อำนาจล้นฟ้า แต่บ่เกยหันคุณค่าสรรพชีวิต

อำนาจล้นฟ้า แต่บ่เกยหันคุณค่าสรรพชีวิต

“เฮามันผู้น้อย อู้หยังไปขอหยังไปเปิ่นก็บ่สนใจ”

คำพูดติดปากของเกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือ

กลุ่มปางควาย อ.แม่จัน และ อ.เชียงแสน กลุ่มเล็ก ๆ ที่ถูกมองว่าเป็นอีกกลุ่มชนชั้นหนึ่งที่อยู่นอกสายตาผู้มีอำนาจ กำลังร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องที่ทำกินของพวกเขา และกำลังปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของทุกคน ทุกสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บริเวณเวียงหนองหล่ม

“แต่ก่อนหาปลาในหนองกิ๋น บ่าเดี่ยวนี้ต้องไปซื้อปลาบ้านมากิ๋น”

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่ไม่เข้าใจในพื้นที่
และมองข้ามอาชีพดั้งเดิมที่อยู่บริเวณเวียงหนองหล่ม

พื้นที่ 2,500 ไร่ กำลังถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นแก้มลิง โดยเหลี่ยมของโครงการที่หลอกให้ชาวบ้านเห็นด้วยจากการที่ว่าแค่ขุดลอกเพียง 93 เซนติเมตร และนำหญ้าไมยราพออกจากพื้นที่ ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างทันที โดยที่ไม่อาจเปลี่ยนกลับมาให้เป็นเช่นเดิมได้ ควาย 2,000 กว่าตัวกำลังจะไม่มีหญ้ากินและไม่สามารถออกไปนอกพื้นที่ได้เนื่องจากกำลังเข้าใกล้ฤดูทำนา ซึ่งพื้นที่นาอยู่บริเวณรอบของพื้นที่เวียงหนองหล่ม หากมีการเคลื่อนย้ายควายแต่ละฝูงออกไป ก็เกิดความเสียหายให้แก่พื้นที่นาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เข้ามาถึงเปิ่นก็มาขุด เฮาถามก็ว่า ทำตามแบบ

แต่แบบนี้ไปเปลี่ยนมาตอนไหนเฮาก็ไปฮู้”

มีการเปลี่ยนแปลงแบบในการขุดลอก โดยที่กลุ่มปางควายในพื้นที่ทราบ

พื้นที่ชุ่มน้ำ คือ พื้นที่ที่ต้องมีน้ำอยู่ ก่อให้เกิดนิเวศแก่มนุษย์ กระบือ นก แต่ถูกทำลายโดยโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่สะท้อนถึงความไม่เข้าใจในพื้นที่ก่อนทำโครงการ ณ ตอนนี้ 28 มิถุนายน 2566 พื้นที่กำลังเหลือน้อยลงทุกทีที่จะเป็นพื้นที่หากินให้แก่ กระบือ มนุษย์ และจะส่งผลให้นกพื้นถิ่น อพยพออกไปจนหมดและไม่เหลือนิเวศแบบดั่งเดิมของเวียงหน่อหล่ม

“ถ้าหื้อเป็นเหมือนเก่า ก็ต้องใจ้ตังค์นักกว่าเก่าเป๋น 2-3 เต้าปุ้นเนาะ

ตอนนี้จะยะจะใดหื้ออยู่ได้”

สำหรับผู้เขียนแล้วเป็นเสียงของคนที่จำเป็นจะต้องอยู่ในภาวะกึ่งสู้ กึ่งยอม
เพราะไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ…

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ