กสม.คุยวงปิด รัฐ-ชาวบ้าน ปมที่ดินสุราษฎร์ฯ หลังเหตุยิง 4 ศพ สาหัส 1 ในรอบ 6 ปี

กสม.คุยวงปิด รัฐ-ชาวบ้าน ปมที่ดินสุราษฎร์ฯ หลังเหตุยิง 4 ศพ สาหัส 1 ในรอบ 6 ปี

20162005034038.jpg

19 พ.ค. 2559 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดการประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสมชาย หอมลออ เป็นประธานในที่ประชุม หลังจากตัวแทนของสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ กสม.ตรวจสอบข้อเท็จจริงของการละเมิดสิทธิ 

จากกรณีนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ชุมชนคลองไทรพัฒนา อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ถูกลอบสังหารถึง 5 ราย ภายในระยะเวลาเพียง 6 ปี (พ.ศ. 2553 – 2559) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2559 นายสุพจน์ กาฬสงค์ สมาชิก สกต.ถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 ประธานอนุกรรมการฯ และอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ และประสานงานไปยังหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทน สกต.ให้ร่วมชี้แจงและรับฟังการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งเพื่อหาทางออกร่วมกัน ในวันนี้ (19 พ.ค. 2559)

การประชุมดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ DSI ตัวแทน ส.ป.ก. สมาชิก สกต. ทนายความในคดี และผู้รอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารครั้งล่าสุดมาร่วมให้ข้อมูล โดยเป็นการประชุมวงปิดไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง อย่างไรก็ตามในการประชุมไม่มีตัวแทนหน่วยงานจังหวัดสุราษฏร์ธานี กสม.จึงจะมีการนัดประชุมเพื่อพูดคุย รวบรวมข้อมูลอีกครั้ง

20162005034052.jpg

สมาชิก สกต.ให้ข้อมูลว่า ความคืบหน้าในคดีลอบยิงสุพจน์ กาฬสงค์ บาดเจ็บสาหัส ขณะนี้มีผู้เข้ามามอบตัว 2 คน และได้รับการประกันตัวไปแล้ว

ส่วนกรณีความขัดแย้งกับ ส.ป.ก.ที่ต้องการให้ชาวบ้านชุมชนคลองไทรออกจากพื้นที่ ตัวแทน ส.ป.ก.ที่เข้าให้ข้อมูลต่อ กสม. ยังยืนยันตามเดิม โดยระบุว่าเพื่อจัดสรรพื้นที่ใหม่จำเป็นต้องให้ทุกกลุ่มออกจากพื้นที่ก่อน 

สำหรับกระบวนการที่ชุมชนร้องต่อศาลว่าไม่ใช่บริวารของบริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัดที่ถูกบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ ส.ป.ก.แต่เป็นกลุ่มเกษตรกรที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบพื้นที่และได้มีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับชาวบ้านให้อยู่อาศัยไปพราง ระหว่างการแก้ไขปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ชาวบ้านสู้มากว่า 9 ปี ซึ่งมีการไต่สวนไปเมื่อวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 ก.ค.2559

กรณีนี้สืบเนื่องจากศาลฎีกาจังหวัดกระบี่ ได้ตัดสินคดีระหว่างสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และบริษัทจิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่ 6255/2557 และได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2557 ที่ศาลจังหวัดกระบี่ โดยศาลได้ตัดสินคดีให้ ส.ป.ก. ชนะคดีฟ้องบริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด และให้บริษัทฯ พร้อมบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ และส่งมอบที่ดินคืนให้กับ ส.ป.ก.

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2558 เจ้าหน้าที่บังคับคดีได้นำหมายบังคับคดี เข้ามาติดบริเวณชุมชน โดยในหมายได้แจ้งให้บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัดและบริวารออกจากพื้นที่พิพาท และให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของจำเลย ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษภายใน 8 วัน นับจากวันปิดประกาศ

นอกจากนั้น คนในชุมชนยังหวั่นเกรงความไม่มั่นคงในการอยู่อาศัยในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ส.ป.ก.ระบุว่าหากชาวบ้านไม่ยินยอมออกจากพื้นที่จะมีการขอให้นายกใช้ ม.44 มาดำเนินการอย่างเด็ดขาด

“เราสร้างอาชีพ สร้างรายได้กันมากว่า 9 ปี วิถีชีวิตที่เป็นมาจะสูญเสียไปหาก ส.ป.ก.ยืนยันจะให้ออกจากพื้นที่อย่างเดียว แล้วใครจะรับผิดชอบ” เพียรรัตน์ บุญฤทธิ์ ประธานสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรภาคใต้กล่าว 

ต่อคำถามเรื่องความคุ้มค่าในต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินทำกิน ทั้งที่เกิดความสูญเสียไปหลายชีวิต ทำไปจึงยังสู้อยู่ สมาชิก สกต.กล่าวว่า ไม่สามารถเรียนกว่าคุ้มหรือไม่คุ้มได้ เพราะชาวบ้านไม่มีที่ไปแล้วจึงต้องสู้

“มันไม่คุ้มหรอก ไม่มีใครควรต้องเสียชีวิต หรือถูกคุกคาม แต่ถ้าชาวบ้านถอยก็ยิ่งไม่คุ้มไปกันใหญ่ เพราะชีวิตที่สูญเสีย ทรัพย์สิน อนาคตข้างหน้าก็จะเสียไปหมด” สมาชิก สกต.กล่าว

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

Prev

May 2025

Next

Mon

Tue

Wed

Thu

Fri

Sat

Sun

28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1

14 May 2025

Nothing to show.

เข้าสู่ระบบ