“ปล่อยเพื่อนเรา” เสียง นศ.ส่งถึงนราธิวาส – ม.อ.ปัตตานี ขอมหา’ลัย พื้นที่ปลอดภัยทางความคิด

คลิปโดย: Media For you

สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีรณรงค์ “Free Patani Students” ร้องปล่อยตัวนักศึกษานราธิวาส ส่วนองค์การนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ขอให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางความคิด-ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับในพื้นที่ ด้านเจ้าหน้าที่เผย 2 นักศึกษารับสารภาพเอี่ยวป่วนนราธิวาส

4 เม.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุการณ์เจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อม ตรวจค้น และคุมตัวบัณฑิตและนักศึกษามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ รวมทั้งนักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว และครูอาสาสอนตาดีกา ประมาณ 20 คน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยกระแสในโลกออนไลน์เฟซบุ๊กมีการรณรงค์เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมด

“Free Patani Students” ร้องปล่อยตัวนักศึกษานราธิวาส

เฟซบุ๊กเพจ Media For you เผยแพร่กิจรรมของสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ PerMas ส่วนกรุงเทพมหานคร ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักศึกษา นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว และครูอาสาสอนตาดีกาที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา (คลิกอ่านข่าว) โดยใช้แคมเปญ “ปล่อยเพื่อนเรา” “Free Patani Students” “ปลดปล่อยเสรีภาพคืนสู่ ปาตานี ” ” หยุดคุกคามนักศึกษา” นอกจากนั้นยังระบุว่า พร้อมยกระดับท่าทีในการเคลื่อนไหวเพื่อการให้ปล่อยตัวนักศึกษา ในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2558 เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนและคุกคามเยาวชนนักศึกษา เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดโดยทันที หยุดคุกคามเยาวชนนักศึกษา และเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้การละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนการซ้อมทรมานเกิดขึ้นอีก อีกทั้งให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ในพื้นที่ปาตานี (คลิกอ่านแถลงการณ์) และในวันเดียวกัน นักศึกษาจากหลายพื้นที่ในภาคใต้ได้รวมตัวกันเข้าเยี่ยมเพื่อนในนักศึกษาที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ที่ค่ายทหารในพื้นที่ (คลิกอ่านข่าว)

ด้าน เดลินิวส์ รายงานถึงการจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงในวันนี้ (4 เม.ย. 2558) นายมูฮำหมัดเซาฟีร อาแซ ผู้ช่วยผู้ประสานงานสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) พร้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน 30 คน ร่วมแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนและคุกคามเยาวชนนักศึกษา โดยใช้เวลาแถลงการณ์และทำกิจกรรมประมาณ 1 ชั่วโมง

นายมูฮำหมัดเซาฟีร กล่าวว่า เหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นหอพักนักศึกษากิจกรรม และควบคุมตัวนักศึกษา เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือปาตานี จากสถิติการปิดล้อม ตรวจค้นและจับกุม โดยใช้กฎอัยการศึกพบว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ฉบับ 1/2557 ทั่วราชอาณาจักร และออกคำสั่งใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) มาตรา 44 ท่ามกลางความเป็นห่วงกังวลของหลายๆ ฝ่าย แต่ก็น่าเจ็บปวดสำหรับชาวปาตานี ที่ยังคงมีกฎอัยการศึกประกาศใช้ในปาตานีไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วย นำมาสู่การใช้อำนาจในการคุกคามเยาวชนนักศึกษาครั้งนี้

นายมูฮำหมัดเซาฟีร กล่าวต่อว่า สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี เป็นองค์กรทางการเมืองที่เคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพปาตานี โดยยึดหลักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้มีการปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดโดยทันทีหยุดคุกคามเยาวชนนักศึกษาและขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังเพื่อมิให้การละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนการซ้อมทรมานเกิดขึ้นอีก 

2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยที่กรุงเทพฯ ยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ในพื้นที่ปาตานีซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นจำนวนมากจากการใช้กฎอัยการศึก และถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่หล่อเลี้ยงไฟความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอด 

หลังจากเสร็จสิ้นแถลงการณ์ กลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานีได้รวมตัวกันทำกิจกรรมร้องเพลงเพื่อเรียกสันติภาพโดยร้องเพลงเป็นภาษายาวี ก่อนที่จะร้องตะโกนให้ปล่อยเพื่อนนักศึกษาที่ถูกจับกุม 

องค์การนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ร้องมหา’ลัย พื้นที่ปลอดภัยทางความคิด

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กองค์การบริหารองค์การนักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เผยแพร่แถลงการณ์ของ องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เรื่อง คัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการคุกคามการทำกิจกรรมของนักศึกษา ซึ่งระบุข้อเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจและเกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ขอให้เปิดพื้นที่กลางในการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่มีความคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ในมหาวิทยาลัยต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางความคิด และไม่มีการคุกคามของเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานอื่นๆ ทุกรูปแบบ

2.ขอให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมหรือนักศึกษาทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัว เนื่องจากทำกิจกรรมต่างๆ และหยุดการคุกคามทุกรูปแบบ เช่น การข่มขู่ ขู่เข็ญ บีบบังคับ หรือกดดันให้นักกิจกรรมหรือนักศึกษาหยุดกระทำการดังกล่าว 3.ขอให้ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไปจนนำไปสู่การคุกคาม ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประกาศใช้กฎหมายปกติโดยเร็วที่สุด และ 4.ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบที่มีผลต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะมีเชื้อชาติ สัญชาติ และนับถือศาสนาใดก็ตาม

เจ้าหน้าที่เผย 2 นักศึกษารับสารภาพเอี่ยวป่วนนราธิวาส

ส่วนมติชนออนไลน์รายงานวันนี้ (4 เม.ย.) ถึงความคืบหน้าในส่วนเจ้าหน้าที่ว่า พล.ท ปราการ ชลยุทธ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เดินทางมายังหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 46 เพื่อเยี่ยมศูนย์ซักถามและตรวจเยี่ยมการดำเนินการซักถามกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมบันทึกประวัติและตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความไม่สงบหรือไม่

พล.ท.ปราการ  กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมว่าการดำเนินการซักถามเป็นไปตามขั้นตอน กลุ่มที่ถูกเชิญตัวมาได้รับการดูแลอย่างดีได้ข้อมูลที่เป็นประโยขน์มาก โดยเฉพาะการก่อเหตุป่วนในพื้นที่ ส่วนเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมส์บนถนน ณ นคร เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการสอบสวน  2 รายสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง

author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการเว็บไซต์ citizenthaipbs.net ดูแล เรียบเรียง และรวบรวมเนื้อหาจากนักข่าวพลเมือง