แม่โจ้โพลล์ เปิดผลสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ครองใจชาวเชียงใหม่

แม่โจ้โพลล์ เปิดผลสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ครองใจชาวเชียงใหม่

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 507 ราย

ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2566 – 3 พฤศจิกายน 2566 ในหัวข้อ “ฤดูกาลท่องเที่ยวกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ…ในจังหวัดเชียงใหม่” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

ผลสำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 86.76 มีประสบการณ์ “เคย” ท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยให้เหตุผลว่า อันดับ 1 ชื่นชอบในการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ (ร้อยละ 61.50) รองลงมาคือ  ชื่นชอบและสนใจในการเดินศึกษาธรรมชาติ (ร้อยละ 16.40) และอันดับ 3 เพื่อหลีกหนีความแออัดวุ่นวายของเมือง (ร้อยละ 12.53)

มีเพียงร้อยละ 13.24 เท่านั้นที่ไม่เคยท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถหาเวลาเดินทางไปเที่ยวได้ ประกอบกับสุขภาพไม่แข็งแรง จึงไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความยากลำบาก

เมื่อสอบถามถึง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ” ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่รู้จัก (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า อันดับ 1 รู้จักเส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ห้วยตึงเฒ่า” อ.แม่ริม (ร้อยละ 67.59) รองลงมาคือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “กิ่วแม่ปาน” อ.จอมทอง (ร้อยละ 60.08) และอันดับ 3 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ดอยหลวงเชียงดาว” อ.เชียงดาว (ร้อยละ 56.13)

สำหรับข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวใน “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ” (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า อันดับ 1 ควรคำนึงถึงระยะทาง รวมถึงเส้นทางเดินให้มีความแข็งแรงปลอดภัย (ร้อยละ 74.90) รองลงมา คือ ควรจัดสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ตลอดเส้นทางเดินให้สวยงาม กลมกลืนธรรมชาติ  (ร้อยละ 50.79) อันดับ 3 ควรมีป้ายสื่อความหมายและแนะนำข้อมูลอย่างทั่วถึง (ร้อยละ 44.86  ) อันดับ 4 ควรมีเจ้าหน้าที่หรือมัคคุเทศก์เพื่อแนะนำและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว (ร้อยละ 34.58) และอันดับ 5 ควรพัฒนาเส้นทางคมนาคมให้มีความสะดวกปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนชราหรือผู้พิการ
(ร้อยละ 5.39)

นอกจากขนบธรรมเนียมประเพณีของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อมาชมวิวทิวทัศน์ยอดเขา และสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น ปัจจุบันการท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นที่นิยมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว โดยจากผลสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติของประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่นิยมไปท่องเที่ยว ได้แก่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ห้วยตึงเฒ่า” “กิ่วแม่ปาน” และ“ดอยหลวงเชียงดาว” แต่อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาตินั้น ยังคงมีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน จึงมีข้อเสนอแนะให้มีการออกแบบเส้นทางให้มีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย การพัฒนาเส้นทางคมนาคมและระบบขนส่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้หลากหลายกลุ่ม มีป้ายเพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวชาวเชียงใหม่แล้ว “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ” ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องการเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของเส้นทางเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องต่างๆ ต้องมีการจัดเตรียมความพร้อมของเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง จุดดึงดูดความสนใจ รวมถึงสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวให้มีความเหมาะสม เพื่อจะได้สร้างความรู้จักประทับใจและกลับมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง

https://maejopoll.mju.ac.th/poll.aspx?id=5287

“ห้วยตึงเฒ่า” เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ครองใจชาวเชียงใหม่
แนะผู้เกี่ยวข้องควรออกแบบเส้นทางเดินให้มีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย และจัดสภาพแวดล้อมให้สวยงามอยู่เสมอ

1.การมีประสบการณ์ การท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

1.เคย  ร้อยละ 86.76 โดยเหตุผล คือ 

อันดับ 1 ชื่นชอบในการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ         (ร้อยละ 61.50)

อันดับ 2 ชื่นชอบและสนใจในการเดินศึกษาธรรมชาติ                              (ร้อยละ 16.40)

อันดับ 3 เพื่อหลีกหนีความแออัดวุ่นวายของเมือง                                   (ร้อยละ 12.53)

อันดับ 4 เพื่อออกกำลังกายและพัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย                 (ร้อยละ 4.33)

อันดับ 5 เพื่อพากลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดไปท่องเที่ยว (ร้อยละ 4.10)

อันดับ 6 เพื่อไปร่วมกิจกรรมกับหน่วยงาน องค์กร หรือสถานศึกษา              (ร้อยละ 1.14)

2.ไม่เคย (ร้อยละ 13.24)

โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถหาเวลาเดินทางไปเที่ยวได้ ประกอบกับสุขภาพไม่แข็งแรง จึงไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความยากลำบาก

2. “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ” ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่รู้จัก (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

อันดับ 1 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ห้วยตึงเฒ่า” อ.แม่ริม                                   (ร้อยละ 67.59)

อันดับ 2 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “กิ่วแม่ปาน” อ.จอมทอง                                (ร้อยละ 60.08)

อันดับ 3 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ดอยหลวงเชียงดาว” อ.เชียงดาว                  (ร้อยละ 56.13)

อันดับ 4 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ออบขาน” อ.ฮอด                                       (ร้อยละ 39.53)

อันดับ 5 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อื่นๆ เช่น อ่างกาและผาดอกเสี้ยว อ.จอมทอง สุเทพ-ปุย ดอยผ้าห่มปก อ่างขาง น้ำตกแม่สา เป็นต้น                                                                                  (ร้อยละ 21.66)

อันดับ 6 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ดอยม่อนจอง” อ.อมก๋อย                               (ร้อยละ 18.58)

3. ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวใน “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ” (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

3.1 ควรคำนึงถึงระยะทาง รวมถึงเส้นทางเดินให้มีความมั่งคงแข็งแรงปลอดภัย              ร้อยละ 74.90

3.2 ควรจัดสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ตลอดเส้นทางเดินให้สวยงาม กลมกลืนธรรมชาติ         ร้อยละ 50.79

3.3 ควรมีป้ายสื่อความหมายและแนะนำข้อมูลอย่างทั่วถึง                                                    ร้อยละ 44.86

3.4 ควรมีเจ้าหน้าที่หรือมัคคุเทศก์เพื่อแนะนำและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ร้อยละ 34.58

3.5 ควรพัฒนาเส้นทางคมนาคมให้มีความสะดวกปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนชราหรือผู้พิการ ร้อยละ 5.39

3.6 อื่นๆ ได้แก่ การดูแลรักษาความสะอาดและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน           ร้อยละ 1.58

ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

1. เพศ

1.1 ชาย  ร้อยละ 35.38     1.2 หญิง ร้อยละ 64.03     1.3 เพศทางเลือก ร้อยละ 0.59

2.อายุ  

2.1 ไม่เกิน 20 ปี               ร้อยละ 6.52    

2.2 อายุระหว่าง 21 – 30 ปี     ร้อยละ 21.94

2.3 อายุระหว่าง 31 – 40 ปี    ร้อยละ 25.28   

2.4 อายุระหว่าง 41 – 50 ปี     ร้อยละ 29.26

2.5 อายุ 51 – 60 ปี             ร้อยละ 12.65   

2.6 อายุ 60 ปีขึ้นไป              ร้อยละ 4.35

(อายุเฉลี่ย 39 ปี อายุต่ำสุด  18 ปี และสูงสุด 75 ปี)

3.ระดับการศึกษา
3.1 ประถมศึกษา                ร้อยละ 4.35              

3.2 มัธยมศึกษา               ร้อยละ 17.59

3.3 ปวช./ปวส.               ร้อยละ 13.24             

3.4 ปริญญาตรี               ร้อยละ 58.10

3.5 สูงกว่าปริญญาตรี       ร้อยละ 4.55              

3.6 อื่นๆ คือ ไม่ได้เรียน   ร้อยละ 2.17

4.อาชีพ

4.1 รับราชการ/ลูกจ้างรัฐ        ร้อยละ 25.49   

4.2 พนักงานเอกชน/รับจ้าง ร้อยละ 27.67

4.3 ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว        ร้อยละ 37.53   

4.4 เกษตรกร                 ร้อยละ 2.59         

4.5 นักเรียน/นักศึกษา           ร้อยละ 6.13    

4.6 อื่นๆ ได้แก่ แม่บ้าน ข้าราชการเกษียณ ร้อยละ 0.59

ที่มาข้อมูล

https://maejopoll.mju.ac.th/poll.aspx?id=5287

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ