(นิวยอร์ก) – Human Rights Watch กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไทยควรเร่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับนักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงซึ่งเชื่อว่าถูกทำให้หายตัวไป มีรายงานว่า พอละจี รักจงเจริญ หรือที่รู้จักกันในนาม “บิลลี่” ถูกจับกุมในวันที่ 17 เมษายน 2557 ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จากนั้นก็ถูกปล่อยตัว แต่ตอนนี้ไม่มีใครทราบว่าเขาหายไปไหน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมตัวบิลลี่หรือหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยตัวเขาออกมา ซึ่งเขาเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีความเจ้าหน้าที่อุทยาน
แบรด อดัม ผู้อำนวยการโซนเอเชีย ของ Human Rights Watch กล่าวว่า รัฐบาลควรจะทำอะไรซักอย่างในทันทีต่อการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงคนนี้ เจ้าหน้าที่ไทยไม่ควรเงียบเฉยต่อกรณีของบิลลี่แต่ควรจะอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับบิลลี่
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บอกกับนักเคลื่อนไหวท้องถิ่น ในวันที่ 18 เมษายน 2557 ว่าบิลลี่ถูกกักตัวไว้ที่ด่านเมื่อบ่ายที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์บอกว่าบิลลี่ถูกนำตัวไปสอบถามเกี่ยวกับรังผึ้งป่าผิดกฎหมายและน้ำผึ้งป่าผิดกฎหมายจำนวน 6 ขวด ซึ่งคาดว่าเป็นของเขา หลังจากนั้นบิลลี่ก็ถูกปล่อยตัว นายชัยวัฒน์บอกว่าไม่ทราบข้อมูลหลังจากนั้นว่าบิลลี่หายไปไหน
ในช่วงเวลาที่บิลลี่หายตัวไป เขากำลังเดินทางจากหมู่บ้านของเขาไปที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไปพบชาวกะเหรี่ยงและกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพิจารณาคดีระหว่างชาวบ้านกับอุทยานแห่งชาติ, กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งชาวบ้านถูกกล่าวหาในคดีเกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าหน้าที่เผาและรื้อทำลายบ้านและทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงกว่า 20 หลังคาเรือนที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านบางกลอยบนในอุทยานแห่งชาติ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
นอกจากนี้บิลลี่ก็ยังเตรียมจะยื่นคำร้องกรณีนี้ไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งไฟล์เอกสารต่างๆก็อยู่กับตัวบิลลี่
ชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวพยายามติดต่อบิลลี่แต่ก็ไร้วี่แวว ในวันที่ 19 เมษายน 2557 ครอบครัวของบิลลี่จึงได้ร้องเรียนกับตำรวจท้องถิ่นเรื่องการหายตัวไปของเขา
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2554 มือปืนได้ยิงสังหารนักเคลื่อนไหวที่เป็นเครือข่ายของบิลลี่ชื่อ นายทัดกมล โอบอ้อม หลังจากที่นายทัดกมลได้ช่วยชาวบ้านกะเหรี่ยงรายงานการละเมิด, ทำลาย , ตัดไม้เถื่อน, ล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่อุทยาน
มกราคม 2555 มีการตั้งข้อหาหัวหน้าอุทยานแห่งชาติว่าจ้างวานฆ่านายทัดกมล ผู้ต้องหาสมรู้ร่วมคิด 4 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า แต่ถึงกระนั้นนายชัยวัฒน์ก็ไม่ได้ถูกพักงาน
ตามกฎระเบียบที่กำหนดเรื่องเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนทางอาญา การปรากฏตัวของนายชัยวัฒน์ที่อุทยานแห่งชาติจึงสร้างความหวั่นเกรงต่อชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
หากว่าตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ถ้ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐนำบุคคลไปควบคุมหรือคุมขังแล้วปฏิเสธว่าไม่ได้ควบคุมบุคคลนั้นหรือปกปิดตำแหน่งที่อยู่ของบุคคลนั้น ถือว่ารัฐกระทำความผิด โดยปกติแล้วบุคคลที่สูญหายโดยที่ไม่ได้ถูกกักตัวหรือคุมขังอยู่ในเรือนจำมักจะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกทรมาน
“อุทยานแห่งชาติน่าจะเป็นสถานที่สำหรับชื่นชมธรรมชาติและเงียบสงบ ไม่ใช่สถานที่ที่จะละเมิดสิทธิของคน” เรายังคงไม่รู้ว่าบิลลี่อยู่ที่ไหน และความหวาดกลัวก็ยังคงดำรงอยู่ในอุทยานแห่งนี้ท่ามกลางสิทธิมนุษยชนของผู้คน
20 เมษายน 2557
ที่มา http://www.hrw.org/news/2014/04/20/thailand-prominent-activist-feared-disappeared
author
