12 ต.ค. 2558 ศาลทหารกรุงเทพนัด 16 ต.ค. 2558 คดี โอภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชายที่ถูกกล่าวหาว่าเขียนฝาผนังห้องน้ำในห้างสรรพสินค้า เป็นข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ศาลพิพากษา ให้จำคุก 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญาเพราะเป็นคดีร้ายแรง ทั้งนี้ ระหว่างการรับโทษโอภาสถูกฟ้องเป็นอีกคดีจากข้อความบนฝาผนังห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง ซึ่งหากจำเลยรับสารภาพศาลอาจมีคำพิพากษาในวันนัดเลย
โอภาส ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ จับตัวเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2557 จากการเขียนผนังห้องน้ำของห้างฯ ก่อนประสานงานให้ทหารรับตัวไปดำเนินคดี ระหว่างการสอบสวนโอภาสไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว จนกระทั่งขึ้นศาลเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2558 โอภาสรับสารภาพ และศาลพิพากษาให้จำคุก 3 ปี ลดเหลือ 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปัจจุบันโอภาสต้องขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ระหว่างการรับโทษ โอภาสไม่สามารถยื่นคำขอพระราชทานอภัยโทษ หรือคำขอพักโทษได้ เนื่องจากยังติดคำสั่งอายัดตัวจากอีกคดีหนึ่งอยู่ จนกระทั่ง 7 ก.ค. 2558 อัยการทหารยื่นฟ้องโอภาสต่อศาล จากการเขียนฝาผนังห้องน้ำห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ ซึ่งเป็นการเขียนในเวลาไล่เลี่ยกันแต่เขียนคนละห้องกับคดีแรก
ศาลทหารกรุงเทพนัดสอบคำให้การ คดีที่สองของโอภาส ในวันที่ 16 ต.ค. 2558 เวลา 08.30 น. ซึ่งโอภาสตั้งใจจะให้การรับสารภาพ และขอให้ศาลพิจารณาลงโทษสถานเบา ซึ่งศาลอาจมีคำพิพากษาในวันนั้นเลย หากศาลตัดสินว่ามีความผิด ตามมาตรา 112 โอภาสอาจได้รับโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี ซึ่งจำนวนโทษจำคุกอาจมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับศาลจะกำหนด
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตุว่า คดีนี้หากตำรวจและอัยการยื่นฟ้องการเขียนห้องน้ำทั้ง 2 ห้องเป็นคดีเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาไปในครั้งเดียว อาจมีผลให้คดีถึงที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558 และโอภาสมีโอกาสยื่นขอพระราชทานอภัยโทษหรือขอพักโทษไปนานแล้ว แต่เมื่อโอภาสถูกแยกฟ้องเป็นสองคดี และทั้ง 2 คดีก็ฟ้องในเวลาห่างกันพอสมควร ทำให้ระหว่างที่คดีที่ 2 ยังไม่ถึงที่สุด โอภาสยังไม่มีสิทธิยื่นขอพระราชทานอภัยโทษหรือขอพักโทษ และทำให้กำหนดเวลาที่จะได้ออกจากเรือนจำเลื่อนออกไปอีก
ดูรายละเอียดคดีของโอภาสเพิ่มเติม ได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/634
ที่มาภาพ: โอภาส: An old man and his love.
author
