วันนี้ ( 2 พฤษภาคม) เวลา 08.00 น. ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี จำนวนกว่า 300 คน ได้ชุมนุมกันหน้าบริเวณ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ เพื่อทวงถาม กพร. ถึงกรณีที่กลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 5,800 รายชื่อ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการประกาศเขตคำขอประทานบัตร โครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ตามมาตรา 49 แห่งพ.ร.บ.แร่ ปีพ.ศ.2510 ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ระยะเวลาผ่านไปกว่า 4 เดือน ยังไม่ได้รับตอบคำจาก กพร. ตามประเด็นที่คัดค้าน
ขบวนของชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางมาถึง กพร. ในตอนเช้ามืด ซึ่งชาวบ้านทุกคนได้จัดการสถานที่ หุงหาอาหาร และปฏิบัติภารกิจส่วนตัวแล้วเสร็จ หลังจากนั้นการชุมนุมจึงได้เริ่มขึ้นในภาคเช้า โดย แกนนำชาวบ้านได้สลับกันขึ้นปราศรัยให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โปแตชฯ และทำความเข้าใจกับสาธารณชนที่ผ่านไปมาให้รับรู้ถึงที่มาของการเข้ามาชุมนุมในวันนี้ หลังจากนั้นในภาคบ่ายกลุ่มชาวบ้านจึงได้รับการประสานงานจากตัวแทน กพร. ในการจัดเวทีเจรจาระหว่าง กลุ่มชาวบ้าน กับ อธิบดีกพร. และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเหมืองแร่โปแตชฯ ของ กพร. เพื่อหาทางออกของการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
นางมณี บุณรอด แกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้ชี้แจงถึงการที่ชาวบ้านต้องมาร่วมกันปักหลักชุมนุมที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ในครั้งนี้ว่า
“ในวันนี้ที่ชาวบ้านได้พากันมา เพราะว่าเมื่อสี่เดือนที่แล้วชาวบ้านได้ยื่นรายชื่อชาวบ้านจำนวนกว่า 5,800 รายชื่อและหนังสือคัดค้านการประกาศเขตคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่อุดร เพราะในใบไต่สวนของทั้งสี่แปลงข้อมูลคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ ทางกลุ่มชาวบ้านจึงได้ทำการคัดค้านตามกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า สี่เดือนชาวบ้านไม่ได้รับคำตอบหรือการชี้แจงในประเด็นการคัดค้านของชาวบ้านแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงได้พากันมาทวงถาม และขอคำชี้แจงจาก กพร. ในวันนี้”
ด้าน นายสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้ชี้แจงและตอบข้อคำถามของชาวบ้านถึงประเด็นการคัดค้านการประกาศเขตคำขอประทานบัตรของชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ว่าประเด็นในการตอบคำถามต่างๆ ของชาวบ้านที่ส่งมาเพื่อคัดค้านการขอประทานบัตรนั้น เพิ่งจะทำแล้วเสร็จในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จึงนำมาชี้แจงเป็นรายประเด็นในวันนี้
“ในส่วนการปิดประกาศเขตคำขอประธานบัตรเหมืองแร่ฯ นั้นเมื่อมีคนมาคัดค้านก็ต้องมีการตรวจสอบ ซึ่ง การที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ มีการโต้แย้งใบไต่สวนว่ามีข้อมูลผิดพลาดไปจากสภาพข้อจริงในพื้นที่ ก็จำต้องมีการพิสูจน์ความจริงให้เกิดขึ้นถ้าหากว่าเป็นการกระทำผิดจริงโดยเจ้าหน้าที่ ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้าหากว่าผิดจริงก็ว่ากันไปตามความผิด”
ในส่วนของ นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้กล่าวว่า
“ข้อเท็จจริงจากการคัดค้านการประกาศคำขอประทานบัตรของชาวบ้าน กพร. ต้องยุติการดำเนินการทุกกระบวนการเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีใบไต่สวนที่เป็นเท็จก็ต้องมีคนรับผิด ซึ่งจะต้องมีการหารือกันทางกฎหมายในกรณีที่มีการโกหกในใบไต่สวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชการที่มีส่วนรู้เห็นจะต้องได้รับโทษ ซึ่งในความเป็นจริงข้าราชการน่าจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อยึดผลประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก ไม่ใช่เข้าข้างฝ่ายนายทุน”
สุวิทย์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาร่วมกันระหว่างฝ่ายชาวบ้าน นักวิชาการ กพร. และ ตัวแทนจากหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น จะเป็นชุดที่จะมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงการขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่โปแตช ซึ่งถ้าหากการดำเนินการข้อพิสูจน์จบกระบวนการจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ถ้าหากข้อพิสูจน์ไม่เสร็จสิ้นการขับเคลื่อนโครงการก็ไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งถ้าหากคณะกรรมการพิสูจน์ตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมาเสร็จสิ้น ก็จะเกิดประโยชน์ต่อพื้นที่อื่น เช่น พื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดสกลนคร” สุวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบรรลุข้อตกลงในเวทีเจรจาระหว่างกลุ่มชาวบ้านกับ กพร. จึงได้มีมติและจัดทำบันทึกข้อตกลงในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาการดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี และพิสูจน์ข้อเท็จจริงร่วมกันในกรณีใบไต่สวนที่เป็นเท็จ ชาวบ้านจึงพึงพอใจต่อผลที่ออกมาตามข้อเรียกร้อง โดยในช่วงค่ำ ได้มีกลุ่มเยาวชนคนฮักถิ่น ได้อาสาในการเดินตระเวนแจกใบปลิวในบริเวณรอบกระทรวงอุตสาหกรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ข้าราชการ และผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเพื่อให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจต่อการมาชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านในวันนี้
/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
นายสมพงศ์ อาษากิจ ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ศสธ.)
ตู้ ปณ.14 อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทร.086 – 2317637 อีเมล์ : ton_mekong@hotmail.com