สุพรรณบุรี / กรณีเกิดวาตภัย พายุฝนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนในตำบลดอนมะสังข์ และตำบลโคกโคเฒ่า ได้รับความเสียหาย หลังคา ฝาบ้าน ฯลฯ ถูกพายุพัดพังเสียหาย รวมกว่า 140 หลังคาเรือน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อบต.ในพื้นที่ พมจ.จังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สำนักงานภาคกลางและตะวันตก ได้สำรวจข้อมูลความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ประสบวาตภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนจำนวน 16 ครอบครัว
วันนี้ (30 ก.ย. 66) 13.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ณ ตำบลดอนมะสังข์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เพื่อเร่งช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ เพลิงไหม้ และไล่รื้อ ด้วยการมอบงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำหรับการซ่อมแซมบ้าน รวม 16 ครอบครัวๆ ละ 18,000 บาท รวมเป็นเงิน 288,000 บาท และมอบงบประมาณจากภาคประชาชน (คุณสมชาย – คุณรัชนี สุจิตต์ และคณะ) สำหรับการสร้างบ้าน จำนวน 1 หลัง เป็นเงิน 120,000 บาท พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากพายุพัดบ้านพังเสียหาย จำนวน 2 ครอบครัว และมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น นอกจากนี้ มีการรับมอบอาหารแช่แข็งช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย จากบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายสรชัด สุจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 หน่วยงานทีม One Home พม. จังหวัดสุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวง พม. กล่าวว่า วันนี้มีหลายหน่วยงานมาร่วมกัน คือกระทรวง พม.
กระทรวงมหาดไทย มีผู้ว่าราชการจังหวัด มี ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตินายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ มีหลายหน่วยงานมาร่วมกัน คือ กระทรวง พม. กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี เราทำงานร่วมกันมาตลอดเวลา โดยเงินแต่ละบาทที่เราเร่งรัดเพื่อแก้ไขปัญหาซ่อมแซมบ้านให้พี่น้องประชาชน และวันนี้ ทำให้เห็นว่า เราระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือกัน ถึงแม้เงินไม่ได้มีมาก แต่หัวใจสำคัญขึ้นอยู่กับความรวดเร็ว ซึ่งกระทรวง พม. โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และเราได้รับความช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี และหน่วยงานทีม One Home พม. แม้แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้เข้ามาช่วยเหลือน้ำบาดาล น้ำอุปโภคบริโภค ตลอดจนมีพรรคการเมือง ภาคธุรกิจเอกชน เข้ามาช่วยเหลืออีกด้วย เมื่อเกิดความเสียหาย
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า การสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุพัดบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมกว่า 140 หลังคาเรือน ในพื้นที่ตำบลดอนมะสังข์และโคกโคเฒ่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เราต้องทำงานใกล้ชิดกับ ปภ. ซึ่งมีการเบิกงบประมาณล่าช้า บางครั้งข้อมูลไม่ครบ ไม่ถูกต้อง เราต้องทำให้จบ ทำให้ครบ ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อจะได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ต่อไป ขณะนี้ บ้านบางส่วนได้ซ่อมแซมเสร็จแล้ว บ้านบางส่วนกำลังซ่อมแซมอยู่ ซี่งงบประมาณของกระทรวง พม. และ ปภ. จะมาถึงมือของเราแน่นอน
“วันนี้ ดีใจที่ได้มาทำงานที่กระทรวง พม. ทำให้ทราบถึงกลไกในการที่จะมาช่วยพี่น้องประชาชนต่อไป จะได้มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อยามเกิดปัญหา หน่วยงานราชการและทุกภาคส่วนในจังหวัดสุพรรณบุรี ไม่ได้ทอดทิ้งท่านไปไหน มาร่วมด้วยช่วยกัน” นายวราวุธ กล่าวในตอนท้าย
จากนั้น นายวราวุธได้มอบงบประมาณความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยในตำบลดอนมะสังข์ 15 ครอบครัว และตำบลโคกโคเฒ่า 1 ครอบครัว รวม 16 ครอบครัว ๆ ละ 18,000 บาท รวมเป็นเงิน 288,000 บาท เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาซ่อมแซมบ้านเรือน ตามโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชั่วคราว กรณี ไฟไหม้ ไล่รื้อ ภัยพิบัติ ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ (ครัวเรือนหนึ่งไม่เกิน 18,000 บาท) และหลังจากนั้น รมว.พม. พร้อมคณะได้เดินทางไปมอบบ้านที่ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แก่เจ้าของบ้านในตำบลดอนมะสังข์ จำนวน 2 ราย
อย่างไรก็ตาม นอกจากการมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนให้แก่ผู้ประสบภัยในวันนี้แล้ว ยังมีประชาชนในตำบลดอนมะสังข์อีกกว่า 140 ครัวเรือนที่บ้านเรือนเสียหายจากลมพายุในเหตุการณ์เดียวกัน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสุพรรณบุรี เช่น พมจ.สุพรรณบุรี ปภ.สุพรรณบุรี และ พอช. จะบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไปโดยเร็ว
ป้าแมว สุขเผือก อายุ 67 ปี ชาวบ้านตำบลดอนมะสังข์ บอกว่า บ้านหลังนี้อยู่กัน 4 คน เช่าที่ดินปลูกสร้างบ้านเดือนละ 300 บาท ตนเองไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ อาศัยลูกทำงานนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว
“สภาพบ้านเดิมก็ผุพังอยู่แล้ว เพราะสร้างมานาน ใช้สังกะสีทำฝาบ้านทั้ง 4 ด้าน หลังคามุงสังกะสีเหมือนกัน พอเกิดพายุฝน ลมพัดแรง หลังคาและฝาบ้านก็ปลิวไปกับลมเกือบทั้งหลัง เสียหายหมด ถ้าลำพังครอบครัวคงจะไม่มีเงินซ่อม เมื่อรัฐมนตรีมาช่วยก็ดีใจ ขอขอบคุณทุกท่านที่ทำให้ป้ามีบ้านใหม่” ป้าแมวบอกความรู้สึก
ทั้งนี้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ มีโครงการแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เช่น โครงการบ้านมั่นคง โครงการบ้านพอเพียงชนบท รวมทั้งการช่วยเหลือเร่งด่วน กรณีประสบอุบัติภัย ไฟไหม้ ไล่รื้อ ภัยพิบัติ โดยจะสนับสนุนงบประมาณเพื่อซ่อมแซมบ้านไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท
โดยที่ผ่านมา ในจังหวัดสุพรรณบุรี พอช. ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย แยกเป็น โครงการบ้านมั่นคงเมือง จำนวน 9 โครงการ รวม 655 ครัวเรือน โครงการบ้านมั่นคงชนบท 3 ตำบล รวม 868 ครัวเรือน โครงการบ้านพอเพียง (ซ่อมแซมบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน สภาพทรุดโทรม) 52 ตำบล รวม 1,492ครัวเรือน และกรณี ประสบภัยพิบัติที่ตำบลสระยายโสม อำเภออู่ทอง จำนวน 9 ครัวเรือน
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนผู้มีรายได้น้อย โดย พอช.สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจ อาชีพ รายได้ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ฯลฯ ใน จ.สุพรรณบุรี รวม 44 ตำบล
เรื่องและภาพ : สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์