โรงพยาบาลแม่สอดฝากประชาสัมพันธ์เตือนระมัดระวังดูแลสุขภาพเด็กและผู้สูงอายุในช่วงที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนและมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศในช่วงนี้เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลายชนิด ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย ทางโรงพยาบาลแม่สอดโดยนายแพทย์สมยศ กรินทราทันต์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเจ็บป่วย ตามประกาศกรมควบคุมโรค เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูฝน แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.โรคติดต่อทางระบบหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดอักเสบ 2.โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ โรคมาลาเรีย และโรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา 3.โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอหิวาตกโรคและโรคไวรัสตับอักเสบ เอ 4.โรคติดต่ออื่นๆ ได้แก่ โรคมือ เท้า ปาก และโรคเลปโตสไปโรสิส 5.ภัยสุขภาพอื่นๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อันตรายจากสัตว์มีพิษ ภัยจากฟ้าผ่า และอุบัติเหตุทางถนน
โรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ กลุ่มโรคติดต่อทางระบบหายใจ โรคปอดอักเสบและโรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปากและโรคไข้เลือดออก เนื่องจากพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก โดยโรคปอดอักเสบและโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนแออัด ดื่มน้ำสะอาด รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ไม่มีแมลงวันตอม ใช้ช้อนกลางทุกครั้งเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น และหมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ
ส่วนโรคไข้เลือดออก จะมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงลอย ติดต่อกัน 2–7 วัน มีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดเบ้าตา บางรายมีปวดท้อง อาเจียน เบื่ออาหาร มีจุดแดงเล็กๆตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาการทั่วไปคล้ายเป็นหวัด แต่มักไม่มีอาการไอ สำหรับโรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก มีการระบาดทุกปี โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนหรือช่วงเปิดเทอม ติดต่อได้โดยการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายหรืออุจจาระผู้ป่วยโดยตรง หรือทางอ้อม เช่น สัมผัสผ่านของเล่น โรคนี้ไม่มียารักษาจำเพาะ จะรักษาตามอาการ ซึ่งอาการของโรคมักเริ่มด้วยอาการไข้ เจ็บปาก รับประทานอะไรไม่ค่อยได้ เพราะมีแผลในปากเหมือนแผลร้อนใน และมีผื่นเป็นจุดแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่มากและจะหายเองใน 1 สัปดาห์ แต่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงหรืออาจทำให้เกิดสมองอักเสบ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งสัญญาณอันตราย ได้แก่ อาการซึม อ่อนแรง ชัก เดินเซ หอบ อาเจียน หากพบอาการเหล่านี้ควรนำส่งแพทย์โดยด่วน สำหรับวิธีการป้องกันโรคนี้คือการรักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อม เน้นการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหาร
////////////////////////////////////////////////////////////////