองเข้ามาในระบบได้อย่างรวดเร็ว
• ฉากนี้รัฐต้องลงทุน งบประมาณ มีนโยบาย ในการปรับปรุงพื้นที่ เเละเทคโนโลยี เข้ามาบริการจัดการ การจัดซื้อ จัดจ้าง โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับผู้คนที่เข้ามาใช้ประโยชน์ มีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ การจัดการขยะ ถนนทางเดิน และระบบการสื่อสาร สัญญาณอินเตอร์เน็ต กล้องวงจรปิด ห้องน้ำสาธารณะ
• สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมทำให้ทุกคนที่มาใช้ประโยชน์ รู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ ต้องร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมลงมือทำ รวมถึงร่วมดูแลบริหารพื้นที่
• เเต่ถ้าบริหารจัดการไม่ดี สิ่งของเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนหลายพื้นที่ ที่ผ่านมา
สามารถร่วมโหวตฉากทัศน์ได้ที่นี่