1
กองทุน The Rockefeller Brothers Fund ได้ออกประกาศหนึ่งวัน ก่อนที่ผู้นำโลกจะมาประชุมเรื่องสภาวะโลกร้อนที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องการจะถอนตัวออกจากการลงทุนในพลังงานฟอสซิลโดยจะลดให้เหลือไม่ถึง 1% ภายในปี 2557 นี้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสกปรกกำลังเดินไปสู่ “ก้นหอยแห่งความตาย”
2
การประกาศปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินกว่า 150 โรง ในประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในทวีปยุโรป รวมทั้งประเทศพม่าซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา แสดงให้เห็นการตกผลึกเชิงนโยบายว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่อาจเกิดขึ้นในประเทศของพวกเขาได้อีกต่อไป ประเทศส่วนใหญ่ในโลกจึงมีแนวโน้มที่ตรงกันในการประกาศหยุดใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน และสนับสนุนการผลิตใช้พลังงานหมุนเวียน
3
คำถามจึงมีอยู่ว่าเหตุใดประเทศไทยจึงประกาศสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงใหม่จำนวนหลายโรง ทั้งที่ประเทศเรามีทรัพยากรมากมาย รวมทั้งเป็นประเทศเขตร้อนที่สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินครั้งนี้แฝงนัยยะของการรับใช้ทุนพลังงานใช่หรือไม่ จึงเร่งรัดผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ข้อสังเกตคือมีกลุ่มทุนพลังงานได้ทำการสัมปทานเหมืองถ่านหินไว้แล้ว โดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ทำให้เรา – ประชาชน ต้องตกเป็นทาสของการผูกขาดของกลุ่มทุนพลังงาน และต้องเป็นผู้รับกรรมจากผลกระทบที่ไม่อาจเยียวยาได้
4
การวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดกระบี่ทำให้ประชาชนเป็นเพียงเหยื่อของกลุ่มทุนพลังงาน
ทำให้พวกเราไม่อาจนิ่งดูดายต่อผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิตของประชาชนรวมถึงหายนะทางสิ่งแวดล้อมได้ เพราะธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นมรดกที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับลูกหลานเราในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นตามกระบวนการEIAเป็นเพียงการเล่นละครเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มทุนพลังงานเท่านั้น เราจึงไม่สามารถยอมรับต่อกระบวนการดังกล่าวได้ เพราะยุทธศาสตร์ของเราชัดเจนแล้วว่า เราไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงกระบวนการเพื่อที่จะทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นได้อีกต่อไป
5
กระบวนการ ค.3 ในวันนี้เป็นไปเพื่อการสร้างความชอบธรรมให้กระทรวงพลังงานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่ตรงกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดกระบี่ที่ต้องการพลังงานสะอาด แม้ว่ากระบวนการ ค.3 จะผ่านไปได้ แต่เรายังคงยืนยันในเจตจำนงของประชาชนชาวกระบี่ ที่ไม่อาจยอมรับการให้มีโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ของจังหวัดกระบี่ได้ เราเชื่อว่าพลังอันยิ่งใหญ่และความบริสุทธิ์ใจของประชาชน มีมากกว่าการกระทำอันฉ้อฉลที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ประชาชนชาวกระบี่ขอยืนยันว่า จะร่วมกันปกป้องเมืองนี้ให้พ้นภัยจากหายนะโรงไฟฟ้าถ่านหินให้ถึงที่สุด
ด้วยพลังสำนึกรักษาแผ่นดิน
เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน 12 ต.ค. 2557
กระบี่, 12 ตุลาคม 2557— ชาวกระบี่กว่า 400 คนจาก อำเภอเมืองกระบี่, อำเภออ่าวลึก, อำเภอเหนือคลอง, อำเภอเกาะลันตา, เดินทางมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ระหว่างการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ค.3) การรวมกลุ่มคัดค้านในครั้งนี้ต้องการแสดงให้เห็นว่าชาวกระบี่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อกระทบทางสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และอาชีพความเป็นอยู่
©บารมี เต็มบุญเกียรติ/ กรีนพีซ
กระบี่, 12 ตุลาคม 2557— ชาวกระบี่จาก อำเภอเมืองกระบี่, อำเภออ่าวลึก, อำเภอเหนือคลอง, อำเภอเกาะลันตา, เดินทางมารวมตัวกันเพื่อเพื่อชูป้าย ข้อความ ”No Coal:หยุดถ่านหิน” ที่ลานปูดำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนกระบี่ เพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ระหว่างการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ค.3) การรวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อสื่อให้เห็นว่าความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติกำลังจะถูกคุกคามจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
©บารมี เต็มบุญเกียรติ/ กรีนพีซ
กระบี่, 12 ตุลาคม 2557— ชาวกระบี่ จาก อำเภอเมืองกระบี่, อำเภออ่าวลึก, อำเภอเหนือคลอง, อำเภอเกาะลันตา, เดินรณรงค์ในตัวเมืองกระบี่ พร้อมถือป้ายข้อความ “No Coal:หยุดถ่านหิน”เพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่” ระหว่างการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ค.3) การรวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อสื่อให้เห็นว่าความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติกำลังจะถูกคุกคามจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
©บารมี เต็มบุญเกียรติ/ กรีนพีซ
กระบี่, 12 ตุลาคม 2557— นายสมนึก กรดเสือ ตัวแทนจากเครือข่ายปกป้อกระบี่จากถ่านหินอ่านแถลงการณ์ เพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ระหว่างการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ค.3) การรวมกลุ่มคัดค้านในครั้งนี้ต้องการแสดงให้เห็นว่าชาวกระบี่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อกระทบทางสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และอาชีพความเป็นอยู่
©บารมี เต็มบุญเกียรติ/ กรีนพีซ